บริษัทไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) “TIES” จะเข้าจดทะเบียนในตลาด MAI ในวันพฤหัสที่ 28 กันยายน 2549

21 Sep 2006

กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--ธนชา

จากการที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ปิดทำการในวันพุธ ที่ 20 กันยายน 2549 อันเนื่องมาจากคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การปิดทำการดังกล่าวทำให้ขั้นตอนการรับหลักทรัพย์จดทะเบียนของ TIES ล่าช้ากว่ากำหนด ดังนั้นวันแรกของการเข้าซื้อขายในตลาด MAI ของหุ้นสามัญเพิ่มทุนบริษัทไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ “TIES” จึงได้กำหนดใหม่ให้เป็นวันพฤหัส ที่ 28 กันยายน 2549

ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) เชื่อมั่นว่า การเปลี่ยนแปลงการปกครองดังกล่าว น่าจะส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในระยะสั้นเท่านั้น อย่างไรก็ตามในระยะนี้คงต้องติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอย่างใกล้ชิด สำหรับบริษัทไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TIES เรามั่นใจในพื้นฐานของ TIES มาก บริษัทมีกลยุทธในการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง เราจึงคิดว่า TIES จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์บ้านเมืองเพียงเล็กน้อยและในระยะสั้นเท่านั้น ทั้งนี้ เนื่องจากลูกค้าของ TIES และงานในมือแทบทั้งหมดเป็นงานในภาคเอกชน ลูกค้ามีความจำเป็นที่ต้องขยายกำลังการผลิตหรือจำนวนอาคาร โดยได้เตรียมการล่วงหน้าไว้แล้ว ในระยะยาวการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวน่าจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรมากนัก

นายอัศวิน ชินกำธรวงศ์ ประธานกรรมการบริษัท กล่าวว่า บริษัทไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด ขอขอบคุณนักลงทุนทั้งในส่วนของสถาบันและประชาชนที่ให้การตอบรับในการจองซื้อหุ้น TIES เป็นอย่างดี จากเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงทางการเมืองของบ้านเรา บริษัทตระหนักว่า บริษัทต้องดูแลผู้ถือหุ้นและนักลงทุนของเราทุกรายให้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกให้น้อยที่สุด โดยทางตลาดหลักทรัพย์เองจำเป็นต้องหยุดทำการในวันพุธ ที่ 20 กันยายน อย่างกะทันหันทำให้ขั้นตอนการรับหลักทรัพย์ต้องเลื่อนออกไป เมื่อได้ปรึกษากับทางตลาดหลักทรัพย์และที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทจึงได้กำหนด First Day of Trading ใหม่เป็นวันพฤหัส ที่ 28 กันยายน 2549 โดยคาดว่า ภาพสถานการณ์บ้านเมืองน่าจะมีความชัดเจนขึ้น ณ ช่วงนั้น ซึ่งน่าจะเป็นผลดีกับทุกฝ่ายในระยะยาว

เผยแพร่โดย

บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)