กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์
นายกสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทยเผยความต้องการเครื่องสำอางไทยในตลาดโลกยังมีสูง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติและสมุนไพร เชื่อมั่นงาน Thailand Health & Beauty Show 2008 ช่วยกระตุ้นการส่งออกสู่ตลาดใหม่ ๆ พร้อมเปิดโอกาสทางธุรกิจให้กลุ่มผู้ประกอบการระดับ SME
นางเกศมณี เลิศกิจจา นายกสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทยกล่าวว่า “ธุรกิจเครื่องสำอางไทยในประเทศขณะนี้ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจบ้างเนื่องจากผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่าย โดยผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเป็นกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SME อย่างไรก็ตามยังมีความหวังที่การส่งออกเพราะตลาดโลกยังมีความต้องการผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของเราอีกมาก”
การส่งออกสินค้าเครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมีอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับจากปี 2547 ทั้งนี้เนื่องจากสินค้าเครื่องสำอางภายใต้ตราสินค้าไทยได้พัฒนาคุณภาพสินค้าจนได้มาตรฐานสากล รวมทั้งมีการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทั้งผลิตภัณฑ์สำหรับแต่งหน้า บำรุงผิว ตกแต่งผม ผลิตภัณฑ์เพื่ออนามัยในช่องปากและฟัน สบู่ ฯลฯ โดยในปี 2550 ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของไทยมีมูลค่าการส่งออกรวม 1,234.80 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ถึง 259.37 ล้านเหรียญสหรัฐหรือร้อยละ 26.59 สำหรับการส่งออกเครื่องสำอางในครึ่งปีแรกของปีนี้ มีมูลค่า 573.74 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่ามูลค่าการส่งออกในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1,482 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และฟิลิปปินส์ และตลาดใหม่ที่มีอัตราการขยายตัวสูง ได้แก่ จีน (ร้อยละ 122.47) สหรัฐอเมริกา (ร้อยละ 85.72) ไต้หวัน (ร้อยละ 63.54) ฮ่องกง (ร้อยละ 39.80) เวียดนาม (ร้อยละ 38.41)
นางเกศมณีกล่าวเน้นว่า “เครื่องสำอางไทยยังมีโอกาสอีกมากในตลาดโลกเนื่องจากผู้บริโภคได้หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลตนเอง และการบำรุงความสวยงามมากขึ้น เครื่องสำอางจึงกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวันสำหรับบุคคลทุกเพศทุกวัย นับตั้งแต่กลุ่มวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของไทยเราก็มีความโดดเด่น ในการนำเอาสมุนไพรและส่วนผสมจากธรรมชาติ มาเป็นส่วนประกอบโดยมีการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัย ซึ่งตอบรับกระแสความนิยมในสินค้าเพื่อสุขภาพที่ทำจากธรรมชาติได้เป็นอย่างดี ขณะนี้มีหลายประเทศที่ให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของไทยโดยเฉพาะตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูงซึ่งรวมถึงรัสเซีย บาห์เรน และสเปน เป็นต้น”
นายกสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย ยังได้กล่าวถึงงานแสดงสินค้าธุรกิจบริการสุขภาพและความงาม 2551 หรือ Thailand Health & Beauty Show 2008 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-9 พฤศจิกายน 2551 ว่า ”งานครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะระดับ SME ที่ไม่มีเงินทุนในการทำตลาดในต่างประเทศให้สามารถที่จะนำเสนอสินค้าและบริการต่อนักธุรกิจจากทั่วโลกได้ ซึ่งจะเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการส่งออก ในขณะเดียวกันการนำสินค้าและบริการที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ มีความหลากหลาย และน่าสนใจมาจัดแสดงในงานก็เป็นการสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าแบรนด์ไทยต่อผู้บริโภคในประเทศอีกทางหนึ่งด้วย”
งาน Thailand Health & Beauty Show 2008 จะจัดโดยกรมส่งเสริมการส่งออกกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับองค์กรภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมและสร้างโอกาสในขยายธุรกิจสู่ต่างประทศให้กับผู้ประกอบการธุรกิจบริการสุขภาพและความงาม ภายในงานจะจัดให้มีการนำเสนอสินค้าและบริการที่มีคุณภาพอย่างครบครัน ทั้งผลิตภัณฑ์อโรมาเธอราปี ผลิตภัณฑ์สปา ผลิตภัณฑ์บำรุงผม ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารและเครื่องดื่มสุขภาพ ยาและสมุนไพร อุปกรณ์การแพทย์ อุปกรณ์เสริมสวยเสริมความงาม รวมทั้งบริการสุขภาพและความงามโดยผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติและหลักสูตรการอบรมต่างๆ โดยสถาบัน ชั้นนำของไทยและต่างประเทศ
ผู้ที่สนใจเข้าชมนวัตกรรมด้านความงามและสุขภาพที่หลากหลายจากผู้ประกอบการชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศได้ในงาน Thailand Health & Beauty Show 2008 ซึ่งจะเปิดให้นักธุรกิจเข้าร่วมงานและเจรจาการค้าระหว่างวันที่ 5-7 พฤศจิกายน 2551 เวลา 10.00-18.00 น. และเปิดให้ประชาชนเข้าชมและเลือกซื้อสินค้าระหว่างวันที่ 8-9 พฤศจิกายน 2551 เวลา 10.00-20.00 น. ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 0-2512-0093-104 ต่อ 294, 641, 395 หรือเว็บไซต์ www.thaitradefair.com
กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์
รายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อเผยแพร่ข่าว กรุณาติดต่อ
คุณสมคิด เจริญศักดิ์ / คุณนลินี ปิ่นแก้ว
โทร. 0 2254 6895-7, 08 4147 7575
หรือ 087 677 5571 โทรสาร 0 2 650 7738
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net