ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์

04 Apr 2006

กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--ธ.ไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ส่งสัญญาณก้าวขึ้นเป็นธนาคารอันดับที่ 3 ในขณะที่มูลค่าตลาดรวม (Market Capitalization) ขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 1 รับการก้าวเข้าสู่ปีที่ 100 อย่างภาคภูมิ และที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลพิเศษอีก 1 บาท รวมเป็นการจ่ายเงินปันผลในอัตรา 3 บาทต่อหุ้น พร้อมอนุมัติการออกหุ้นกู้/หุ้นกู้ด้อยสิทธิ ในวงเงินไม่เกิน 100,000 ล้านบาท เพื่อเตรียมรุกขยายธุรกิจต่อเนื่อง

ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2549 ของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 4 เมษายน ธนาคารได้มีการรายงานผลดำเนินงานของธนาคารในรอบปี 2548 โดยธนาคารสามารถทำกำไรสุทธิถึง 18,883 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่การก่อตั้งธนาคารในปี พ.ศ. 2449

คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวเน้นถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นอันเป็นผลสืบเนื่องจากการที่ธนาคารได้มีการพัฒนาปรับปรุงและลงทุนในระบบการดำเนินการต่างๆ ให้มีความทันสมัย หลากหลาย และตรงกับความต้องการของลูกค้ามาตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งต้องขอขอบคุณลูกค้า พนักงาน และทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยสนับสนุนให้ธนาคารมาถึงจุดนี้ จากความสำเร็จ ณ วันนี้และเพื่อเป็นการเสริมกับการที่ธนาคารกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 100 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลพิเศษอีก 1 บาท รวมเป็นการจ่ายเงินปันผลในอัตรา 3 บาทต่อหุ้น และเพื่อให้ธนาคารพร้อมในการรุกขยายธุรกิจไปในอนาคตได้อย่างเต็มที่ ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นได้อนุมัติการออกหุ้นกู้/หุ้นกู้ด้อยสิทธิ ในวงเงินไม่เกิน 100,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมในเรื่องดังกล่าวด้วย

ดร. วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ได้กล่าวเสริมเพื่อให้ความมั่นใจแก่ลูกค้าและผู้ถือหุ้นทุกท่านว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นธนาคารไทยที่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประกอบธุรกิจโดยยึดมั่นหลักธรรมาภิบาลและจริยธรรมมาตลอด ธนาคารมีความมั่นคง มีฐานเงินกองทุนที่สูง มีฐานผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่ง และมีความเจริญเติบโตทั้งด้านสินเชื่อและเงินฝากอย่างต่อเนื่อง เรื่องที่น่ายินดีเพิ่มเติม คือ การที่ธนาคารได้เจริญเติบโตจนมีขนาดสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยแล้ว โดยเริ่มมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2549 โดยในปัจจุบันมีขนาดสินทรัพย์อยู่ที่ประมาน 909,000 ล้านบาท อีกประการหนึ่งที่น่ายินดี คือ การที่มูลค่าตลาดรวม (Market Capitalization) ของธนาคาร (ซึ่งมาจากจำนวนหุ้นทั้งหมดคูณด้วยราคาตลาด) อันเป็นตัววัดความสำเร็จประการหนึ่งจากราคาหุ้นที่ดีขึ้นอันเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนและผู้ถือหุ้นพึงพอใจในผลดำเนินงานของธนาคาร ซึ่งในปัจจุบันมูลค่าตลาดรวมได้ขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 1 ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทย ด้วยมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาน 218, 000 ล้านบาท โดยโตขึ้นถึง 2.5 เท่าเมื่อเทียบกับมูลค่าเมื่อปี 2542 ที่เป็นระยะฟื้นตัวหลังจากวิกฤติเศรษฐกิจ นับเป็นเรื่องน่ายินดีและรับการก้าวเข้าสู่ปีที่ 100 ของธนาคารไทยพาณิชย์อย่างเต็มภาคภูมิ