“มุ่งพัฒนามาร์เก็ตติ้ง” สวนกระแสตลาดซบ ดึง IMC ทุกช่องทาง หวังสร้างแบรนด์ พร้อมรุกตลาด ตจว. ขยายพอร์ตสินค้าเสริมทัพ ตั้งเป้าสิ้นปีโต 10%

07 Feb 2007

กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์

มุ่งพัฒนามาร์เก็ตติ้ง เผยยอดขายพีเจ้น เติบโตต่อเนื่องกว่า 15% สวนกระแสตลาดช่วงปลายปี 49 ซบ พร้อมโชว์ครองแชมป์ตลาดด้วยส่วนแบ่งกว่า 54% เพิ่มขึ้นจากเดิม 3% ของตลาดสินค้าแม่และเด็ก และเตรียมกลยุทธ์แนวรุกเพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำหรับแม่และเด็ก “พีเจ้น” อย่างต่อเนื่อง ด้วยการขยายพอร์ตสินค้าเสริมทัพ ก่อนรุกทำตลาดในต่างจังหวัดหวังเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ พร้อมวางแผนสร้างแบรนด์ผ่านการสื่อสารแบบครบวงจร ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปีโต 10%

นายนิรามัย ลักษณานันท์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท มุ่งพัฒนามาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมของผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กในปัจจุบันว่า ยังคงมีการแข่งขันสูงและยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ช่วงปลายปี 2549 ที่ผ่านมา จะได้รับผลกระทบจากภาวะความไม่สงบของบ้านเมืองในขณะนั้น ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการบริโภคจับจ่ายลงไปบ้าง โดยในปี 2549 ที่ผ่านมา ตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กมีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 700 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาด Super Premium ประมาณ 5% ของมูลค่าตลาดรวม Premium และ Standard 61% และ Economy 34% ของมูลค่าตลาดรวมโดยมีปัจจัยหลักที่ส่งเสริมให้ตลาดรวมสินค้าสำหรับแม่และเด็กเติบโตสูงขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในตลาดระดับ Premium เนื่องจากมีผู้ประกอบรายใหม่ที่เข้าร่วมแข่งขันในตลาดดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ส่งให้ตลาดผลิตภัณฑ์แม่และเด็กระดับพรีเมียมมีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้น และคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต

สำหรับแนวโน้มของตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กในปี 2550 นี้ คาดว่าตลาดโดยรวมยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ซึ่งจะมีทิศทางสวนกับแนวโน้มอัตราการเกิดใหม่ของเด็กที่ลดลงทุกปี โดยการเติบโตของตลาดมีการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเซกเมนต์ Premium และ Standard ทั้งนี้คาดว่า แนวโน้มการเติบโตของ เซกเมนต์ Economy จะเป็นเซกเมนต์เดียวที่มีการเติบโตลดลง เพราะคุณแม่ยุคใหม่จะเลือกซื้อสินค้าที่มีแบรนดิ้ง (Branding) ควบคู่ไปกับคุณภาพของสินค้าเป็นสำคัญ ซึ่งจะส่งผลในแง่ของการใช้งานมากกว่าความสวยงามของผลิตภัณฑ์ โดยส่วนของผลิตภัณฑ์พีเจ้นได้เปรียบกว่าคู่แข่งในเรื่องของคุณภาพของสินค้า ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาจำหน่ายแล้วพบว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมกัน ประกอบกับมุ่งเน้นที่จะผลิตสินค้าที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของเด็ก จึงทำให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคมากกว่า โดยกลุ่มสินค้าที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ชัดเจนมากที่สุดในปีนี้ คือ สินค้ากลุ่มเครื่องใช้สำหรับแม่และเด็ก Baby Accessories

“ถึงแม้ว่าอัตราการเกิดของเด็กในปัจจุบันจะมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องทุกปี เฉลี่ยปีละ 1% ส่งผลให้ภาวะการแข่งขันในตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กรุนแรงเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งแต่ละแบรนด์ต่างหากลยุทธ์ที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นยอดขายของบริษัทเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำของตลาด แต่สินค้าในตลาดระดับ Premium ณ ปัจจุบันหลายแบรนด์เน้นการใช้กลยุทธ์ด้านราคาเข้ามากระตุ้นยอดขายในลักษณะของการจัดแคมเปญราคาพิเศษเป็นช่วง ๆ ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นต่อเนื่องตลอดทั้งปีนี้ ในขณะที่พีเจ้นมองว่า คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่นั้นมักจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก เราจะขอเน้นในเรื่องภาพลักษณ์ที่ดูดี แต่ต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน และมีสินค้าที่หลากหลายเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบถ้วนอีกด้วย ” นายนิรามัย กล่าวเสริม

นายเมธิน เลิศสุมิตรกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มุ่งพัฒนามาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวว่า ในปี 2550 นี้ บริษัทจะยังคงวางตำแหน่งของผลิตภัณฑ์และแบรนด์ “พีเจ้น” ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องพัฒนาการเด็กและทารก เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา เพื่อรักษาความเป็นผู้นำของตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์แม่และเด็กอย่างต่อเนื่อง และยาวนาน โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคุณแม่ยุคใหม่ที่มีความเป็น Working Women ที่ต้องการเลี้ยงลูกด้วยตนเองควบคู่ไปกับการทำงานนอกบ้านตลอดมา โดยในปีนี้บริษัทได้วางกลยุทธ์เชิงรุกมากขึ้นด้วยงบการตลาดกว่า 20 ล้านบาท โดยบริษัทจะเน้นกลยุทธ์การสร้างความภักดีในตราสินค้า (Brand Loyalty) เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้ประกอบการทั้งรายเก่ารายใหม่เข้าร่วมในการแข่งขันในตลาดนี้เป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น รวมถึงการใช้

กลยุทธ์การขยายช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการรุกเข้าสู่ตลาดในต่างจังหวัดของบริษัทเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ ยังมีการเข้าไปโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ครอบคลุมทุกสื่อทั้ง Above the Line ทั้งหนังสือพิมพ์ นิตยสาร วิทยุ โทรทัศน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโฆษณาผ่านทางหน้านิตยสารสำหรับแม่และเด็ก และ Below the Line รวมไปถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์อีกทางหนึ่ง

สำหรับกลยุทธ์การตลาดด้านผลิตภัณฑ์ บริษัทจะเน้นการสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ (Differentiate Product) ด้วยการเพิ่มมูลค่าของสินค้าให้มีความหลากหลายและมีคุณภาพดีมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ต่อเนื่องตลอดทั้งปี รวมถึงมีการเพิ่มไลน์สินค้าในกลุ่มสินค้านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่บริษัทจะเน้นการทำตลาดในปีนี้ ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ Baby Accessories โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ขวดนม จุกนม ทั้งรุ่นคลาสสิค และรุ่นโดม รวมถึงผ้าเช็ดทำความสะอาด Pigeon Baby Wipes ซึ่งมียอดขายเป็น 3 อันดับแรกของบริษัทในปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์แผ่นซับน้ำนม และสินค้านำเข้าอีกหลายชนิด รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อีกในอนาคต ได้แก่ ถ้วยหัดดื่ม แม็ก แม็ก น้ำยาล้างขวดนม และผ้าเช็ดทำความสะอาดผิวสูตรกันยุงที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

จิดาภา ประมวลทรัพย์, สมฤทัย ผลพละ

บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด

โทร. 0-2693-7835-8 ต่อ 32, 34,

081-817-7153, 089-446-3324

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net