นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย เปิดเผยว่า”จากการติดตามข้อมูลที่ผ่านมาของ บมจ. ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น (PICNI) และบมจ. อีสเทิร์นไวร์ (EWC) ตลาดหลักทรัพย์ฯ พบประเด็นข้อมูลที่มีความสัมพันธ์ระหว่างกันโดยเฉพาะประเด็นที่มาของรายได้ของ PICNI แหล่งเงิน และความสัมพันธ์โยงใย รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ PICNI จึงได้ประมวลข้อมูลสำคัญเพื่อผู้ลงทุนจะได้ใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ทั้ง 2 บริษัท”
ผลการดำเนินงานของ PICNI ตลาดหลักทรัพย์ฯ พบรายการที่น่าสังเกต 2 รายการ คือ การที่ PICNI รับเหมาก่อสร้างอาคารหลักสี่พลาซ่า ให้แก่บจก. เจ เจ แลนด์ เดเวลลอปเมนท์ (เจ เจ) มูลค่าโครงการ 810 ล้านบาท นั้น เจ เจ ได้มีการกู้ยืมเงินจาก EWC 331 ล้านบาท ซึ่งมีกำหนดชำระภายในสิงหาคม 2548 แต่ เจเจ ไม่สามารถชำระคืนได้ตามกำหนด ยังคงค้างชำระอยู่อีก 81 ล้านบาท
สำหรับแหล่งเงินที่ EWC ให้ เจเจ กู้นั้น มาจากการที่ EWC ต้องไปกู้ยืมระยะสั้นในรูปตั๋วแลกเงิน ซึ่ง EWC ได้เคยชี้แจงว่าจะไม่มีปัญหาในการชำระคืนตั๋วแลกเงิน เพราะมีเงินสดเหลือจากที่เคยได้ระดมทุนจากประชาชนเมื่อเดือนตุลาคม 2547
แล้วถ้ามาพิจารณาความสัมพันธ์ในเชิงการถือหุ้นและกรรมการร่วมกัน พบว่า
สำหรับกรณี PICNI และ เจ เจ ที่ PICNI ชี้แจงว่าไม่มีความสัมพันธ์กันนั้น มีข้อน่าสังเกตว่าในวันที่ตกลงเข้าทำรายการ ผู้ถือหุ้นใหญ่และกรรมการของเจ เจ คือ น.ส. อรวรรณ กาญจนชูศักดิ์ เป็นภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสของนายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน ซึ่งตระกูลลาภวิสุทธิสินเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ PICNI แม้ว่าปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่ของเจ เจ จะได้เปลี่ยนเป็นนายอนุกูล ตั้งเรืองเกียรติและ นายเฉลิมชัย ชุบผา แล้ว แต่บุคคลทั้งสองเป็นกลุ่มผู้ให้ความช่วยเหลืออดีตผู้บริหาร PICNI ที่ถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษ จากการที่งบการเงินของ PICNI แสดงฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานดีกว่าความเป็นจริง นั่นเอง
อีกกรณีคือความสัมพันธ์ระหว่าง PICNI และ EWC พบว่ามีผู้ถือหุ้นร่วมกัน 2 รายคือ นายธนะชัย โรมพันธ์ ถือหุ้นทั้ง 2 บริษัท 0.8% และนายชัยรัตน์ ลาภทรงสุข ถือหุ้นใน PICNI 2% และ EWC 0.8%
อีกรายการหนึ่งที่สร้างรายได้ให้แก่ PICNI คือรายการรับเหมาก่อสร้างสนามกอลฟ์ให้แก่บจก. ซันซิตี้กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ (ซันซิตี้) มูลค่า 369 ล้านบาท ซึ่ง PICNI แจ้งว่าไม่มีความสัมพันธ์ แต่มีข้อน่าสังเกตว่า ณ วันที่เกิดรายการ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของซันซิตี้คือนายเฉลิมชัย ชุบผา โดยมีนายทวีทรัพย์ เกริกเกียรติศักดิ์ เป็นกรรมการบริษัท ซึ่งบุคคลทั้งสองเป็นกลุ่มผู้ให้ความช่วยเหลืออดีตผู้บริหาร PICNI ที่ถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษเช่นกัน
นอกจากนี้จากการติดตามการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของ PICNI พบว่า มีการทยอยขายหุ้นมาโดยตลอด ซึ่งเป็นการขายออกก่อนวันที่จะมีการกำหนดสิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน โดยเมื่อเปรียบเทียบข้อมูลวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 มกราคม 2548 กับรายงาน 246-2 ณ เดือนสิงหาคมพบว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ PICNI ได้แก่ น.ส.สุภาพร ลาภวิสุทธิสิน ถือหุ้น 19% ลดเหลือ 11% นายธีรัชชานนท์ ลาภวิสุทธิสิน ถือหุ้น 14% ลดเหลือ 9% และ น.ส.กนกรัตน์ จิตติกุลดิลก ถือหุ้น 11% ลดเหลือ 5%
คุณสุทธิชัยกล่าวว่า “อาจมีการขายหุ้นมากกว่านี้แต่เนื่องจากไม่เข้าเกณฑ์ที่ต้องรายงาน อย่างไรก็ตามขณะนี้ PICNI อยู่ระหว่างปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อให้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งผู้ลงทุนจะสามารถเห็นรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดได้จากระบบ SETSMART ได้ในสัปดาห์หน้า”
นายสุทธิชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ตามที่ PICNI มียอดสั่งซื้อถังบรรจุก๊าซจากบจก. แสงทองไทยผลิตถัง (แสงทองไทย) เป็นมูลค่านับพันล้านบาท ขณะที่แสงทองไทยเพิ่งก่อตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2546 และมีเครื่องจักรและอุปกรณ์เพียงแปดหมื่นกว่าบาทนั้น มีประเด็นข้อสงสัยว่าการที่แสงทองไทยมีเครื่องจักรและอุปกรณ์เพียงแปดหมื่นกว่าบาท แต่สามารถส่งมอบถังบรรจุก๊าซในมูลค่าที่สูงได้นั้นเป็นไปได้อย่างไร ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบถาม”
นอกจากนั้นการที่ PICNI ชี้แจงว่าไม่มีความสัมพันธ์กับแสงทองไทย มีข้อน่าสังเกตว่า ณ วันที่เกิดรายการ ผู้ถือหุ้นใหญ่และกรรมการบริษัทแสงทองไทยคือนายธนะชัย โรมพันธ์ เป็นผู้ถือหุ้นใน PICNI และ EWC ด้วย
นายสุทธิชัย กล่าวย้ำทิ้งท้ายว่า “ขอให้ผู้ลงทุนโปรดติดตามข้อมูลของทั้งสองบริษัทอย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจลงทุนรวมทั้งติดตามคำชี้แจงของ PICNI ที่จะนำส่งภายในวันที่ 13 กันยายนนี้ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวข้างต้นมาประกอบการพิจารณาตัดสินใจซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ PICNI ซึ่งกำหนดวันจองซื้อหุ้นและชำระเงินใน วันที่ 26 ถึง 30 กันยายน นี้”
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 – 2036 / กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 – 2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 – 2049 / วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797--จบ--