BEX เผย ‘เฟิร์สท์’ ระบบซื้อขายตราสารหนี้แบบเรียลไทม์ หนุนมูลค่าซื้อขายเพิ่มต่อเนื่อง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--3 ก.ค.--ตลท.

ตลาดตราสารหนี้ BEX เผยระบบซื้อขายตราสารหนี้อิเล็กทรอนิกส์หรือ ‘เฟิร์สท์’ (Firsts) หนุนมูลค่าซื้อขายเพิ่มต่อเนื่อง ในขณะที่มูลค่าคงค้างเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 271 จากสิ้นปี 2548 ตั้งเป้าภายในปี 2551 จะมีการซื้อขายตราสารหนี้ผ่าน BEX ร้อยละ 30 ของมูลค่าการซื้อขายในประเทศ มุ่งผลักดันภาคเอกชนระดมทุนด้วยการออกตราสารหนี้เพิ่ม หวังขยายขนาดมูลค่าตราสารหนี้ทั้งระบบเติบโตร้อยละ 80 ของ GDP ภายใน 5 ปี ตามเป้าหมายแผนแม่บทฯ พร้อมเดินหน้าขยายฐานนักลงทุนรายบุคคลอย่างต่อเนื่อง เตรียมจัดงาน “มหกรรม ตราสารหนี้ เพื่อประชาชน ครั้งที่ 1” ให้ความรู้เรื่องการลงทุนตราสารหนี้ที่ จ. ภูเก็ต 8 ก.ค.นี้ ดร. สันติ กีระนันทน์ ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Bond Electronic Exchange หรือ BEX) เปิดเผยว่า หลังจาก BEX ได้เริ่มใช้ระบบซื้อขายตราสารหนี้อิเล็กทรอนิกส์ หรือ ระบบเฟิร์สท์ (Firsts :Fixed Income and Related Securities Trading System) ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2549 ที่ผ่านมา ทำให้ มูลค่าการซื้อขายใน BEX ตั้งแต่เดือนมีนาคม เพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ “ระบบดังกล่าวได้อำนวยความสะดวกและรวดเร็วแก่ผู้ทำธุรกรรมผ่าน BEX ทำให้มูลค่าการซื้อขายรวมในครึ่งปีแรก สูงขึ้นเป็น 16,302.09 ล้านบาท โดยมีผู้ค้าตราสารหนี้ทำธุรกรรมผ่าน Firsts จำนวน 21 ราย ” ดร.สันติกล่าว สำหรับผู้ค้าตราสารหนี้ที่ทำธุรกรรมผ่าน Firsts ทั้ง 21 รายในปัจจุบันประกอบด้วยธนาคารพาณิชย์ 13 ราย และบริษัทหลักทรัพย์ 8 ราย ส่วนนักลงทุนสถาบันมี 16 ราย ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม 13 ราย บริษัทประกัน 2 ราย และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้ กล่าวว่า “มูลค่าคงค้างรวมของตราสารหนี้ใน BEX ณ สิ้นเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก จากการเข้าจดทะเบียนของตราสารหนี้ภาครัฐและภาคเอกชนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี รวมมูลค่าคงค้างทั้งสิ้นเป็น 2.86 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ถึงร้อยละ 271.41 โดยตราสารหนี้ที่เข้ามา จดทะเบียนใน BEX คิดเป็นร้อยละ 79.33 ของจำนวนตราสารหนี้ทั้งหมดภายในประเทศ” ในช่วงครึ่งแรกของปี 2549 มีตราสารหนี้เข้าจดทะเบียน รวมทั้งสิ้น 2.57 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นตราสารหนี้ภาครัฐ 2.51 ล้านล้านบาท และตราสารหนี้ภาคเอกชน 6.46 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ BEX จะดำเนินงานเพื่อขยายขนาดมูลค่าคงค้างตราสารหนี้ทั้งระบบให้ได้ร้อยละ 80 ของ GDP ภายใน 5 ปี โดยจะผลักดันให้ภาคเอกชนระดมทุนผ่านตราสารหนี้มากขึ้น โดยเฉพาะการส่งเสริมการออกตราสารหนี้ด้วยกระบวนการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ ( Securitization ) ดร.สันติกล่าวด้วยว่า BEX มีแผนงานที่ขยายฐานผู้ลงทุนรายบุคคลทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดกิจกรรมเสริมสร้างความเข้าใจ และกระตุ้นความสนใจในการลงทุนในตราสารหนี้ และคาดว่าภายใน 3 ปี หรือภายในปี 2551 มูลค่าซื้อขายตราสารหนี้ผ่าน BEX จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 ของมูลค่าการซื้อขายในประเทศ BEX ได้ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย จัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนในตราสารหนี้ โดยครั้งแรกนี้จะจัดงาน “มหกรรมตราสารหนี้ เพื่อประชาชน ครั้งที่ 1” ในวันเสาร์ที่ 8 กรกฎาคม 2549 นี้ ณ โรงแรมถาวรแกรนด์พลาซ่า จ.ภูเก็ต เพื่อให้มีการฝึกปฎิบัติการจัดพอร์ตตราสารหนี้ (workshop) การเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และการออกบูธนิทรรศการของธนาคารพาณิชย์ และบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งดำเนินธุรกรรมตราสารหนี้ผ่าน BEX BEX ยังมีโครงการการแข่งขันเชิงวิชาการ BEX Competition 2006 ประชันปัญญา ค้นหาเซียน Bond เพื่อส่งเสริมทักษะ ความคิด และความรู้ในเรื่องการลงทุนในตราสารหนี้และการบริหารกลุ่มสินทรัพย์แก่เยาวชนที่เป็นนิสิต นักศึกษา เป็นการแข่งขันลักษณะทีม ทีมละ 3 คน จากนิสิต นักศึกษาของมหาวิทยาลัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2549 – 3 กันยายน 2549 นอกจากนี้ ยังมีโครงการ “การซื้อขายตราสารหนี้จำลอง (Bond Trading Simulation)” ที่จะส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนได้เข้ามาฝึกฝนเสริมทักษะ และเข้าใจถึงวิธีการซื้อขายตราสารหนี้มากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในราวเดือนพฤศจิกายนนี้ สำหรับผู้สนใจข้อมูลการลงทุนหรือกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนใน BEX ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.bex.or.th หรือสอบถามที่ S-E-T Call center โทร. 0 2229 2222 ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร: ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 – 2036 / กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 – 2037/ ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 – 2049 / วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797 สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวอิเล็กทรอนิกส์+ตลาดตราสารหนี้วันนี้

