พิณทองทา ชินวัตร คว้าแชมป์สมัยที่ 2 เศรษฐีหุ้นไทย 2005

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--13 ธ.ค.--ตลากหลักทรัพย์ฯ

วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ รองศาสตราจารย์วีรวรรณ พูลพิพัฒน์ รองศาสตราจารย์สุพพตา ปิยะเกศิน และผู้ช่วยศาสตราจารย์ปรีชา อัศวเดชานุกร อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการจัดอันดับ 500 เศรษฐีหุ้นไทย ต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้นับเป็นปีที่ 11 แล้ว สำหรับผลการจัดอันดับในวารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนธันวาคม 2548 ปรากฏว่า ตำแหน่งเศรษฐีหุ้นไทย 1-5 อันดับแรกในปี 2548 นี้ ยังเป็นของเศรษฐีหุ้นคนเดิม โดยอันดับ 1 ได้แก่ แชมป์เก่า พิณทองทา ชินวัตร ทายาทคนที่ 2 ของนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งครองตำแหน่งแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปีนี้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยถือหุ้นรวมมูลค่าทั้งสิ้น 19,188.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 จำนวน 1,085.93 ล้านบาท หรือรวยเพิ่มขึ้น 6.02% พิณทองทา ถือหุ้น 2 บริษัทคือ บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น (SHIN) โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นสูงเป็นอันดับ 1 ถึง 14.67% มูลค่า 18,040 ล้านบาท และหุ้นของ บมจ.เอสซี แอสเซท คอร์ปอเรชั่น (SC) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลชินวัตร อีก 28.97% มูลค่า 1,078.69 ล้านบาท ส่วนอันดับ 2 ยังคงเป็นของ บรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายของ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ซึ่งถือหุ้น SHIN สูงเป็นอันดับ 2 ในสัดส่วน 13.49% มูลค่า 16,581.64 ล้านบาท โดยรวยเพิ่มขึ้น 1,314.40 ล้านบาท หรือ 8.61% อันดับ 3 ได้แก่ อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ อดีตแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2545 และ 2546 โดยในปีนี้ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 14,903.53 ล้านบาท รวยขึ้นถึง 2,588.69 หรือ 21.02% ส่วน พานทองแท้ ชินวัตร ครองตำแหน่งเศรษฐีหุ้นอันดับ 4 ติดต่อกัน 3 ปีแล้ว โดยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 ของ SHIN ในสัดส่วน 9.80% รวมมูลค่า 12,051.96 ล้านบาท รวยขึ้น 955.34 ล้านบาท หรือ 8.61% เศรษฐีหุ้นอันดับ 5 ยังคงเป็น เปรมชัย กรรณสูต กรรมการผู้จัดการ บมจ.อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เช่นเดียวกับปีที่แล้ว โดยถือหุ้นรวมมูลค่า 8,098.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 514.51 ล้านบาท หรือ 6.78% ได้แก่ หุ้น บมจ.อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) 19.49.80% และโรงแรมโอเรียนเต็ล (OHTL) 1.70% สำหรับเศรษฐีหุ้นที่ติดอันดับ 6 ในปีนี้ขึ้นมาจากอันดับ 8 ในปีที่แล้ว ได้แก่ นิจพร จรณะจิตต์ พี่สาวของ เปรมชัย กรรณสูต ถือหุ้นมูลค่า 4,380.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 350.85 ล้านบาท หรือ 8.71% ส่วน ประวิทย์ มาลีนนท์ แห่งช่อง 3 ยังคงยืนที่อันดับ 7 แต่เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รวยลดลง 708.04 ล้านบาท หรือ 17.22% โดยถือหุ้นรวมมูลค่า 3,403.16 ล้านบาท ด้าน วิชัย เบญจรงคกุล ขึ้นจากอันดับ 9 มาอยู่อันดับ 8 ในปีนี้ แต่รวยลดลง 354.98 ล้านบาท เหลือ 3,388.41 ล้านบาท เศรษฐีหุ้นอันดับ 9 ปีนี้ตกจากอันดับ 6 ในปีที่แล้ว ได้แก่ อากู๋แกรมมี่ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ถือหุ้นรวมมูลค่า 3,352.77 ล้านบาท รวยลดลง 798.28 ล้านบาท หรือ 19.23% เศรษฐีหุ้นอันดับ 10 และ 11 ก้าวกระโดดขึ้นมาจากปีที่แล้วทั้งคู่ โดย ประยุทธ มหากิจศิริ แห่งเนสกาแฟ ขึ้นจากอันดับ 23 มาอยู่อันดับ 10 ในปีนี้ ด้วยมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นถึง 1,384.96 ล้านบาท หรือ 76.53% รวมมูลค่า 3,194.59 ล้านบาท ส่วน วิกรม กรมดิษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น (AMATA) ปีนี้เป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 11 รวยขึ้นจากอันดับ 22 ในปีที่แล้ว 758.02 ล้านบาท หรือ 36.49% สำหรับทายาทคนสุดท้องของท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งถือหุ้น SC ในจำนวนที่เท่ากันกับพิณทองทาพี่สาว 28.97% ปีนี้อันดับร่วงลงไปอยู่อันดับ 45 เทียบกับที่แล้วที่ก้าวเข้ามาติดทำเนียบเศรษฐีหุ้นในอันดับ 28 เป็นปีแรก รวยลดลง 344.07 ล้านบาท หรือ 24.18% เหลือ 1,078.69 ล้านบาท เช่นเดียวกันกับ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยาท่านนายกรัฐมนตรี อดีตแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2539, 2541 และ 2542 ที่เพิ่งกลับเข้ามาติดทำเนียบเศรษฐีหุ้นอีกครั้งเมื่อปีที่ผ่านมาในอันดับ 321 ปีนี้อันดับร่วงลงไปอยู่ที่ 397 ถือหุ้นรวมมูลค่า 116.42 ล้านบาท ลดลง 22.33% ส่วนน้องสาวของท่านนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก้าวขึ้นจากเศรษฐีหุ้นในอันดับ 65 มาอยู่อันดับ 62 ในปีนี้ รวย 820 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมมูลค่าหุ้นที่เครือญาติในตระกูลชินวัตรถือครองทั้งหมดแล้ว ปีนี้ ตระกูลชินวัตรยังคงรักษาแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยไว้ได้เป็นปีที่ 2 โดยถือหุ้น บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น (SHIN) บมจ.เอสซี แอสเซท คอร์ปอเรชั่น (SC) และ บมจ.โรงพยาบาลวิภาวดี (VHB) รวมมูลค่าทั้งสิ้น 33,199.78 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 1,656.03 ล้านบาท หรือ 5.25% ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ ตระกูลอัศวโภคิน ขยับขึ้นมาจากอันดับ 4 ในปีที่แล้ว โดยถือหุ้นรวมกันคิดเป็นมูลค่า 17,017.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,465.26 ล้านบาท หรือ 16.94% อันดับ 3 ปีนี้ตกลงจากอันดับ 2 เมื่อปีที่แล้ว ได้แก่ ตระกูลมาลีนนท์ แห่งช่อง 3 รวย 16,880.71 ล้านบาท ลดลง 3,705.12 ล้านบาท หรือ 18% ด้านตระกูลดามาพงศ์ ตกจากอันดับ 3 มาอยู่อันดับ 4 ในปีนี้ รวย 16,581.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,314.40 ล้านบาท หรือ 8.61% สำหรับตระกูลจิราธิวัฒน์ ที่มีทายาทเข้าแถวมาติดทำเนียบเศรษฐีหุ้นถึงมากที่สุดถึง 17 คน ปีนี้ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5 จากอันดับ 6 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือหุ้นรวมกันคิดเป็นมูลค่า 15,074.14 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้นถึง 7,752.04 ล้านบาท หรือ 105.87%--จบ--

ข่าวคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี+พาณิชยศาสตร์และการบัญชีวันนี้

CBS จัดวันแห่งเกียรติยศ CBS Pride Within - Together We Achieve Beyond

CBS จัดงานใหญ่ วันแห่งเกียรติยศ CBS Pride Within Together We Achieve Beyond งานมอบรางวัลคนเก่ง ส่งต่อพลังบวก สร้างแรงบันดาลใจพัฒนาตนเอง คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CBS) จัดงาน "CBS Pride Within Together We Achieve Beyond" เชิดชูเกียรติและมอบรางวัลแก่คณาจารย์ บุคลากร และนิสิตของคณะ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ มหาวิทยาลัย และคณะ อย่างต่อเนื่อง ณ อาคารมหิตลาธิเบศร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รศ.ดร.ธารทัศน์ โมกขมรรคกุล คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ

บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) หรือ HMC ... Humanica ผนึกกำลัง TBS เปิดเวทีเสวนา ขับเคลื่อน HR วงการแพทย์ไทยสู่ยุคดิจิทัล — บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) หรือ HMC ผนึกกำลังกับคณะพาณิชยศาสตร์และการ...