ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตพันธบัตร “สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน” ที่ “AA-/Stable”

09 Sep 2005

กรุงเทพฯ--9 ก.ย.--ทริสเรทติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จัดอันดับเครดิตระดับ “AA-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” ให้แก่พันธบัตรไม่ด้อยสิทธิมูลค่า 42,000 ล้านบาทของสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) โดยสะท้อนถึงความคาดหมายที่สถาบันฯ จะยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาลจากการมีภารกิจหลักในการจัดหาเงินให้แก่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อสร้างเสถียรภาพของราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นมาตรการหนึ่งของรัฐบาลที่จะลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่อาจมีต่อภาคเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม นอกจากนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวยังสะท้อนถึงการที่รัฐบาลตัดสินใจลดภาระของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงโดยยกเลิกการชดเชยราคาน้ำมันเบนซินตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2547 และราคาน้ำมันดีเซลตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2548 เป็นต้นมา อีกทั้งยังสะท้อนถึงวงเงินที่สถาบันฯ สามารถก่อหนี้ได้ไม่เกิน 85,000 ล้านบาทตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2548

ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าการเป็นหน่วยงานสำคัญของภาครัฐในการดำเนินนโยบายด้านพลังงานทำให้สถาบันฯ จะยังคงได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลต่อไป รวมถึงการคาดการณ์ว่าจะไม่มีการนำนโยบายการชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงกลับมาใช้อีก และสถาบันฯ จะยังคงมีอำนาจตามกฎหมายในการเบิกเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปใช้ชำระหนี้ที่ก่อโดยสถาบันฯ ได้

ทริสเรทติ้งรายงานว่า ตามมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2548 ต่อกรณีการออก

ตราสารหนี้ของสถาบันฯ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการสร้างความมั่นใจว่าสถาบันฯ จะมีเงินเพียงพอที่จะชำระหนี้ตามกำหนด ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติได้มีมติที่จะสนับสนุนคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานในการบริหารสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีสถานะทางการเงินที่เข้มแข็งเพื่อให้สถาบันฯ สามารถชำระดอกเบี้ยและเงินต้นให้กับผู้ถือตราสารหนี้และเจ้าหนี้ของสถาบันฯ ได้ครบถ้วนตามกำหนดเวลา นอกจากนี้ ในกรณีที่รัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายใดใดก็ตามที่อาจส่งผลกระทบถึงฐานะทางการเงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และ/หรือความสามารถในการชำระหนี้ของสถาบันฯ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติจะประสานงานกับรัฐบาลเพื่อให้มีมาตรการในการให้ความคุ้มครองสิทธิของผู้ถือตราสารหนี้และเจ้าหนี้ของสถาบันฯ ให้ได้รับชำระหนี้อย่างครบถ้วนตามกำหนดเวลา

อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งระบุว่าปัจจัยสนับสนุนดังกล่าวถูกลดทอนลงบางส่วนจากการที่สถาบันฯ ไม่มีอำนาจในการกำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนฯ จากผู้ค้าน้ำมันเชื้อเพลิงหรือกำหนดอัตราการชดเชยราคาน้ำมันจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง นอกจากนี้ ยังมีข้อจำกัดจากการที่รัฐบาลไม่สามารถชำระหนี้หรือค้ำประกันหนี้พันธบัตรของสถาบันฯ ได้ตามกฎหมาย

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า อันดับเครดิตของพันธบัตรสะท้อนถึงโครงสร้างและลำดับการชำระหนี้ที่เหนือกว่าค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของสถาบันฯ (ยกเว้นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและสถาบันฯ ซึ่งจะเป็นลำดับที่สูงกว่าภาระหนี้ของสถาบันฯ) อาทิ ภาระการชดเชยราคาก๊าซหุงต้ม ซึ่งปรากฏในข้อกำหนดว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของสถาบันฯ และผู้ถือพันธบัตร โดยในแต่ละเดือน สถาบันฯ จะเบิกเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งหมดหลังจากหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกองทุนฯ และสถาบันฯ รวมถึงค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการออกพันธบัตรทั้งหมดสำหรับเดือนนั้น แต่ไม่รวมเงินชดเชยสำหรับผู้ค้าน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อนำไปใส่ในบัญชีเงินสะสมเพื่อการชำระหนี้ให้มีเงินเพียงพอสำหรับการชำระในวันกำหนดชำระดอกเบี้ยในงวดถัดไป หรือเงินที่จะต้องใช้ในการชำระหนี้ในวันครบกำหนดไถ่ถอนพันธบัตรที่กำลังจะถึง (แล้วแต่กรณี) และหลังจากมีจำนวนเงินในบัญชีตามข้อกำหนดแล้ว เงินที่เหลือจะนำมาใส่ในบัญชีเงินสะสมสำรองเพื่อการชำระหนี้ให้มีจำนวนเท่ากับ 5% ของจำนวนเงินต้นรวมของพันธบัตรตามมติคณะรัฐมนตรีทั้งหมดที่สถาบันฯ ออกไปแล้วในแต่ละขณะ--จบ--