วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ จัดโครงการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติ ครั้งที่ 7

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--23 ก.ย.--124 คอมมูนิเคชั่นส

โครงการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติ ครั้งที่ 7 7th Asian Symphonic Band and Wind Ensemble Competition ประวัติความเป็นมา วงดุริยางค์เกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 4 ในปี พ.ศ. 2395 มีทหารแตร 2 ท่านจากอังกฤษ ชื่อร้อยเอกน็อก กับร้อยเอกอิมเปย์ เป็นผู้ดูแลกองดุริยางค์ที่วังหน้าและวังหลวง ต่อมา มร. จาคอฟไฟท์ (บิดาของพระเจนดุริยางค์) ได้เข้ามารับราชการทหารอยู่ที่กองดุริยางค์กองทัพบก ระหว่างปี พ.ศ. 2410-2453 เป็นผู้ดูแลกองดุริยางค์ทหารบก ในปี พ.ศ. 2421 กองดุริยางค์ทหารเรือจัดตั้งขึ้นโดยมีอาจารย์ฟุสโก ชาวอิตาเลียนเป็นผู้ดูแล การดนตรีของไทยพัฒนาอยู่ในกองทัพตลอดเวลา จนกระทั่งปี พ.ศ. 2460 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้จัดตั้งกรมมหรสพ และตั้งวงเครื่องสายฝรั่งหลวง วงกองทหารเสือป่า โดยมีพระเจนดุริยางค์เป็นผู้ดูแล ในปี พ.ศ. 2498 พระเจนดุริยางค์ได้จัดอบรมครูลูกเสือให้มีความรู้ด้านดนตรีเพื่อควบคุมกองดุริยางค์ลูกเสือมีครูประจำกองลูกเสือทั่วประเทศเข้ารับการอบรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรียนประจำจังหวัดใหญ่ ทำให้โรงเรียนประจำจังหวัดมีวงดุริยางค์ประจำโรงเรียน ทำหน้าที่บรรเลงนำกองลูกเสือ นำขบวนกีฬา นำกิจกรรมอื่นๆ แห่ศพ แห่นาค เป็นต้น ในปี พ.ศ. 2524 กรมพลศึกษาได้ร่วมมือกับธนาคารทหารไทยได้จัดงานประกวดวงโยธวาทิตขึ้นเพื่อฉลองวันเด็กแห่งชาติ และได้เชิญวงดุริยางค์ลูกเสือ 5 โรงเรียนด้วยกันเข้าร่วมงาน ในปี พ.ศ. 2527 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าพระราชทานถ้วยรางวัลให้แก่ การประกวด วงโยวาทิตแห่งประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2531 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานถ้วยรางวัลแก่วงที่ชนะเลิศการประกวดประเภทหญิง ในปี พ.ศ. 2533 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานถ้วยรางวัลให้แก่วงผสม ชาย-หญิง ในปี พ.ศ. 2541 บริษัทสยามกลการได้จัดประกวดวงโยธวาทิตระดับประถมศึกษาประเภทเดินแถวและแปรขบวน ในปี พ.ศ. 2542 เป็นปีแรกที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดลได้จัดประกวด วงดุริยางค์ เครื่องเป่านานาชาติขึ้น และมีเงินรางวัลสูงที่สุดในประเทศไทย รางวัลชนะเลิศ เป็นเงิน 1 ล้านบาทรองชนะเลิศมี 4 รางวัลๆ ละ 1 แสนบาท ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก โดย โรงเรียนมัธยมศึกษาจากประเทศสิงคโปร์ได้รับเงินรางวัลที่ 1 และปี พ.ศ. 2543 เป็นปีที่ 2 ที่จัดให้มีการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 100 ปี แห่งวันพระราชสมภพในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โดยมี โรงเรียนสารสิทธิ์พิทยาลัยได้รับรางวัลที่ 1 และปี พ.ศ. 2544 เป็นปีที่ 3 จัดให้มีการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 220 ปี กรุงเทพมหานคร โดยโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยได้รับรางวัลที่ 1 และปี พ.ศ. 2545 เป็นปีที่ 4 จัดให้มีการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 220 ปี กรุงเทพมหานคร โดยวงดุริยางค์เดอะ ซี.วาย.ซี แบนด์ ประเทศไต้หวัน (The C.Y.C Band - Taiwan) ได้รับรางวัลที่ 1 และปี พ.ศ.2546 ได้จัดการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติขึ้นเป็นครั้งที่ 5 โดยวงดุริยางค์โรงเรียนอรรถวิทย์พาณิชยการ ได้รับรางวัลที่ 1 ในปี พ.ศ. 2547 ได้จัดการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติขึ้นเป็นครั้งที่ 6 โดยวงดุริยางค์โรงเรียนอัสสัมชัญลำปาง ได้รับรางวัลที่ 1 หลักการและเหตุผล การประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติ ครั้งที่ 7 (The Seventh Asian Symphonic Band Competition) เกิดขึ้นจากการตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพของวงดุริยางค์เครื่องเป่าที่จัดการประกวดขึ้นในประเทศไทย ให้มีความเป็นสากล และเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ และที่สำคัญที่สุดคือเป็นการจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะที่พระองค์ท่านทรงเป็นดุริยกวี เป็นอัครศิลปิน และทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยและชาวโลก โดยแต่ละวงจะบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เพลงประจำชาติ และเพลงเลือกอื่นๆ ปัจจุบันประเทศไทยมีวงดุริยางค์เครื่องเป่า (โยธวาทิต) จำนวนมาก ในแต่ละปีวงดุริยางค์เครื่องเป่าจากสถาบันต่างๆ เดินทางเพื่อไปประกวด ณ ต่างประเทศบ่อยมาก ทุกปีประเทศไทยต้องเสียดุลการค้าในการเสียค่าใช้จ่ายให้กับประเทศที่มีการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาทต่อปี ซึ่งประเทศไทยได้ส่งวงดุริยางค์เครื่องเป่าเข้าร่วมกับประเทศต่างๆ อาทิ เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อเมริกา เนเธอร์แลนด์ ฮ่องกง และแคนาดา เป็นต้น วงดุริยางค์ต่างประเทศที่จะเข้าประกวดครั้งนี้คือประเทศในทวีปเอเชียใต้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคพื้นอุษาคเนย์ ได้แก่ ประเทศสิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย ไต้หวัน บรูไน เกาหลี ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง และอินโดนีเซีย เข้าร่วมแข่งขัน ในการจัดการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติครั้งที่ 1-6 ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอย่างสูง และได้รับการยอมรับจากนานาชาติและประชาชนทั่วไป โดยมีโรงเรียนต่างๆได้ให้ความสนใจกับการจัด งานประกวดเครื่องเป่าเป็นจำนวนมาก การจัดประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติได้จัดขึ้นในประเทศไทยเป็นประจำทุกปี ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้กับวงดุริยางค์เครื่องเป่าไทยได้เข้าร่วมประกวดในระดับนานาชาติมากขึ้น ช่วยกระตุ้นบรรยากาศทางด้านศิลปวัฒนธรรมดนตรี และรวมถึงการส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลยาเสพติด รวมทั้งจะได้มีโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของตนเองด้านดนตรีในเวทีระดับนานาชาติขึ้นในประเทศไทย วัตถุประสงค์ของโครงการ 1. เพื่อรณรงค์ให้วงดุริยางค์เครื่องเป่าของโรงเรียนทั่วประเทศไทย ได้แสดงศักยภาพทางด้านดนตรีในระดับนานาชาติ 2. เพื่อรณรงค์ให้เยาวชนไทยตระหนักถึงความสำคัญของศิลปวัฒนธรรมดนตรี 3. เป็นการสร้างคุณค่าให้แก่ตนเองของเยาวชนไทยในการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยไม่ไปพึ่งพายาเสพติด ผลที่คาดว่าจะได้รับ ประเทศไทยได้เผยแพร่ชื่อเสียงทั่วเอเชีย ในการเป็นเจ้าภาพการจัดการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งของการส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเป็นการนำรายได้เข้าประเทศเนื่องจากจะมีวงดุริยางค์จากนานาชาติมาร่วมประกวด อาทิ ประเทศสิงคโปร์ จีน มาเลเซีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง เป็นต้น และเยาวชนไทยได้มีเวทีระดับนานาชาติในการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่า รวมทั้งยังได้สืบสานศิลปวัฒนธรรมดนตรี และเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในการพัฒนารสนิยมทางด้านดนตรี วัน เวลา และสถานที่ ประกวดรอบแรก วันที่ 26 – 29 ตุลาคม 2548 ณ หอแสดงดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เช้าเวลา 09:00 – 12:00 น. บ่ายเวลา 14:00 – 18:00 น. รอบชิงชนะเลิศ วันที่ 30 ตุลาคม 2548 ณ หอแสดงดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เวลา 09:00 – 16:00 น. วิธีการประกวด 1. วงบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ 1 เพลง 2. บรรเลงเพลงประจำชาติ 1 เพลง 3. บรรเลงเพลงเลือกได้มากกว่า 1 เพลง 4. เวลาการบรรเลงไม่เกิน 30 นาที 5. ประกวดในรอบแรกวันละ 5-7 วง 6. รอบชิงชนะเลิศ 5 วง 7. การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นสิ้นสุด--จบ--

