ฟอร์ด-มาสด้าประกาศลงทุนเพิ่มกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ เปิดสายการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กในไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--10 ต.ค.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์

โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ในเมืองไทยที่มีมาตรฐานระดับโลก ถูกยกระดับให้เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็กเพื่อรองรับตลาดในภูมิภาคอาเซียน แอฟริกาใต้ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ศูนย์กลางการผลิตใหม่นี้จะช่วยสร้างงานในประเทศไทยทั้งทางตรงและทางอ้อมเพิ่มอีกประมาณ 8,000 ตำแหน่ง ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศแผนการร่วมลงทุนมูลค่ากว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท ในโรงงาน ผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็กแห่งใหม่ที่มีสายการผลิตที่ยืดหยุ่นของบริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) หรือเอเอที ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ของผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำระดับโลกทั้งสอง โดยผู้บริหารระดับสูงของฟอร์ดและมาสด้าร่วมกันประกาศแผนดังกล่าวในวันนี้ในกรุงเทพมหานคร โรงงานแห่งใหม่ใช้เทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ที่ทันสมัยมาก ติดตั้งระบบและกระบวนการผลิตแบบอัตโนมัติ และมีสายการผลิตที่ยืดหยุ่นสามารถผลิตรถได้หลายรุ่นในสายการผลิตเดียวเช่นเดียวกับที่ใช้ในโรงงานฉางอาน ฟอร์ด มาสด้า ออโตโมบิล ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เพิ่งเปิดดำเนินการที่เมืองนานจิงไปเมื่อเร็วๆ นี้ เอเอทีจะเริ่มผลิตรถยนต์ขนาดเล็กหรือประเภท “บี-คาร์” ของฟอร์ดและมาสด้าในพ.ศ. 2552 และในอนาคต เอเอทีจะสามารถรองรับการผลิตรถยนต์ต่างๆ หลายรุ่น รวมไปจนถึงรถยนต์นั่งขนาดกลางด้วย แผนการลงทุนในครั้งนี้ ประกอบด้วยการสร้างไลน์ขึ้นรูปรถยนต์ การประกอบตัวถัง การประกอบรายละเอียดต่างๆ รวมทั้งส่วนพ่นสีรถยนต์ซึ่งใช้กระบวนการพ่นสีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คือ กระบวนการพ่นสีแบบ three-wet technology (เทคโนโลยีใหม่สามารถพ่นทับชั้นที่ 2 และ 3 ได้เลย โดยไม่ต้องรอให้สีในแต่ละชั้นแห้ง) ที่สามารถลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และลดปริมาณฝุ่นละออง (VOC) ลงอย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงการพัฒนาคุณภาพการพ่นสีที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการขยายพื้นที่คลังเก็บรถยนต์ที่ผลิตเสร็จแล้วเพื่อรองรับปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น และการสร้างโรงอาหารใหม่สำหรับพนักงานที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ฟอร์ดและมาสด้าได้ลงทุนร่วมกันเป็นมูลค่ากว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.4 หมื่นล้านบาท แล้วในโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ (เอเอที) แห่งนี้ การลงทุนเพิ่มครั้งใหม่จะตอกย้ำถึงความสำคัญของโรงงาน เอเอที ในฐานะศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคของฟอร์ดและมาสด้า รวมทั้งแสดงถึงความมั่นใจของทั้งสองบริษัทฯ ว่าโรงงานแห่งนี้จะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่โรงงานเอเอทีได้ฉลองยอดการผลิตรถกระบะครบหนึ่งล้านคันไปเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นการบรรลุเป้าหมายการผลิตก่อนแผนที่วางไว้ถึงสองปี “การลงทุนในครั้งนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นที่เรามีต่อประเทศไทย ทั้งยังช่วยสนับสนุนในฟอร์ดมีส่วนร่วมในการเติบโตของธุรกิจยานยนต์ในภูมิภาคอาเซียน และผลักดันให้ธุรกิจยานยนต์ในภูมิภาคนี้เติบโตขึ้น" มร. จอห์น ปาร์คเกอร์ รองประธานบริหาร ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกและ แอฟริกากล่าว “ฟอร์ดและมาสด้าเป็นพันธมิตรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดรายหนึ่งในอุตสาหกรรม ยานยนต์ และแน่นอนว่าโรงงานเอเอทียังคงเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญของทั้งสองบริษัทเช่นเดียวกับ ที่ผ่านมา” ในการร่วมลงทุนครั้งใหม่นี้ ฟอร์ดและมาสด้าจะลงทุนในสัดส่วนที่เท่ากัน เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรวมของโรงงานเอเอที ทั้งรถยนต์สำเร็จรูป (CBU) และชิ้นส่วนรถยนต์ (CKD) จาก 175,000 คันต่อปีในปัจจุบัน เป็นสูงสุดถึง 275,000 คันต่อปี นอกจากการผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศแล้ว ยังจะส่งรถยนต์นั่งขนาดเล็กนี้ไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแอฟริกาใต้ด้วย “รถยนต์ขนาดเล็ก จะเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ของเราทั้งในภูมิภาคนี้และระดับโลก รถยนต์ขนาดเล็กของเรามีข้อได้เปรียบตรงที่มีความสมดุลย์ทั้งความประหยัดน้ำมันและความสามารถในการแข่งขันเป็นอย่างดีในตลาดโลก” มร. ปาร์คเกอร์กล่าวเสริม โรงงานเอเอที มีมาตรฐานระดับโลกและเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการผลิตที่มีขนาดใหญ่และทันสมัยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งปัจุบันผลิตรถกระบะฟอร์ด และมาสด้าเพื่อส่งออกไปยังกว่า 130 ประเทศทั่วโลก จากการผสานจุดแข็งของฟอร์ดและมาสด้าในการทำงาน