ไทย จับมือ ฝรั่งเศส นำครัวไทยสู่ตลาดโลก

กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--คิธแอนด์คิน

ครัวไทยสู่โลก จับมือ INAO ฝรั่งเศส นำร่องโครงการแลกเปลี่ยน สุดยอดสินค้าไทยกับฝรั่งเศส พร้อมจัดกิจกรรม อาหารไทย กับ ไวน์ฝรั่งเศส ในงาน THAIFEX-Word of Food ASIA 2006 ยกระดับมาตรฐานอาหารไทย สู่ตลาดโลก

นายพิมล ศรีวิกรม์ รักษาการเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และประธานอนุกรรมการบริหารโครงการครัวไทยสู่โลก เปิดเผยว่า โครงการครัวไทยสู่โลก ลงนามความร่วมมือกับ INAO : Institute National Des Appellations D'Origine Controlee' (หน่วยงานรัฐบาลที่ควบคุมคุณภาพไวน์ระดับ AOC ประเทศฝรั่งเศส) เรื่องความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนเพื่อสนับสนุนอาหารไทยและไวน์ฝรั่งเศส โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศ และช่วยยกระดับการวิจัย การพัฒนาเทคโนโลยี สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ การรับรองคุณภาพมาตรฐานอาหารไทย อีกทั้งเป็นการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์จากอุตสาหกรรมของไทยให้เป็นที่รู้จักแก่ชาวต่างชาติเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งโครงการความร่วมมือดังกล่าวนี้ถือเป็นการนำร่องโครงการแลกเปลี่ยนสุดยอดสินค้าของไทย คืออาหารไทย และสุดยอดสินค้าของฝรั่งเศส คือ ไวน์ พร้อมจัดกิจกรรมอาหารไทย กับไวน์ฝรั่งเศส ในงาน THAIFEX-Word of Food Asia 2006 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-21 พฤษภาคม 2549 อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

มหกรรมอาหารไทย กับ ไวน์ฝรั่งเศส 2006 จัดขึ้นเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ ให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติได้รับรู้ว่าอาหารไทยสามารถรับประทานคู่กับไวน์ชั้นดี จากแหล่งผลิตที่มีคุณภาพของโลก นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนประเทศไทยซึ่งนำร่องโดยโครงการครัวไทยสู่โลกในการเป็นผู้นำทางการผลิตและส่งออกอาหารไทยอย่างมีเสถียรภาพ รวมถึงหาแนวทางการขยายตลาดธุรกิจร้านอาหารไทยในแหล่งที่มีโอกาสและศักยภาพสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดยุโรป ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่และมีกำลังซื้อสูง

เป้าหมายของโครงการฯเพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพร้านอาหาร โรงแรม และการท่องเที่ยวของไทยสู่ตลาดโลก ซึ่งหากสามารถจับไวน์ควบคู่กับอาหารไทยได้ ก็จะถือว่าเป็นโอกาสของอาหารไทย ที่จะเพิ่มมูลค่าและการแข่งขันในนานาประเทศทั่วโลก ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของอาหารไทยสู่ตลาดโลก

จากตัวเลข ปี 2548 จำนวนร้านอาหารไทยในยุโรปมีประมาณ 2,287 ร้าน และคาดว่าโครงการฯ นี้จะสามารถสร้างความนิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวยุโรป และทำให้ร้านอาหารไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้น 2,860 ร้าน หรือคิดเป็นร้อยละ 25 นายพิมลกล่าว

นายเรเน่ เรโนว์ ประธาน Institute National Des Appellations D' Origine Controlee' (INAO) กล่าวเสริมว่า ปัจจัยสำคัญในการเพิ่มรสชาติอาหาร และเพิ่มคุณค่าอาหารนั้น น่าพิศวงและน่าค้นหาการกิน คืออาหารแต่ละประเภทมีข้อจำกัดที่จะต้องดื่มกับไวน์บางประเภทเท่านั้น หากดื่มผิดคู่กันแล้วจะทำให้รสชาติอาหารด้อยค่าทันที แต่หากสามารถจับคู่ไวน์กับอาหารได้อย่างเหมาะสม จะส่งผลทำให้อาหารจานนั้นมีคุณค่าเพิ่มสูงขึ้นมาก ซึ่งจากการสำรวจคุณค่าทางอาหารพบว่าอาหารไทยนั้น มีรสชาติอาหารที่ดีสามารถกินควบคู่กับไวน์ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญคือ

อาหารไทยจะต้องใช้วัตถุดิบภายในประเทศเป็นส่วนประกอบในการปรุงมากกว่า 80% ดังนั้นอาหารไทยจึงมีความได้เปรียบ และมีความสามารถในการแข่งขันสูง ซึ่งไม่มีชาติใดที่จะทำให้อาหารไทยอร่อยเท่าคนไทย หากนำไวน์ฝรั่งเศสชั้นยอดที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกมาจับคู่อาหารไทยที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จะช่วยสร้างโอกาสให้กับอาหารไทยให้มีศักยภาพและบทบาทในการแข่งขันระดับนานาชาติเพิ่มมากขึ้น อีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:

ฝ่ายประชาสัมพันธ์โครงการครัวไทยสู่โลก

บ.คิธแอนด์คินฯจก.

คุณนิตยา วงศ์วิชิต

โทร.0 2663 3226 Mobile : 0 9450 3377

• ข่าวไวน์
• ข่าวมาตรฐานอาหารไทย
• ข่าวฝรั่งเศส
• ข่าวสู่ตลาดโลก
• ข่าวอาหารไทย
• ข่าวไทยสู่ตลาดโลก
• ข่าวคิธแอนด์คินฯ