กรมคุมประพฤติรณรงค์ “เมาแล้วขับ ไม่ใช่แค่ปรับ จะถูกจับคุมประพฤติ” รับเทศกาลเข้าพรรษา บุกสถานีขนส่งหมอชิตเตือนสติประชาชนอย่าประมาท

13 Jul 2006

กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--อาร์เอส

กรมคุมประพฤติ จัดรณรงค์โครงการ “เมาแล้วขับ ไม่ใช่แค่ปรับ จะถูกจับคุมประพฤติ” อย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นประชาชนผู้ใช้บริการบนท้องถนน โดยเฉพาะผู้ขับขี่ยานพาหนะ ให้มีสติ และตระหนักถึงความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ขับรถขณะมึนเมา รวมถึงการเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เป็นการช่วยลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา โดยจัดงานรณรงค์ในวันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม 2549 เวลา 13.30-15.00 น. ณ สถานีขนส่งหมอชิต ถนนกำแพงเพชร 2 กรุงเทพมหานคร

โดยกิจกรรมในครั้งนี้ นายวันชัย วุจนวงศ์ อธิบดีกรมคุมประพฤติได้ให้เกียรติเป็นประธาน

เปิดงาน เวลา 14.00-14.45 น. โดยมี นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ดาราพิธีกร พร้อมด้วยเหล่าศิลปิน นักร้องจากบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ได้แก่ หวิว-ณัฐพนธ์ วงศ์สนิท, สโรชา เย็นใส, นุ่น-รมิดา ประภาสโนบล เข้าร่วมโครงการ ซึ่งในงานได้จัดให้มีการจัดนิทรรศการความรู้เกี่ยวกับพิษภัยของแอลกอฮอล์ ความรู้เรื่องกฎหมาย และบทลงโทษในลักษณะการบริการสังคม รวมทั้งการเล่นเกมส์ชิงรางวัลบนเวที พร้อมเดินขบวนรณรงค์ เชิญชวนประชาชน บริเวณด้านหน้าสถานีขนส่งหมอชิต

ทั้งนี้ โครงการเมาแล้วขับ ไม่ใช่แค่ปรับ จะถูกจับคุมประพฤติ ได้เริ่มโครงการในปี 2546 ตามมติเห็นชอบของรัฐบาล ที่ต้องการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางถนนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยกรมคุมประพฤติได้ดำเนินการ โครงการการรณรงค์และแก้ฟื้นฟูผู้กระทำผิดในคดีเมาแล้วขับ ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก มาอย่างต่อเนื่อง ปรากฏผลสำเร็จเป็นอย่างมาก จากการที่ประชาชนเกิดความตื่นตัวและตระหนักถึงอันตรายจากการเมาแล้วขับ ทำให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมีอัตราลดลงเป็นอย่างมาก ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเอง และจากการสนับสนุนของหลายหน่วยงานอีกด้วย

โดย นุ่น-รมิดา ประภาสโนบล เป็นตัวแทนศิลปินเผยความรู้สึกว่า... “โครงการฯ นี้ นับว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์สำหรับทุกคนมากเลยคะ เพราะจะช่วยเตือนสติคนที่ขับรถให้ขับรถอย่างปลอดภัยไม่ประมาทได้เป็นอย่างดี อยากให้ช่วยกันรักษากฎระเบียบจราจรบนท้องถนน ไม่ขับรถขณะมึนเมา ตั้งสติทุกครั้งในการขับขี่รถ และขับขี่รถด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยของทุกคนบนท้องถนน และช่วยลดอุบัติเหตุ ทึ่อาจจะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตหรือพิการจนไม่สามารถมีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขได้ อยากให้ผู้ขับขี่ทุกท่านควรตระหนักถึงความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของตนเองและผู้อื่นด้วยนะคะ”

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net