โรงงานเอเอทีได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคอาเซียน ด้วยการยึดมั่นในคุณภาพการผลิต และการดำเนินการตามมาตรฐานและระเบียบปฏิบัติซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากลมาโดยตลอด “บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ นับเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเรา ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จในการผสานจุดแข็งของพันธมิตร ฟอร์ดและมาสด้า” มร. โรเบิร์ต กราเซียโน รองประธานบริหาร มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น กล่าว “การลงทุนครั้งนี้จะทำให้เราสามารถขยายศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ประจำภูมิภาคอาเซียน และสร้างโอกาสในการต่อยอดธุรกิจจากความชำนาญและความสำเร็จในประเทศไทยของโรงงานเอเอทีได้เป็นอย่างดี” “นอกจากการเพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์ฟอร์ดและมาสด้า การลงทุนเพิ่มขึ้นในโรงงานเอเอทีครั้งนี้ยังจะเอื้อประโยชน์ในด้านอื่นให้แก่ประเทศไทย ทั้งการสร้างงาน การสนับสนุนธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของไทย ซึ่งจะสร้างประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้แก่เศรษฐกิจไทย” มร. กราเซียโนกล่าวเสริม ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจต่อประเทศไทย ในปัจจุบัน โรงงานเอเอทีสั่งซื้อชิ้นส่วนในแต่ละปี มูลค่าประมาณ 6 หมื่นล้านบาท (1.72 พันล้านเหรียญสหรัฐ) จากผู้ผลิตชิ้นส่วน 177 ราย ซึ่งประมาณร้อยละ 90 เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของไทย ทำให้โรงงาน เอเอทีมีเครือข่ายผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของประเทศ ปัจจุบันโรงงานเอเอทีมีพนักงานประมาณ 3,600 คน ที่รวมถึงวิศวกร ช่างเทคนิค และช่างประกอบรถยนต์ที่มีความชำนาญสูง หลังจากการลงทุนในครั้งนี้ เมื่อโรงงานดังกล่าวเริ่มการผลิตในพ.ศ. 2552 โรงงานเอเอทีจะจ้างพนักงานเพิ่มอีก 2,000 ตำแหน่ง และส่งผลให้มีการสร้างงานรวมทั้งสิ้นประมาณ 6,000 ตำแหน่ง การลงทุนระยะแรก เมื่อ พ.ศ. 2538 ฟอร์ดและมาสด้า ได้ตกลงร่วมกันให้ประเทศไทยเป็นฐานในการลงทุนแและการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยได้ก่อตั้งบริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศ หลังจากที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนในปีเดียวกันนั้น เอเอทีได้ลงทุนกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ที่ทันสมัย มีกระบวนการผลิตครบวงจร นับตั้งแต่การขึ้นรูปตัวถัง การประกอบตัวถัง การพ่นสี การประกอบเครื่องยนต์ การประกอบรายละเอียดขั้นสุดท้าย และส่วนบรรจุชิ้นส่วนรถยนต์ (CKD) โดยโรงงานตั้งอยู่บนพื้นที่ 529 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรม อีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง นอกเหนือจากความสำเร็จในด้านการผลิตแล้ว เอเอทีและพนักงานยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและชุมชนโดยรอบมาโดยตลอด รวมทั้งโครงการเพื่อสังคมต่างๆ ตั้งแต่การบริจาคเพื่อสนับสนุนการจัดซื้ออุปกรณ์การศึกษา ไปจนถึงอาสาสมัครบรรเทาทุกข์ในภาวะวิกฤติ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วย ข้อมูลเกี่ยวกับฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เป็นผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลกซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเดียร์บอร์น รัฐมิชิแกน โดยเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ชั้นนำให้แก่ตลาดต่างๆ กว่า 200 แห่งทั่วทั้ง 6 ทวีป บริษัทฯ มีพนักงานทั้งสิ้นประมาณ 260,000 คน โดยเป็นผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำหลายแบรนด์ ได้แก่ ฟอร์ด, จากัวร์, แลนด์โรเวอร์, ลินคอล์น, มาสด้า, เมอร์คิวรี่ และ วอลโว่ อีกทั้งยังมีบริการที่เกี่ยวข้องมากมาย ได้แก่ ฟอร์ด มอเตอร์ เครดิต ผู้ที่สนใจสามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้ที่เว็บไซต์ www.fordvehicles.com ข้อมูลเกี่ยวกับมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2463 โดยมีสำนักงานที่เมืองฮิโรชิมา ทางตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น มาสด้า เป็นบริษัทระดับโลกที่ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากลูกค้าในกว่า 140 ประเทศทั่วโลก บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ รวมทั้งมีเครือข่ายการผลิตทั่วโลก ซึ่งได้แก่โรงงานผลิตหลัก 2 แห่งในประเทศญี่ปุ่น และโรงงานผลิตอื่นอีก 14 แห่งทั่วโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาสด้าได้ที่ www.media.mazda.com ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2538 โดยเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เพื่อผลิตรถกระบะ 1 ตันสำหรับตลาดภายในประเทศและส่งออกทั่วโลก ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ถือหุ้นเท่าๆ กันและร่วมกันบริหารโรงงานแห่งนี้ ติดต่อ ฟอร์ด มาสด้า ดวงกมล อิศรพันธุ์ พันธมาศ กรีกุล ฟอร์ด ประเทศไทย มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0 2686 4662 แฟกซ์ 0 2264 0839 โทร. 0 2686 4932 แฟกซ์ 0 2661 8191 อีเมล์ [email protected] อีเมล์ [email protected] สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี+ออโต้อัลลายแอนซ์วันนี้