ข่าววิทยาลัยดุริยางคศิลป์+พระเจนดุริยางค์วันนี้

คอนเสิร์ต "Concerto of Giving" รวมพลัง Forest Guardians Youth Choir ถ่ายทอดบทเพลงเพื่อระดมทุนร่วมปกป้องป่า และลดปัญหาฝุ่น PM2.5

หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความประทับใจและพลังแห่งการให้ ในคอนเสิร์ตการกุศล "Concerto of Giving: Virtuoso, Voices and Vision" จัดโดย Piano Academy of Bangkok ร่วมกับ 159 Chamber Orchestra เครือข่าย RoLD Fellows ศูนย์ออกแบบเพื่อสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CUD4S) และภาคีมากมายที่ร่วมเป็นสปอนเซอร์ อาทิ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน), วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศ

เป็นคอนเสิร์ตที่ครบจบทุกอารมณ์ ถูกใจทั้งค... ครบทุกอารมณ์! "bodyslam Power of The B-Side Concert" คอนเสิร์ตรวมพลังแฟนพันธุ์แท้บอดี้สแลม — เป็นคอนเสิร์ตที่ครบจบทุกอารมณ์ ถูกใจทั้งคนเล่นและคนฟังจริงๆ ก...

เทศกาลดนตรีแจ๊สนานาชาติเพื่อการเรียนรู้ (... "TIJC ชวน ช้อป ชิลล์ Art Market ริมน้ำ ผสานดนตรี ศิลปะ และ Swing Dance" — เทศกาลดนตรีแจ๊สนานาชาติเพื่อการเรียนรู้ (Thailand International Jazz Conference ...

Thailand International Jazz Conference 20... TIJC ปีที่ 16 กล้ามาก ชวนผู้ชม ฟังแจ๊สในมุมมองใหม่ — Thailand International Jazz Conference 2025 หรือ TIJC เทศกาลดนตรีแจ๊สเพื่อทุกคน เตรียมเปิดบ้านต้อนร...