เนคเทค สวทช. ปิดฉาก AI Thailand Hackathon 2025 เผยโฉมสุดยอดนักพัฒนาไทย โชว์ศักยภาพ "ปรุงโมเดล AI สู่บริการจริง" บนแพลตฟอร์ม AI for Thai

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ประกาศผลการแข่งขัน AI Thailand Hackathon 2025 ภายใต้หัวข้อ "From AI Model to Service on AI for Thai" ปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่ เผยโฉมสุดยอดทีมนักพัฒนา AI รุ่นใหม่ที่สามารถเปลี่ยนโมเดล AI ให้กลายเป็นบริการที่แข็งแกร่ง (Robust) พร้อมใช้งานจริงและต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้สำเร็จ หลังขับเคี่ยวพัฒนาโซลูชันอย่างเข้มข้นตลอด 3 วัน 2 คืน ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย การ

บีโอไอ เผยยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนครึ่... บีโอไอเผยครึ่งปีแรก ยอดลงทุนพุ่งกว่า 1 ล้านล้านบาท ย้ำไทยฐานลงทุนที่แข็งแกร่งในภูมิภาค — บีโอไอ เผยยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนครึ่งแรก ปี 2568 เติบโตต่อเน...

เอปสัน ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยี ฉลองครบ... เอปสันฉลองครบรอบ 50 ปีของแบรนด์ — เอปสัน ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยี ฉลองครบรอบ 50 ปีในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อแสดงความขอบคุณต่อลูกค้าและพันธมิตรที่...

บล.ไอร่า ประเมินสถานการณ์อัตราภาษีการค้า ... "บล.ไอร่า" ชี้ภาษี 36% สหรัฐฯ ซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยเปราะบาง ส่งออกวิกฤต! แนะลงทุนหุ้น Defensive — บล.ไอร่า ประเมินสถานการณ์อัตราภาษีการค้า 36% ที่สหรัฐเรียกเ...

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมกับ สมาคมผู้รับจั... กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจับมือ TIFFA จัดอบรม "e-Customs" — กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมกับ สมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เปิดฝึกอบรมหลักสูตร e-Customs...

เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ปี 2568 ปรับตัวดีขึ... ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิสำหรับงวดแรกปี 2568 จำนวน 24,458 ล้านบาท — เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ปี 2568 ปรับตัวดีขึ้น โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการเร่งคำสั่งซื้...