ประธานกลุ่มตลาดนานาชาติ ฟอร์ด เยี่ยมชมโรงงานเอฟทีเอ็มและเอเอที

ฟอร์ด ประเทศไทย ให้การต้อนรับ ไดแอน เครก ประธานกลุ่มตลาดนานาชาติ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ในโอกาสย้ายมาประจำการที่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดย เครกได้เข้าเยี่ยมชมโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (เอฟทีเอ็ม) และโรงงานร่วมทุน ออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) ที่จังหวัดระยอง เพื่อชมสายการผลิตรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ และรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นปัจจุบัน และชมรถต้นแบบของฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการทดลองประกอบ

ผู้บริหารและพนักงานบริษัท ออโต้อัลลายแอนซ... ออโต้อัลลายแอนซ์ใช้ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ยกระดับการผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม — ผู้บริหารและพนักงานบริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอเอที บริษ...

ฟอร์ดฉลองการเปิดสายการผลิตรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่

มร.อลัน มูลัลลี (ขวา) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และ มร.โจ ฮินริคส์ ประธาน ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา ร่วมในพิธีเปิดสายการผลิต ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รถกระบะขนาดคอมแพ็กระดับโลกรุ่นใหม่ล่าสุด วันนี้ ณ โรงงาน ออ...

ภาพข่าว: ฟอร์ด-มาสด้าเปิดโรงงานผลิตรถยนต์นั่งแห่งใหม่มูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐที่เอเอที จ.ระยอง

ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนีและมาสด้า คอร์ปอเรชั่น ฉลองเปิดโรงงานผลิตรถยนต์นั่งแห่งใหม่ของออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จ. ระยอง มูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อผลิตรถยนต์นั่งมาสด้า2 และฟอร์ด เฟียสต้า โรงงาน...

ฟอร์ด-มาสด้าเปิดโรงงานผลิตรถยนต์นั่งแห่งใหม่ มูลค่ากว่า 17,000 ล้านบาทที่เอเอที จ.ระยอง

ประกาศพร้อมเปิดสายการผลิตเทคโนโลยีทันสมัยเพื่อผลิตมาสด้า2 และฟอร์ด เฟียสต้า ป้อนตลาดในประเทศและส่งออก ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และมาสด้า คอร์ปอเรชั่น ฉลองเปิดโรงงานผลิตรถยนต์นั่งของฟอร์ดและมาสด้าแห่งใหม่มูลค่า 500...

ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จัดงานแถลงข่าวพิธีเปิดโรงงานรถยนต์นั่ง เอเอที อย่างเป็นทางการ

ตามที่ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศแผนการลงทุนเพิ่ม เติมร่วมกันการร่วมลงทุนเพิ่ม มูลค่ากว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ(ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท) เมื่อปี พ.ศ....

ภาพข่าว: ฟอร์ด-มาสด้า ทุ่ม 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ลงทุนผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็กในไทย

ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ร่วมกันประกาศการลงทุนเพิ่มเติมครั้งใหญ่รวมมูลค่ากว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาทในโรงงานผลิตรถยนต์ขนาดเล็กแห่ง...