“ดนตรีไทยร่วมสมัย” โดย “ครูสุเชาว์ หริมพานิช” หนึ่งรางวัลอันทรงคุณค่าจาก “รางวัลสุกรี เจริญสุข”

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--มูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข

ย่ำค่ำวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมามีพิธีมอบ “รางวัลสุกรี เจริญสุข” ซึ่งเป็นรางวัลเชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคมสาขาการส่งเสริมการดนตรี โดยการสนับสนุนของมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แก่ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข โดยรางวัลดังกล่าวจะมอบทุนจำนวน 1 ล้านบาทแก่บุคคลที่ได้รับการคัดเลือก และอีก 1 ล้านบาทแก่ “มูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข” สำหรับบุคคลที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้คือ ครูสุเชาว์ หริมพานิช ครูดนตรีไทยที่เติบโตมากับดนตรีไทยแบบชาวบ้าน และต่อมาได้พัฒนาดนตรีไทยให้เดินคู่ไปกับยุคสมัยได้อย่างกลมกลืน จนได้รับการขนานนามว่า “ดุริยกวี” ถือเป็นอีกหนึ่งเกียรติประวัติชีวิตครูดนตรีไทยของ ครูสุเชาว์ ซึ่งใช้เวลากว่าครึ่งศตวรรษคลุกคลีอยู่กับดนตรีไทย จนกระทั่งมีลูกศิษย์ลูกหามากมายในปัจจุบัน เมื่อครั้งยังเด็ก ครูสุเชาว์ติดตามบิดา ซึ่งเป็นหัวหน้าวงปี่พาทย์ไทยไปบรรเลงตามงานต่างๆ อีกทั้งคุณตาซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวหน้าวงปี่พาทย์มอญ เป็นอีกผู้หนึ่งที่ทำให้ครูสุเชาว์ ได้ซึมซับเสียงดนตรีแต่วัยเยาว์ ถือได้ว่าครูสุเชาว์ เกิดมาในครอบครัวนักดนตรีสองสาย ไทยและมอญ เมื่ออายุประมาณ 8 ปี ครูสุเชาว์เริ่มหัดเครื่องดนตรีชิ้นแรก คือ ฆ้องวงใหญ่ ตามวัฒนธรรมของดนตรีไทย โดยมีบิดาเป็นครูคนแรก และเริ่มต่อเพลงและพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งไปบรรเลงตามงานต่างๆร่วมกับบิดา “ผมเรียนรู้ดนตรีไทยจากการแสดงร่วมกับวงดนตรีไทยอื่นๆในสมัยนั้น ได้สัมผัส เรียนรู้ แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องเพลงซึ่งกันและกัน ทำให้ได้พัฒนาฝีมือเพิ่มขึ้น วงนี้ถนัดทางนี้ ผมถนัดทางนั้น มาเล่นด้วยกัน” ครูสุเชาว์บอกเล่าถึงวิธีการเรียนรู้ดนตรีไทยในแบบชาวบ้าน ก่อนที่จะกลายมาเป็นลูกศิษย์ของครูบุญยงค์ และครูบุญยัง เกตุคง ผู้ถ่ายทอด “เพลงเดี่ยว” ต่างๆ กระทั่งครูบุญยัง เกตุคงได้มอบ “ความเป็นครู” ให้ครูสุเชาว์ทำหน้าที่เป็นครูดนตรีไทยสานต่ออุดมการณ์ต่อไปโดยการมอบไม้ตีเครื่องดนตรีต่างๆให้ ต่อมาหลังจากได้เรียนเพลงสูงสุดและเรียนการแต่งเพลงแล้ว ครูบุญยัง เกตุคงยังได้ส่งต่อตำราไหว้ครูให้ครูสุเชาว์ และจากนั้นครูบุญยงค์ เกตุคง ก็ยังได้อนุญาตให้ครูสุเชาว์ต่อเพลงหน้าพาทย์สูงสุด คือ เพลงองค์พระพิราพ รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข ประธานกรรมการมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข กล่าวถึง ความโดดเด่นของครูดนตรีไทยผู้นี้ว่า ครูสุเชาว์ เป็นครูดนตรีไทยที่มีความคิดก้าวหน้า มีจินตนาการ สร้างสรรค์เพลงใหม่ๆขึ้น ไม่ได้อยู่แต่ในโลกอดีต หากแต่เดินไปสู่โลกอนาคต หลุดจากขนบของดนตรีไทยแบบโบราณ น้อยคนนักที่จะสร้างสรรค์ให้ดนตรีไทยก้าวไปข้างหน้าเช่นครูสุเชาว์ ดังนั้นจึงสมควรได้รับการยกย่องจากสังคม “การบรรเลงดนตรีไทยครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศให้มีการฟังดนตรีไทย ไม่ใช่ดนตรีไทยที่บรรเลงเพื่อประโคมในงานพิธี แต่เป็นดนตรีเพื่อการฟัง การชื่นชมเป็นดนตรีไทยที่มีอารมณ์หนักเบาของเสียงดนตรี เป็นการแสดงหน้าที่และบทบาทใหม่ของดนตรีไทย มีการสร้างงานเพลงขึ้นใหม่เพื่อการบรรเลงครั้งนี้โดยเฉพาะ” อาจารย์สุกรีกล่าวถึงความพิเศษในงานนี้ เพลงที่มีการบรรเลงแบ่งเป็น 4 รูปแบบ จากฝีมือการเรียบเรียงขึ้นมาใหม่ของครุสุเชาว์ เริ่มตั้งแต่ชุด “เพลงไหว้ครูบูชาคุณ” ซึ่งต้องการแสดงให้เห็นถึงขนบประเพณีของดนตรีไทยให้คนรุ่นหลังได้เห็น ชุดที่2 ครูสุเชาว์บอกว่า เป็นเพลงที่ฟังแล้วอร่อย ด้วยการดวลระนาดทุ้ม 2 ราง กับเครื่องหนัง โดยใช้เพลงภาษาต่างๆที่ครูรุ่นก่อนแต่งขึ้น แต่นำมาเรียบเรียงใหม่ให้มีความสนุกครึกครื้นในอัตราเร็วตลอด 15 นาทีของการบรรเลง สำหรับชุดที่ 3 ครูสุเชาว์ เรียบเรียง“เพลงทยอยเดี่ยว” อันเป็นเพลงชั้นสูงของปี่พาทย์ขึ้นมาใหม่สำหรับการเดี่ยวจะเข้ โดยได้ศิลปินรุ่นใหม่คือ อรนาถ จันทรโอภากร ผู้มีฉายาว่า “จะเข้เปรี้ยว” ซึ่งเป็นผู้ที่เคยได้รับรางวัลเหรียญทองเยาวชนดนตรีแห่งประเทศไทย และเป็นหนึ่งในนักเรียนในโครงการพรสวรรค์ศึกษา ของรศ.ดร.สุกรี เจริญสุข อรนาถได้ฝากฝีมือการเดี่ยวจะเข้ไว้ในการแสดงกับวง Dr.Sax Chamber Orchestra และในคอนเสิร์ตเดี่ยวของตนเอง อรนาถ พูดถึงการร่วมเป็นศิลปินรับเชิญในงานนี้ว่า การได้บรรเลงเพลงทยอยเดี่ยว ถือว่าเป็นเพลงเดี่ยวที่สำคัญในบรรดาเพลงเดี่ยว ซึ่งครูสุเชาว์พูดเสมอว่า เป็นเพลงขั้นสูงสุด การบรรเลงเพลงทยอยเดี่ยว ซึ่งเป็นเพลงของปี่พาทย์ แต่นำมาเรียบเรียงใหม่สำหรับเครื่องสายเช่นจะเข้ นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ยาก ตลอดเวลาที่ฝึกซ้อมเพลงนี้รู้สึกว่ายากมาก แต่ครูสุเชาว์ดูแล และให้กำลังใจตลอด และบอกให้เชื่อว่าเราต้องทำได้ ให้เชื่อใจในเพลง ศรัทธาเพลง ศรัทธาครู และเชื่อว่าเราจะเล่นได้” อรนาถย้อนถึงช่วงเวลาที่เริ่มฝึกซ้อมเพลงนี้ใหม่ๆ สำหรับชุดปิดท้ายซึ่งครูสุเชาว์กล่าวว่าเป็นไฮไลท์ของงาน คือ การประชันระหว่างระนาดกับฆ้อง ใน “เพลงม้าย่องเถา” ซึ่งเป็นการโชว์เทคนิคของเครื่องดนตรีกลุ่มไม้ และกลุ่มโลหะ ที่มีของดีซ่อนอยู่ในตัวของเครื่องดนตรีแต่ละประเภท โดยได้นักดนตรีไทยรุ่นใหม่ อย่าง พารณ ยืนยง และวิศรุต ทรัพย์เจริญ ลูกศิษย์รุ่นปัจจุบันของครูสุเชาว์เป็นผู้บรรเลง ซึ่งทั้งสองบอกว่า การบรรเลงในครั้งนี้ครูสุเชาว์มีการเรียบเรียงเพลงให้ซับซ้อนมากขึ้นเป็นในทางโลดโผนแปลกไปจากเดิม มีทั้งเสียงหนัก เบา ของดนตรี ผู้ฟังน่าจะมีอารมณ์ร่วมได้มากขึ้น นอกจากการที่จะได้ชื่นชมผลงานการสร้างเพลงใหม่ของครูสุเชาว์แล้ว การบรรเลงดนตรีไทยร่วมสมัยของครูสุเชาว์ครั้งนี้ ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ยืนยันถึงการเป็นครูดนตรีไทยผู้อนุรักษ์ และพัฒนาดนตรีไทยให้ยืนอยู่เคียงคู่กับยุคสมัยได้โดยไม่ถูกลืม และคู่ควรต่อการได้รับการยกย่องในโอกาสนี้ สิ่งที่ครูสุเชาว์ตระหนักเสมอ คือ การที่ดนตรีไทยจะต้องมีการปรับตัวให้รับกับความต้องการของผู้คนและยุคสมัยมากขึ้น และอยู่เป็นปัจจุบัน ซึ่งต้องมีความหลากหลาย มีวิวัฒนาการ เติมสีสัน เพิ่มความสนุกสนาน ดนตรีไทยจึงจะอยู่ได้ ซึ่งสอดคล้องกับคำพูดของรศ.ดร.สุกรี ที่พูดติดตลกว่า “ดนตรีไทยของครูสุเชาว์ ไม่ได้มีแต่ ลาวดวงเดือน แต่ไปถึงลาวดาวอังคาร และ ลาวดวงอาทิตย์ด้วย เพื่อให้คนได้รู้ว่าดนตรีไทยอยู่ในโลกสมัยใหม่ได้” สำหรับพิธีมอบรางวัลสุกรี เจริญสุข นี้ เป็นส่วนหนึ่งของ โครงการเชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคม ของมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยจะคัดเลือกองค์กรที่ทำประโยชน์ด้วยกัน 6 สาขา คือ การส่งเสริมการศึกษา การพัฒนาสังคมเมือง การพัฒนาสังคมชนบท การส่งเสริมกีฬา การส่งเสริมดนตรี การพัฒนาห้องสมุด และให้องค์กรเหล่านี้คัดเลือกบุคคลที่สมควรได้รับการยกย่อง โดยมอบทุนทรัพย์ให้สาขาละ 2 ล้านบาท กับองค์กร และบุคคลที่ได้รับการคัดเลือก. มูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข E-mail: [email protected] สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย+เชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคมวันนี้

