โคคา – โคลา จับมือสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) หนุนการพัฒนาจัดการทรัพยากรน้ำระดับชุมชน

02 Aug 2006

กรุงเทพฯ--2 ส.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์

กลุ่มธุรกิจโคคา–โคลาในประเทศไทย ลงนามให้การสนับสนุนระยะยาวในโครงการพัฒนาการจัดการทรัพยากรน้ำระดับชุมชน ร่วมกับสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) มุ่งถ่ายทอดการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเสริมกระบวนการเรียนรู้ของชุมชนในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ในชุมชนตัวอย่างภายใต้โครงการ “Village that Learns”

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เผชิญหน้ากับปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะวิกฤตด้านน้ำ ทั้งน้ำท่วมและภัยแล้งที่เกิดจากฝนไม่ตกตามฤดูกาล ในหลายๆ ภูมิภาคทั่วประเทศ อันเป็นที่มาของการต่อยอดโครงการพัฒนาชุมชน “Village that Learns” เพื่อสร้างศักยภาพแก่ชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ด้วยการให้ความรู้และสนับสนุนเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรน้ำในชุมชนของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากภัยแล้งและน้ำท่วม

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร ได้เปิดเผยว่า “สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) เป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มุ่งพัฒนาเครือข่ายสารสนเทศของทรัพยากรน้ำและการเกษตร เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติของไทย การร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจ โคคา–โคลาในประเทศไทย จะช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ของชุมชน ให้ขยายผลและเป็นต้นแบบการจัดการทรัพยากรน้ำระดับชุมชนอย่างยั่งยืน ในหลายชุมชนทั่วประเทศ โดยโครงการนี้จะร่วมทำงานกับสมาชิกในชุมชนเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศรวบรวมข้อมูลน้ำและทรัพยากรธรรมชาติด้วยตนเอง รวมถึงการใช้ข้อมูลเหล่านั้นในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน”

มร.บียอน เจนเซ่น ผู้จัดการภูมิภาคประจำประเทศไทย บริษัท โคคา–โคลา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “กลุ่มธุรกิจโคคา–โคลาในประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะเป็นแบบอย่างของพลเมืองที่ดีในสังคมและสร้างสิ่งดีๆ ในทุกๆ ที่ ที่เราดำเนินธุรกิจ เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในความร่วมมือกับสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร และมีส่วนร่วมช่วยให้ชุมชนในภูมิภาคต่างๆ เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ทั้งทรัพยากรน้ำและการจัดการน้ำเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับเรา พวกเราทุกคนในกลุ่มธุรกิจโคคา- โคลา ตั้งแต่ระดับผู้บริหารที่สำนักงานใหญ่ไปจนถึงระดับปฏิบัติการในประเทศไทย ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ และมุ่งมั่นที่จะมีส่วนช่วยพัฒนาและใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด อันที่จริงแล้ว การพัฒนาและปกป้องแหล่งน้ำเป็นนโยบายหลักด้านกิจกรรม

เพื่อสังคมระดับโลกของเรา” ดร.รอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร ได้กล่าวถึงรายละเอียดของ “โครงการพัฒนาชุมชน Village That Learns เป็นการใช้สารสนเทศที่เหมาะสม เพื่อถ่ายทอดความรู้ข้อมูลใหม่ๆ และพัฒนาศักยภาพแก่ชุมชน เพื่อช่วยให้เกิดการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดยสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร และโคคา–โคลา จะทำงานร่วมกัน เพื่อพัฒนาชุมชน 3 แห่งในจังหวัดนครสวรรค์ บุรีรัมย์ และเชียงใหม่ ซึ่งคณะทำงานได้เริ่มลงพื้นที่สำรวจชุมชนในจังหวัดนครสวรรค์แล้ว และจะสำรวจอีก 2 ชุมชน ในเดือนสิงหาคม”

ความร่วมมือระหว่างกลุ่มธุรกิจโคคา–โคลา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตรใน ครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมศักยภาพการจัดการทรัพยากรน้ำระดับชุมชนในหลายภูมิภาคให้แข็งแกร่งขึ้น รวมทั้งสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ที่สามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน และขยายผลไปยังชุมชนอื่นๆ เชื่อมต่อเป็นเครือข่ายแห่งการเรียนรู้

ข้อมูลเบื้องต้น: สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.)

สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร เป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากโครงการระบบเครือข่ายเพื่อการจัดการทรัพยากรน้ำแห่งประเทศไทย ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ (เริ่มดำเนินการ พ.ศ. 2541) และโครงการระบบเครือข่ายสารสนเทศการเกษตร (เริ่มดำเนินการ พ.ศ.2545) โดยมีเป้าหมายหลักในการเป็นสถาบันวิจัยและพัฒนาขั้นสูงด้านการจัดการสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตรโดยเฉพาะ เพื่อนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในการรวบรวมข้อมูล พัฒนาการจัดการด้านทรัพยากรน้ำและการเกษตร และทำให้เกิดการประสานงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ เป็นเครือข่ายการพัฒนาและใช้งานระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการทรัพยากรน้ำและการเกษตร รวมทั้งเกิดเป็นระบบสนับสนุนการตัดสินใจดำเนินงานหรือกำหนดแผนงานทรัพยากรน้ำและการเกษตรของประเทศ

ข้อมูลเบื้องต้น: กลุ่มธุรกิจโคคา – โคลาในประเทศไทย

กลุ่มธุรกิจโคคา–โคลาในประเทศไทย เป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มครบวงจรประเภทพร้อมดื่มชนิดไม่มีแอลกอฮอล์ในประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด และบริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งนอกจากจะผลิตและทำการตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมแบรนด์ยอดนิยมระดับโลกอย่าง โคคา-โคลา ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าตราสินค้าสูงที่สุดในโลก กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลาในประเทศไทย ยังทำการตลาดเครื่องดื่มแบรนด์ระดับโลก

อื่นๆ ได้แก่ แฟนต้า สไปรท์ และเครื่องดื่มน้ำอัดลมประเภทไดเอท รวมถึงเครื่องดื่มที่ไม่อัดลม เช่น น้ำดื่ม น้ำผลไม้ ชา และกาแฟ เป็นต้น ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปีที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจโคคา–โคลาในประเทศไทย มีปณิธาณในการสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชนในฐานะองค์กรที่ดีในสังคมมาโดยตลอด ด้วยการสนับสนุนกิจกรรมและโครงการต่างๆ ที่จำเป็นต่อสังคมไทยและตอบสนองนโยบายเร่งด่วนของชาติ

ทุกกิจกรรมที่เราทำในแต่ละวัน มุ่งมั่นที่จะสร้างความสดชื่นให้แก่โลกทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และวิญญาณ

หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด

บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด

โทร 0-2955-0778

โทร.0-2434-8300

รัชนี รุ่งเสรีรัช

สุจินดา, แสงนภา, อัญชลี

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net