ผู้พิชิตเอเวอร์เรสต์เตือนภัยโลกร้อน

22 Sep 2005

กรุงเทพฯ--22 ก.ย.--สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ

ในการประชุมครั้งที่ ๒๙ ของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลเพื่อคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมและ ธรรมชาติของโลก ขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ที่เมืองเดอร์บาน ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๔๘ เซอร์เอ็ดมันด์ ฮิลลารี (Edmund Hillary) นักไต่เขา ชาวนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นมนุษย์คนแรกที่พิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก และนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมคนอื่นๆ ออกมาเตือนคณะกรรมการฯ ว่าภาวะโลกร้อนกำลังส่งผลกระทบต่อเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งจะเป็นอันตราย ต่อประชาชนในพื้นที่

ภาวะโลกร้อนบนเทือกเขาหิมาลัยได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง ๕๐ ปีที่ผ่านมา มันทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงหลายครั้งจากทะเลสาบธารน้ำแข็ง และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคนในพื้นที่ ฮิลลารีกล่าวถึงปัญหาธารน้ำแข็งละลาย ซึ่งทำให้น้ำในทะเลสาบบนภูเขาสูงเอ่อล้นลงมาสร้างความเสียหายให้ประชาชนที่อยู่อาศัยด้านล่างนับหมื่นคน พร้อมย้ำในแถลงการณ์ของเขาว่า การระบายน้ำออกจากทะเลสาบก่อนที่มันจะเป็นอันตรายเป็นหนทางเดียวที่จะยุติหายนะ

ฮิลลารี และเท็นซิง นอร์เกย์ (Tenzing Norgay ) ชาวเผ่าเชอร์ปา (Sherpa) พิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกได้เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ปี ๒๔๙๖ นับจากวันนั้นถึงวันนี้ ฮิลลารีวัยใกล้ ๘๖ ปี อุทิศตนให้แก่โครงการช่วยประชาชนในเทือกเขาหิมาลัย และตอนนี้ก็กำลังเคลื่อนไหวเรื่องปัญหาอันเกี่ยวเนื่องกับภาวะโลกร้อน ทั้งนี้ ฮิลลารีต้องการให้คณะกรรมการฯ เพิ่มชื่ออุทยานแห่งชาติเอเวอร์เรสต์ของเนปาล ให้อยู่ในรายการมรดกโลกที่ตกอยู่ในอันตรายขององค์การยูเนสโกด้วย เนื่องจากการอยู่ในรายการจะทำให้ยูเนสโกมีพันธะต้องประเมินความเสี่ยงที่มีต่ออุทยาน และหามาตรการแก้ไขปัญหาร่วมกับรัฐบาลเนปาล ภาวะโลกร้อนเกิดขึ้นจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศอุตสาหกรรม ซึ่งนอกจากยอดเขาเอเวอร์เรสต์แล้ว นักอนุรักษ์ซึ่งยื่นเรื่องขอเพิ่มสถานที่สำคัญทางธรรมชาติอื่นๆ เข้าในรายการมรดกโลกที่ตกอยู่ในอันตราย ยังระบุด้วยว่าภาวะโลกร้อนส่ง ผลกระทบเสียหายต่อแนวปะการังของประเทศเบลีซ ในทะเลแคริบเบียน รวมถึงธารน้ำแข็งในประเทศเปรูด้วย คณะกรรมการฯ ขององค์การยูเนสโกมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามอนุสัญญาสหประชาชาติปี ๒๕๑๕ เกี่ยวกับการ คุ้มครองสถานที่สำคัญทางธรรมชาติและวัฒนธรรมทั่วโลก และในการประชุมระยะเวลา ๑ สัปดาห์นี้ได้มีการเสนอรายชื่อมรดกโลกแห่งใหม่ ๔๒ แห่งให้คณะกรรมการฯ พิจารณาปัจจุบันบัญชีมรดกโลกของยูเนสโก รวบรวมสถานที่อันเป็นสมบัติของโลก ซึ่งประชาคมโลกมีหน้าที่ต้องร่วมมือกันปกป้องไว้ทั้งสิ้น ๗๘๘ แห่ง ในจำนวนดังกล่าวมีอยู่ ๓๕ แห่งที่จัดว่าตกอยู่ในอันตราย

(ที่มา : โดย ผู้จัดการออนไลน์ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๔๘)--จบ--