แคนนอนประกาศวิสัยทัศน์ฉลองครบรอบ 70 ปีทั่วโลก ตั้งเป้ายอดขาย 5.6 พันล้านบาท วางเป้าครองอันดับ 1 ในตลาดพริ้นเตอร์ กล้องดิจิตอลและเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชัน

01 Mar 2007

กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--แคนนอน มาร์เก็ตติ้งฯ

ปี 49 ฟันยอดขาย 4.4 พันกว่าล้าน ยอดเติบโตทั้งบริษัทเพิ่มขึ้นรวมกว่า 32.5 % ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเครื่องอิงค์เจ็ทพริ้นเตอร์ 7 ปีซ้อน

มร.ฮิซาฮิโระ มิโนคาวะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์และแผนงานการดำเนินธุรกิจในปี 2550 ว่า “ ในปีนี้เป็นปีที่แคนนอนครบรอบ 70 ปีทั่วโลก และเพื่อเฉลิมฉลองวาระสำคัญนี้ แคนนอน ประเทศไทย ได้วางเป้าหมายความสำเร็จในด้านยอดขายของทุกผลิตภัณฑ์ทั้งในส่วนของ พริ้นเตอร์ กล้องดิจิตอล และเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังชั่น กลุ่มอิมเมจรันเนอร์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่น ๆ โดยตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 5,600 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการทำตลาดเชิงรุกครั้งสำคัญกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา เนื่องจากประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 4 ประเทศที่เป็นตลาดยุทธ์ศาสตร์สำคัญ ภายใต้โครงการ กลุ่มประเทศที่ได้รับความสำเร็จ ( Victory Country ) และได้รับงบการตลาดจากบริษัทแม่เพิ่มอีกกว่า 30 % ทั้งนี้แคนนอนมีความพร้อมที่จะส่งผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทุกกลุ่ม และครอบคลุมทุกตลาด โดยในปีนี้ แผนกคอนซูเมอร์อิมเมจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่น (Consumer Imaging and Information : CII ) มีแผนออกผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอล กล้องวิดีโอ , คอมแพ็คโฟโต้พริ้นเตอร์, ออลอินวัน พริ้นเตอร์, เลเซอร์ พริ้นเตอร์ และ ซิงเกิ้ล ฟังก์ชั่น พริ้นเตอร์ กว่า 70 รุ่นออกสู่ตลาด ขณะที่แผนกบิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น ( Business Imaging Solution : BIS) จะได้มีการออกผลิตภัณฑ์เครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่น Series 30 ในไตรมาสแรกนี้เช่นกัน พร้อมทั้งมุ่งเน้นการขยายเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจและช่องทางการจัดจำหน่ายให้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการให้ผู้บริโภคได้ลองใช้สินค้าและได้เห็นประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์จริงด้วยตนเองเพราะพรินเตอร์และกล้องดิจิตอลเป็นสินค้าที่สามารถใช้ควบคู่กันได้ดีซึ่งจะช่วยทำให้สามารถทำตลาดได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเสริมภาพให้แคนนอนมีโซลูชั่นการทำงานที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้นด้วย “

“ในปีนี้จะเป็นปีแห่งความสำเร็จของแคนนอนประเทศไทยในการก้าวไปสู่การเป็นอันดับ 1 ในตลาดกล้องดิจิตอลเมืองไทยและรักษาความเป็นอันดับผู้นำเครื่องพริ้นเตอร์อิ้งเจ็ทควบคู่ไปกับเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของเครื่องถ่ายเอกสารดิจิตอลมัลติฟังก์ชั่น พร้อมกับนำเสนอบริการระดับ 5 ดาวให้กับลูกค้า ด้วยการเพิ่มศูนย์บริการให้รองรับลูกค้าเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนปริมณฑลและภูมิภาค ที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.ขอนแก่น การปรับปรุงพัฒนาศูนย์บริการที่สำนักงานใหญ่และพันทิพย์ พลาซ่า การพัฒนาและสนับสนุนเครือข่ายการให้บริการสำหรับตัวแทนจำหน่าย รวมทั้งการเปิดศูนย์บริการลูกค้า ( Customer Care Center ) หมายเลขโทรศัพท์02-344-9888”

