กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--คิธ แอนด์ คินฯ  
                    
 
                                                                                                                                        
                                                                                                                                      7 เดือนแรกปีนี้  มีนักธุรกิจจีนลงทุนในไทยแล้วกว่า 8 พันล้านบาท       เล็งขยายและลงทุนเพิ่มด้านโลจิสติกส์  ห้องเย็น และกิจการโรงแรม 
                                                                                                                            
                                                                                                                                      นายสาธิต ศิริรังคมานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวในการเสวนา “ กระชับความสัมพันธ์การลงทุนไทย-จีน” ซึ่งบีโอไอและสมาคมวิสาหกิจจีนในไทยได้ร่วมกันจัดขึ้นว่า จีนเป็นประเทศหนึ่งในเป้าหมายการชักจูงการลงทุนของบีโอไอ  โดยปัจจุบันจีนมีศักยภาพการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นโอกาสอันดีที่ไทยจะแสดงศักยภาพในการเป็นฐานการผลิตในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของจีน  ซึ่งการจัดเสวนาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อทำความรู้จักซึ่งกันและกัน พร้อมรับทราบปัญหาในด้านการลงทุนจากนักลงทุนจีนเพื่อหาแนวทางช่วยแก้ไขปัญหาต่อไป  
                                                                                                                                      บีโอไอได้ตั้งเป้าหมายชักจูงการลงทุนจากจีนในปี 2548 เพิ่มขึ้นจากปี 2547 อีก30% โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2548 (มกราคม-กรกฎาคม) มีมูลค่าการลงทุนจากจีนถึง 8,867  ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าของการลงทุนในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2547  ซึ่งมีมูลค่า 2,112 ล้านบาท 
                                                                                                                                      “ปัจจุบันการลงทุนของจีนในประเทศไทยส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ กระดาษ และพลาสติก เช่น บริษัท เวิลด์เบส กลุ่มบริษัทฉางตง จินเยี่ยหมิง ขณะที่การลงทุนของไทยในจีน ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจไทยเชื้อสายจีนที่เข้าไปลงทุนในกิจการหลายประเภท เช่น กลุ่มเจียไต๋ สหยูเนี่ยน“ นายสาธิต กล่าว
                                                                                                                                      เลขาธิการบีโอไอกล่าวด้วยว่า โอกาสการลงทุนระหว่างไทย-จีน ยังมีอยู่สูงโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เนื่องจากทั้งสองประเทศมีศักยภาพในด้านวัตถุดิบ รวมถึงสิทธิประโยชน์เพื่อการลงทุน นอกจากนี้ไทยยังมีศักยภาพพร้อมรองรับการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่จากจีน เช่น อุตสาหกรรมเหล็ก อีกด้วย
                                                                                                                                      ทั้งนี้ จากการเสวนานักลงทุนจีนส่วนใหญ่ยังไม่พบปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน แต่ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของกิจการที่สามารถขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับและโอกาสในการขยายกิจการ อีกทั้งมีนักลงทุนจีนหลายรายที่สนใจเข้ามาลงทุนในระบบโลจิสติกส์   กิจการโรงแรม  กิจการห้องเย็น--จบ--