บีโอไอ รุก ดึงสแกนดิเนเวียลงทุน ธุรกิจสุขภาพ-อุตฯต่อเรือยอร์ช

27 Feb 2006

กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--บีโอไอ

บีโอไอ รุกดึงลงทุนกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียใช้ศักยภาพธุรกิจท่องเที่ยวจูงใจ นักลงทุนสร้างอู่ต่อเรือยอร์ช พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจด้านสุขภาพและแหล่งท่องเที่ยวแบบลองสเตย์ในไทย

นางสาวสุดจิตร อินทรไทยวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)กล่าวถึงผลการเดินทางโรดโชว์กลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย ได้แก่ประเทศ ฟินแลนด์ สวีเดน นอร์เวย์และเดนมาร์ก ว่า บีโอไอมีนโยบายสร้างแรงจูงใจ เพื่อดึงการลงทุนภาคอุตสาหกรรมให้กับนักธุรกิจกลุ่มสแกนดิเนเวียนอกจากแรงจูงใจด้านธุรกิจการท่องเที่ยวที่ประเทศไทยมีความแข็งแกร่งอยู่แล้วโดยการเดินทางโรดโชว์ดังกล่าว ได้นำคณะนักธุรกิจไทยและนักธุรกิจจากกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียที่ลงทุนในประเทศไทยเดินทางไปร่วมงาน Helsinki Internationnal Boat Show

ที่ประเทศฟินแลนด์ พร้อมร่วมสัมมนาแลกเปลี่ยนข้อมูลการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งบีโอไอเห็นว่าประเทศฟินแลนด์มีศักยภาพในอุตสาหกรรมต่อเรือยอร์ชและประเทศไทยมีความพร้อมที่จะรองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมประเภทนี้ ทั้งปัจจัยสนับสนุนทางด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ที่โดดเด่นในภูมิภาคเอเชีย ฝีมือแรงงานที่มีคุณภาพ และบรรยากาศการท่องเที่ยวที่ดีของประเทศไทย

นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่ดีที่จะดึงการลงทุนในอุตสาหกรรมบริการด้านสุขภาพควบคู่ไปกับธุรกิจการท่องเที่ยว เพื่อสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงสถานพยาบาลชั้นนำของประเทศไทยกับธุรกิจประกันภัยในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย เพื่อให้บริการด้านสุขภาพระหว่างการท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ที่ต่ำกว่าในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียถึง 3เท่า สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพแห่งเอเชีย รวมไปถึงการลงทุนธุรกิจท่องเที่ยวลองสเตย์(long stay)ด้วย

“ปัจจุบันการลงทุนของกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียในไทยยังมีไม่มากนัก บีโอไอจึงได้ปรับมาตรการชักจูงการลงทุนเฉพาะรายอุตสาหกรรมโดยเน้นในอุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดึงการลงทุนให้มากขึ้น อีกทั้งบีโอไอต้องการสร้างช่องทางการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมให้กับนักธุรกิจจากกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย ควบคู่ไปกับช่องทางการลงทุนในธุรกิจการท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นการลงทุนที่ยั่งยืนและประเทศไทยจะได้ประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีที่ทันสมัย ขณะที่ ประเทศไทยเองมีศักยภาพรองรับการลงทุนทั้งด้านคุณภาพแรงงาน ค่าครองชีพที่ต่ำกว่า “ รองเลขาธิการบีโอไอ กล่าว

รองเลขาธิการบีโอไอ เปิดเผยด้วยว่า นอกจากการชักจูงให้นักธุรกิจฟินแลนด์มาลงทุนอู่ต่อเรือยอร์ชแล้ว นักธุรกิจจากนอร์เวย์และสวีเดนได้แสดงความสนใจอย่างจริงจังที่จะมาลงทุนในอุตสาหกรรมผลิตเส้นใยและผ้ารัดที่ใช้ในวงการแพทย์ (Medical Textile)ในไทย ส่วนเดนมาร์กนั้นบีโอไอจะมุ่งชักจูงการลงทุนในอุตสาหกรรมอาหาร

ทั้งนี้ โครงการจากกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียได้แก่ ฟินแลนด์ สวีเดน นอร์เวย์และเดนมาร์ก ได้รับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ในปี 2548 รวมทั้งสิ้น 14 โครงการ มูลค่ารวม 2,217 ล้านบาท--จบ--