ปภ. จัดประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี ๒๕๕๑

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--ปภ.

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย จัดประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี ๒๕๕๑ เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์พายุหมุนเขตร้อน ที่มีโอกาสเกิดขึ้น ในประเทศไทยช่วงเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๑ พร้อมกำหนดแนวทางการดำเนินงาน และมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี ๒๕๕๑ การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย การฟื้นฟูบูรณะ สิ่งสาธารณประโยชน์ให้คืนสู่สภาพเดิม รวมทั้งการประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีประสิทธิภาพ นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี ๒๕๕๑ กล่าวว่า แม้ว่าประเทศไทยจะไม่ได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลนนาร์กีสโดยตรง แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้น บ่งชี้ให้เห็นว่า สภาวะอากาศของโลกค่อนข้างแปรปรวน โดยเฉพาะอุณหภูมิผิวน้ำทะเลที่เปลี่ยนแปลงมาก ทำให้พายุก่อตัวง่ายและรุนแรงมากขึ้น และจากการติดตามแนวโน้มการเคลื่อนตัวของพายุหมุนเขตร้อน พบว่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๑ มีความเป็นไปได้สูงที่พายุดังกล่าว จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยทางภาคตะวันตกของประเทศ ตั้งแต่ภาคเหนือบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอนลงมาถึงภาคใต้บริเวณจังหวัดภูเก็ต หากพายุเคลื่อนตัว ผ่านเข้าทางตอนบนของประเทศ ก็จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากมีแนวเทือกเขาตะนาวศรีกั้น แต่หากพายุเคลื่อนตัวเข้าทางภาคใต้ของประเทศจะมีความรุนแรงและอันตรายมาก เนื่องจากไม่มีภูเขาหรือเกาะที่ช่วยลดแรงปะทะ ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบจากปริมาณฝนที่ตกหนักจนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่า ไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง หรือดินถล่ม ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ราบลุ่ม หรือบริเวณใกล้ภูเขา ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ ที่อาจเกิดขึ้น กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี ๒๕๕๑ ขึ้น ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และได้กำหนดจัดประชุมในวันพุธที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๑ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ ห้องประชุม ๓๕๒ อาคาร ๓ ชั้น ๕ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายสิทธิชัย โควสุรัตน์) เป็นประธาน เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินงาน มาตรการและการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี ๒๕๕๑ การให้ช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย การฟื้นฟูบูรณะสิ่งสาธารณประโยชน์ให้คืนสู่สภาพเดิม รวมทั้งการประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ นอกจากนี้ ได้สั่งการให้จังหวัดจัดตั้งศูนย์อำนวยการ เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มระดับจังหวัด / อำเภอ / องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ โดยให้ดำเนินการตรวจสอบ ปรับปรุงข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย พื้นที่ปลอดภัย เพื่อจัดทำแผนเฉพาะกิจฯ จัดวางระบบการเฝ้าระวัง การแจ้งเตือนภัย และ แผนอพยพที่มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ภัยในพื้นที่ ตลอดจนจัดเตรียมกำลังคน ยานพาหนะ เครื่องมือสื่อสาร วัสดุอุปกรณ์ในการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยที่พร้อมใช้งานทันทีที่เกิดภัย นายอนุชา กล่าวต่อว่า ในการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ได้มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการดำเนินงานเตรียมความพร้อม การวางแผน กำหนดเส้นทางอพยพ และร่วมกันเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามแนวทางการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติโดยอาศัยชุมชนเป็นฐาน โดยขณะนี้ ได้ติดตั้งเครื่องไซเรนมือหมุน จำนวน ๑,๑๖๑ เครื่อง เครื่องวัดปริมาณน้ำฝน จำนวน ๑,๓๕๓ เครื่อง ในพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม และได้ฝึกอบรมอาสาสมัครแจ้งเตือนภัยดินถล่ม (มิสเตอร์เตือนภัย) ไปแล้ว ๑,๕๗๕ หมู่บ้าน จำนวน ๒,๘๕๒ คน เพื่อทำหน้าที่ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด แจ้งเตือนภัย และช่วยอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจากภัยพิบัติดังกล่าวได้อย่างแน่นอน

ข่าวกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย+พายุหมุนเขตร้อนวันนี้

กทม. ยกระดับแผนปฏิบัติการป้องกันรับมือฝุ่น PM2.5 เข้มตรวจแหล่งกำเนิดฝุ่น ลดผลกระทบสุขภาพประชาชน

นางสาววรนุช สวยค้าข้าว รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. รักษาราชการแทน ผอ.สสล. กล่าวถึงความคืบหน้าการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการป้องกันและรับมือปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า สสล. ได้บูรณาการความร่วมมือและการยกระดับปฏิบัติการแบบ Single Command โดย กทม. ได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย (มท.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมควบคุมมลพิษ กรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตาม วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 แบบวันต่อวัน และบูรณาการข้อมูล hotspot

บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หร... NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ — บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เดินหน้าสนับสนุนการยกร...

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติ... เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา — สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า จะ...

ทรู ร่วม ปภ. พร้อมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย C... ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม! — ทรู ร่วม ปภ. พร้อมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ระดับจังหวัด 13 พ.ค. นี้ พร้อมย้...

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกั... NT ยืนยันความพร้อม ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ในพื้นที่จริง — กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้...