JMART - JMT ควบสามดัชนีหลักต่อเนื่อง SET100 - SET ESG - SETHD ตอกย้ำศักยภาพการเติบโตยั่งยืน

บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART และ บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ยังคงสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุนไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการคว้าตำแหน่งในดัชนีสำคัญของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) สำหรับรอบครึ่งปีหลังของปี 2568 (1 กรกฎาคม 31 ธันวาคม 2568) ได้แก่ SET100, SET ESG และ JMT ที่ได้รับคัดเลือกเข้า SETHD ต่อเนื่อง สะท้อนการเติบโตอย่างมีเป้าหมาย และความแข็งแกร่งทั้งในด้านผลประกอบการและธรรมาภิบาล โดย นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธาน

ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 4 ราย กรณีสร้างราคาหุ้น TRITN

ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 4 ราย ได้แก่ (1) นายภสุ วชิรพงศ์ (2) นายวิชาญ วชิรพงศ์ (3) นายอัครรัฐ วรรณรัตน์ และ (4) นายนัธทวัฒน์ พิบูลย์ธนอมร กรณีสร้างราคาหุ้น บริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง...

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ... บางจากฯ พื้นฐานแกร่ง หุ้น BCP ได้รับเลือกเป็นหุ้นที่เข้าคำนวณดัชนี SET50 — บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ได้รับเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แ...

ก้าวสำคัญของ เทคลีด เอ็นพีเอ็น หรือ TL ใน... "TL" เขย่ากระดาน! เปิดโปรเจกต์เทคฯ แรก ทุ่มซื้อ "จียูเพย์" (GUPay) ลุย Payment Gateway เต็มตัว — ก้าวสำคัญของ เทคลีด เอ็นพีเอ็น หรือ TL ในการเข้าสู่ธุรกิจ...