“คิดโด แปซิฟิค” ประกาศรุกตลาดสินค้ากลุ่มแม่และเด็กครบวงจร ทุ่มงบเปิดร้านเสริมช่องทางขายเดิม หวังกวาดยอดขายปีนี้โตได้ 30%

23 Aug 2007

กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--เอดีทูวาย คอมมิวนิเคชั่น

“คิดโด แปซิฟิค” บริษัทนำเข้าสินค้าแม่และเด็กแบรนด์ “คิคโค่ - CHICCO” จากประเทศอิตาลี ประกาศทุ่มงบกว่า 20 ล้านบาทรุกใหญ่ตลาดสินค้ากลุ่มแม่และเด็กระดับพรีเมี่ยมครบวงจร ตั้งเป้าเป็นบริษัทฯ นำเข้าสินค้ากลุ่มแม่และเด็กชั้นแนวหน้าของเมืองไทยภายใน 3 ปี พร้อมขยายช่องทางการจำหน่ายและเปิดร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์ต่างๆ ที่บริษัทฯ นำเข้าเพื่อเสริมจุดขายเดิมได้อีก 4 สาขา โดยเปิดเป็นแบบ Specialty Store เสริมด้วยระบบอี-คอมเมอร์ซ (การซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต)

นางแซนดี้ เท โลเปส กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิดโด แปซิฟิค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าสินค้าสำหรับแม่และเด็กภายใต้แบรนด์ CHICCO จากประเทศอิตาลี และแบรนด์อื่นๆ จากประเทศต่างๆ เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดตัวและทำการตลาดสำหรับสินค้าแม่และเด็กแบรนด์ CHICCO อย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากที่ได้ทยอยนำสินค้าเข้ามาทำการตลาดอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยแล้วตั้งแต่ปลายปี 2547 ที่ผ่านมา นับตั้งแต่สินค้าในกลุ่มของเล่น รถเข็นเด็ก ขวดนม เสื้อผ้า รองเท้า ฯลฯโดยพบว่าแบรนด์ CHICCO เป็นแบรนด์ที่ได้รับการตอบรับและเป็นที่รู้จักจากกลุ่มผู้บริโภคคนไทยเป็นอย่างดี

บริษัทจึงได้เพิ่มประเภทสินค้าเข้ามาทำตลาดทุกปี โดยล่าสุดได้นำเข้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการบำรุงและถนอมผิวสำหรับแม่และเด็กเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย โดยแบ่งเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการบำรุงผิวและถนอมผิวสำหรับตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนถึงหลังคลอด ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 3 ปีและผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กวัย 3 ปีขึ้นไป เพื่อเสริมให้แบรนด์ CHICCO เป็นสินค้ากลุ่มแม่และเด็กในระดับพรีเมี่ยมครบวงจรมากที่สุดในขณะนี้

ดังนั้น ปีนี้จึงเป็นปีที่บริษัทหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ CHICCO ให้เป็นที่รับรู้ของกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายมากยิ่งขึ้น โดยมีแผนลงทุนกว่า 20 ล้านบาทภายใน 3 ปีจากนี้ไป สำหรับทำการตลาด และซื้อสื่อโฆษณาทั้งซื้อสื่อโฆษณาในนิตยสารกลุ่มแม่และเด็ก เจาะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายโดยตรง รวมถึงทำกิจกรรมและโปรโมชั่นร่วมกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่มีสินค้าแบรนด์ CHICCO จำหน่ายอยู่แล้วกว่า 20 แห่งในขณะนี้

รวมทั้งลงทุนขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ในรูปแบบร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์ CHICCO ของตัวเองเพิ่มอีกจำนวน 4 แห่งภายในปี 2551 ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนการลงทุนเพื่อเปิดร้านค้าสำหรับจำหน่ายสินค้ากลุ่มแม่และเด็กโดยตรงจากทุกแบรนด์ โดยเปิดเป็นแบบ Specialty Store หรือเป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าสำหรับแม่และเด็กครบวงจร ซึ่งในขณะนี้ได้ทำเลที่ตั้งแล้ว คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ช่วงต้นปีหน้านี้เช่นกัน โดยมีเป้าหมายให้เป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าสำหรับแม่และเด็กครบวงจรในเมืองไทย

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเพิ่มโอกาสทางการตลาดด้วยระบบอี – คอมเมอร์ซ (การซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต) สำหรับกลุ่มลูกค้าประจำที่ไม่มีเวลาอีกด้วย เพื่อให้แบรนด์ได้มีโอกาสเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น สำหรับช่องทางดังกล่าวบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้เร็ว ๆ นี้

นางแซนดี้ได้กล่าวเสริมอีกว่า ตนเองเชื่อว่าตลาดกลุ่มสินค้าสำหรับแม่และเด็กในประเทศไทยนั้นยังมีโอกาสและช่องทางขยายตัวได้อีกมาก เนื่องจากกลุ่มพ่อ – แม่ยุคใหม่หันมาใส่ใจในตัวลูกมากขึ้น ต้องการให้ลูกใช้สินค้าที่มีคุณภาพดี ดังนั้นภาวะแวดล้อมเชิงเศรษฐกิจจึงส่งผลกระทบกับสินค้าในกลุ่มดังกล่าวน้อยมาก ด้วยสินค้าแบรนด์ CHICCO เป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคทั่วโลกให้การยอมรับถึงคุณภาพ มาเป็นเวลากว่า 50 ปี เพราะบริษัทแม่ผู้ผลิตสินค้าแบรนด์ CHICCO ในประเทศอิตาลี ได้ทุ่มเงินลงทุนกว่า 68 ล้านยูโรในการวิจัยและพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์

โดยก่อตั้ง “CHICCO OBSERVATORY” ซึ่งเป็นสถาบันศึกษา วิจัยและพัฒนา พฤติกรรมเกี่ยวกับเด็ก เพื่อทำการวิจัย ทดลอง ศึกษาค้นคว้า พัฒนาการและความต้องการของเด็กร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรวมถึงโรงพยาบาลต่างๆ เป็นจำนวนถึง 16 แห่ง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยคุณภาพกว่า 10,000 รายการ เพื่อตอบสนองความต้องการของเด็กๆ ในทุกช่วงวัยของการเจริญเติบโต ด้วยความเชี่ยวชาญทำให้เรามั่นใจที่จะนำสินค้าคุณภาพเยี่ยมจาก CHICCO เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย

นางแซนดี้ยังกล่าวในตอนท้ายว่า ปีนี้เป็นปีที่แบรนด์ CHICCO มีสินค้าเข้ามาทำตลาดที่ครบวงจร เพื่อเป้าหมายในการเป็น ศูนย์จัดจำหน่ายสินค้าสำหรับแม่และเด็กครบวงจร บวกกับแนวทางการทำการตลาดที่ชัดเจนในปีนี้ ทำให้บริษัทมีความมั่นใจว่าแบรนด์ CHICCO ยังมีศักยภาพในการขยายฐานตลาดและสร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้นได้อีกมาก

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

ผกากานท์ (ลูกหยี) ภู่ระโหง

โทรศัพท์ /โทรสาร 0 2910 7998 มือถือ 081 489 8419

[email protected], [email protected]

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net