“สำหรับการดำเนินธุรกิจในปีที่ผ่านมา แคนนอนประสบความสำเร็จในยอดขายผลิตภัณฑ์ทุกประเภท โดยแคนนอน มีผลประกอบการรวมเพิ่มขึ้น 32.5 % มียอดขายรวมทั้งสิ้น 4,470 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์พริ้นเตอร์ ที่ยังคงรักษาความเป็นหนึ่งของผู้นำตลาดมาตลอด 7 ปีติดต่อกัน ด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงถึงกว่า 41 % ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์พริ้นเตอร์ ออลอินวัน (AIO)ยังสามารถก้าวสู่ขึ้นสู่อันดับ 2 จากอันดับ 5 ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นจาก 9 % เป็น 25% และในกลุ่มธุรกิจกล้องดิจิตอล แคนนอนมีการเติบโตมากถึง 70% เมื่อเทียบกับปี 2548 โดยครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 ในประเทศ”

“ในส่วนของแผนก บิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น ( Business Imaging Solution : BIS) ปีที่ผ่านมามีการเติบโตของยอดขายสูงถึง 20% โดยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์สูงเฉลี่ย 20 –120 % ซึ่งเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นในกลุ่ม imageRUNNER เติบโตถึง 25% ในขณะที่ ผลิตภัณฑ์กลุ่ม image PROGRAF ซึ่งเป็นเครื่องพิมพ์สีหน้ากว้าง หรือ Large Format Printer มีการเติบโตมากที่สุด นอกจากนี้ ทางแผนกบิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น จะต่อเนื่องแนวคิดที่ว่าด้วย “Business can be simple” ที่จะช่วยให้การจัดการเอกสารของคุณเป็นเรื่องง่าย ๆ และจะเปิดตัวเครื่อง imagePRESS C7000 VP มาจำหน่ายที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคในงาน PACK PRINT INTERNATIONAL ”

”ในวาระสำคัญที่ แคนนอนเฉลิมฉลอง ครบรอบ 70 ปีทั่วโลก เราจึงได้มีโครงการกิจกรรมที่เป็นประโยชน์และรับผิดชอบต่อสังคม โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทแคนนอนฯ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้จัดงานนิทรรศการภาพถ่าย "สวนของพ่อ" เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในงานพืชสวนโลก ที่จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างเดือน พฤศจิกายน 2549 – มกราคม 2550 นอกจากนี้แคนนอนยังได้จัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนด้านการศึกษาโดยการส่งพนักงานอาสาสมัครไปช่วยเหลือชุมชนต่าง ๆ อีกด้วย ซึ่งเราจะมีโครงการสนับสนุนและช่วยเหลือที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยอย่างต่อเนื่องในอนาคต ”

“แคนนอนมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะก้าวสู่ความเป็นเลิศ เพื่อยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการด้วยความตั้งใจที่จะทำให้ดีที่สุด เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งลูกค้า พนักงาน และพันธมิตรคู่ค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด แคนนอนพร้อมที่จะก้าวสู่ความเป็นบริษัทชั้นนำในประเทศไทย ” นายมิโนคาวะกล่าวสรุป

บรรยายภาพ

8C คณะผู้บริหารของ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ถ่ายภาพร่วมกันหลังจากการแถลงข่าว มร.ฮิซาฮิโระ มิโนคาวะ(ซ้าย) ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร คุณสุนทร ปัณฑรมงคล (กลาง) ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป แผนกบิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น และ คุณวรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช ( ขวา ) ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป แผนกคอนซูเมอร์อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่น

แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์)

แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2537 โดยเป็นสาขาของบริษัทแคนนอน อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น มีจำนวนพนักงานกว่า 400 คน เป็นบริษัทที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการด้านอุปกรณ์ภาพถ่ายและเครื่องใช้สำนักงานต่าง ๆ ประกอบด้วยทีมฝ่ายขายตรงและเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายกว่า 120 แห่ง พร้อมศูนย์บริการอีก 130 แห่งทั่วประเทศ

แคนนอนมีความมุ่งมั่นในการค้นคว้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง โดยจัดสรรงบประมาณจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ของรายได้รวมเพื่อการวิจัยและพัฒนาทุกปี และเป็นบริษัทที่จดสิทธิบัตรจำนวนมากที่สุด 3 อันดับแรกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนั้นแคนนอนยังเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของ Fortune Global 500 ด้วยความยึดมั่นในหลักปรัชญา “เคียวเซ (Kyosei)” ซึ่งมีสาระสำคัญว่าด้วยการใช้ชีวิตและการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์สุขของส่วนรวม แคนนอนจึงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง และใช้งานง่าย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ชีวิตทั้งในบ้านและในที่ทำงาน

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคนนอนได้ที่ www.canon.co.th

รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด

ปฐนียา ศิริประพฤทธิ์

โทร. 0 2344 9999 ต่อ 134

Email: [email protected]

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net