โรงพยาบาลกรุงเทพโชว์ผลประกอบการพุ่งก้าวกระโดด ชูจุดแข็งกระตุ้นการเติบโตต่อเนื่องสวนกระแสเศรษฐกิจปี ’48

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BGH) ประกาศผลประกอบการปี 2547 แข็งแกร่งขึ้น และเติบโตต่อเนื่อง ด้วยรายได้กว่า 5 พันล้านบาท พร้อมเผยแนวทางปี 2548 มุ่งเน้นการให้ประสิทธิภาพการบริหารต้นทุน พัฒนาบริการรักษาโรคเฉพาะทาง และพัฒนาเครือข่ายโรงพยาบาลต่อเนื่องเพื่อให้สามารถสนองความต้องการทุกตลาด นพ. พงษ์ศักดิ์ วิทยากร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจบริการทางการแพทย์มีการเติบโตเป็นอย่างมาก เฉพาะบริษัทในกลุ่มบริการทางการแพทย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพียงกลุ่มเดียว มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 43,700 ล้านบาท และเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งที่สุด โดยมีมูลค่าตลาดรวมเติบโตมากขึ้นถึง 1,300% เทียบกับการขยายตัวของมูลค่าตลาดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่เติบโตขึ้นประมาณ 300% เมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดในปี 2540 นอกจากนี้ กลุ่ม BGH เองซึ่งมีโรงพยาบาลต่างๆ ในเครือ 14 แห่ง มีมูลค่าตลาดคิดเป็น 44% ของมูลค่าตลาดรวมในกลุ่มธุรกิจนี้ “สำหรับเครือโรงพยาบาลกรุงเทพเอง เรามีผลประกอบการที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และมีการเติบโตในอัตราที่สูงกว่าการเติบโตเฉลี่ยของกลุ่มบริการทางการแพทย์ เรามีรายได้จากการให้บริการผู้ป่วยในปีที่ผ่านมารวม 5,274 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 71% จากปี 2546 โรงพยาบาลในเครือที่มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม คือ โรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งเจริญเติบโตประมาณ 34% และมีรายได้คิดเป็นสัดส่วนถึง 70% ของทั้งกลุ่ม และเมื่อพิจารณาจากมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ (Economic Profit) เฉพาะโรงพยาบาลกรุงเทพ มีผลกำไรเป็นบวกถึง 194.5 ล้านบาท ในขณะที่ค่าเฉลี่ยมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของทั้งกลุ่มโรงพยาบาลมีค่าติดลบถึง 61.4 ล้านบาท “การเติบโตของมูลค่าตลาดโดยรวม เป็นผลจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ประกอบด้วยกลยุทธ์ทางธุรกิจ อันเกิดจากวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร ที่ต้องการเน้นความเป็นเลิศในการรักษาพยาบาลด้วยการลงทุนในอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกันในกลุ่มโรงพยาบาลชั้นนำด้วยกัน เครือโรงพยาบาลกรุงเทพมีมูลค่าอุปกรณ์การแพทย์สูงเป็นสัดส่วน 17.2% ต่อสินทรัพย์ถาวรทั้งหมด สูงกว่าค่าเฉลี่ยของทุกโรงพยาบาลในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีสัดส่วนดังกล่าวเพียง 12.6%” “นอกจากนี้ การปรับโครงสร้างหุ้นเพื่อรวมกิจการของบริษัทร่วมและบริษัทย่อยในปีที่ผ่านมา ทำให้เราสามารถบริหารระบบจัดซื้อ และต้นทุนค่ารักษาพยาบาลและอื่นๆ ซึ่งเป็นต้นทุนทางตรงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประกอบกับ BGH มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเปิดให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทาง อีกประการหนึ่ง คือ การที่เรามีเครือข่ายโรงพยาบาลที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งให้ความสะดวกแก่ลูกค้ามาก และคุณภาพการให้บริการที่ดีเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและในระดับภูมิภาค ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นพ. พงษ์ศักดิ์กล่าว สำหรับในปี 2548 สภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังคงได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น อัตราเงินเฟ้อ และปัจจัยอื่นๆ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจโดยรวมอาจมีการขยายตัวในอัตราที่ลดลง BGH เตรียมพร้อมที่จะขยายตัวต่อในภาวะเศรษฐกิจดังกล่าว โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน การดำเนินกลยุทธ์ตั้งโรงพยาบาลเครือข่าย เพื่อให้รองรับผู้บริโภคเป้าหมายครบทุกกลุ่ม และการตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านบริการรักษาพยาบาลและบริการทางการแพทย์เฉพาะทาง ในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน BGH มีข้อได้เปรียบเนื่องจากมีโรงพยาบาลในเครือข่ายเป็นจำนวนมากถึง 14 แห่ง ทำให้สามารถลดต้นทุนในการบริหาร การจัดซื้อ และการดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การลงทุนต่อเนื่องในด้านเทคโนโลยี อุปกรณ์ทางการแพทย์ และอื่นๆ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการแก่ผู้ป่วย และการบริหารธุรกิจโดยรวม รวมทั้งทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้และผลตอบแทนการลงทุนได้มากยิ่งขึ้น สำหรับการทำการตลาดแบบแบ่งโซนทางภูมิศาสตร์และการมีหลายแบรนด์ของโรงพยาบาลในกลุ่ม คือ โรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลบีเอ็นเอช และเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ทำให้บริษัทฯ สามารถเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง ครอบคลุมพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ และให้บริการแก่ผู้ป่วยหลากหลายกลุ่มครอบคลุมทั่วถึงมาก “อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญ คือ การมุ่งพัฒนาการบริการทางการแพทย์เฉพาะทางอย่างครบวงจร ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าจะเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญอันหนึ่ง เห็นได้จากความสำเร็จในการเปิดบริการของโรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพอย่างเป็นทางการเมื่อเร็วๆ นี้ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า การสร้างความเป็นผู้นำด้านการให้บริการรักษาพยาบาลเฉพาะทางจะทำให้ BGH เติบโตได้อย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมทั้งสร้างจุดแข็งและข้อได้เปรียบ ซึ่งจะทำให้เราสามารถเพิ่มรายได้และผลตอบแทนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับความพึงพอใจให้กับลูกค้า พนักงานทุกคน และผู้ลงทุนทุกฝ่าย” นพ. พงษ์ศักดิ์ กล่าวสรุป บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินกิจการโรงพยาบาลชั้นนำในนาม “โรงพยาบาลกรุงเทพ” มาตั้งแต่ พ.ศ.2515 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการทางการแพทย์ที่ครบวงจร แก่ลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โรงพยาบาลกรุงเทพได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2000 จากกระทรวงอุตสาหกรรม และการรับรองมาตรฐานโรงพยาบาล (HA: Hospital Accreditation) จากสภาบันพัฒนาและรับรองมาตรฐานโรงพยาบาล (พรพ.) กระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนมาตรฐาน ISO 14001 ระบบจัดการสิ่งแวดล้อม และมาตรฐาน มอก. 18001/OHSASI 18001 ระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มีการลงทุนด้านการรักษาพยาบาลและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ 14 แห่ง และธุรกิจอื่นๆ ทั่วประเทศ และยังได้รับการคัดเลือกจากแพทยสภาให้เป็นสถาบันหลักในการศึกษาต่อเนื่องของแพทย์ (CME: Continuing Medical Education) แถลงข่าวในนาม : บริษัท กรุงเทพดุสิต เวชการ จำกัด (มหาชน) รายละเอียดเพิ่มเติม : โกวิท สว่างวารีสกุล ([email protected]) บริษัท โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์ จำกัด โทร. 0 2205 6613--จบ--

ข่าวกรุงเทพดุสิตเวชการ+พงษ์ศักดิ์ วิทยากรวันนี้

BDMS Wellness Clinic เดินหน้าขยายเครือข่ายสุขภาพสู่ตะวันออกกลาง เสริมพลังความร่วมมือระดับสากล

ปักหมุดไทยสู่ Wellness Hub ระดับโลก ที่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมัสกัต รัฐสุลต่านโอมาน บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic) ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันในเครือบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) นำโดย นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และ บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ได้รับเกียรติจาก นางสาววารุณี ปั้นกระจ่าง เอกอัครราชทูต ณ กรุงมัสกัต รัฐสุลต่านโอมาน เพื่อหารือแนวทางสานต่อความร่วมมือด้านสุขภาพระหว่างไทยและโอมาน

BDMS Wellness Clinic เปิดตัวแคมเปญ "Welln... สุขภาพดีไม่ใช่เรื่องบังเอิญ! — BDMS Wellness Clinic เปิดตัวแคมเปญ "Wellness Life Blueprint" ออกแบบพิมพ์เขียวสุขภาพเฉพาะคุณ เพราะสุขภาพดีออกแบบได้! บีดี...