ไอริส กรุ๊ป ตอกย้ำความมีศักยภาพและความเป็นมืออาชีพอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากที่ได้ผ่านรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) และได้รับใบอนุญาตก่อสร้างไปเรียบร้อยก่อนหน้าแล้ว ก็ได้เดินหน้าเร่งก่อสร้างโครงการ ดิ ไอริส คอนโดมิเนียม เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เผยภาวะวัสดุก่อสร้าง-น้ำมันผันผวนกระทบบริษัทน้อย เหตุจับผู้รับเหมาเซ็นสัญญาล็อกราคาก่อสร้างล่วงหน้าแล้ว ก่อนโชว์ศักยภาพด้านทำเลโดดเด่นเหนือคู่แข่ง ปัจจุบันห้องชุดพักอาศัยที่ลูกค้าเลือกจองกันไปแล้วประมาณ 95 % ตั้งเป้าปิดการขายก่อนสิ้นปี
นายกิตติพงษ์ สุมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอริส กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ ดิ ไอริส คอนโดมิเนียม ภายใต้แนวคิด “เปิดมุมมอง 180 องศา” เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาถึงแม้ว่าความมั่นใจของผู้บริโภคโดยรวมจะได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเมือง ขณะที่ต้นทุนการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะต้นทุนจากราคาวัสดุก่อสร้างได้ปรับสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคจะซื้อห้องชุดในราคาใหม่ที่มีราคาแพงขึ้น ส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมซึ่งเป็นสินค้าหลักของตลาดที่อยู่อาศัยในปีนี้ลดความร้อนแรงลง อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเชื่อมั่นว่าความต้องการในเรื่องของที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะความต้องการซื้อ เพื่ออยู่อาศัยจริงยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสังเกตได้จากยอดขายของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา ยังคงมียอดจองซื้อห้องชุดภายในโครงการ ดิ ไอริส คอนโดมิเนียม พระราม 9-ศรีนครินทร์ รวมถึงจำนวนการเยี่ยมชมโครงการที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
โดยสิ่งที่ทำให้โครงการ ดิ ไอริส คอนโดมิเนียม ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี เนื่องจากศักยภาพด้านทำเลที่ตั้งที่อยู่ติดถนนสายหลักศรีนครินทร์ ใกล้ถนนมอเตอร์เวย์ ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน และอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS สายแอร์พอร์ตลิงค์เพียง 600 เมตร ทำให้สามารถเลือกเดินทางได้หลากหลายรูปแบบ และถือเป็นจุดแข็งที่สำคัญของโครงการ นอกจากนี้ โครงการ ดิ ไอริส คอนโดมิเนียมมีความโดดเด่นด้านการออกแบบโครงการที่สะท้อนความทันสมัยท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ร่มรื่น มีการดีไซน์แบบห้องให้เลือกหลากหลายรูปแบบเพื่อให้ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค รวมถึงมีการตั้งราคาขายที่เหมาะสม สามารถสอดรับกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน ประกอบกับปัจจุบันบริษัทได้เริ่มพัฒนาโครงการให้เห็นเป็นรูปร่างแล้ว ทำให้ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันเหลือห้องชุดพักอาศัยลูกค้าเลือกจองเพียง 5% โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถปิดการขายของโครงการได้ก่อนสิ้นปี 2551 นี้
ทั้งนี้ จากการที่บริษัทเป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มายาวนานกว่า 25 ปี ทำให้บริษัทมีการวางแผนเพื่อปรับตัวรับกับสถานการณ์ต้นทุนการก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว มีการกำหนดราคาค่าก่อสร้างกับผู้รับเหมาของโครงการ ซึ่งดำเนินการโดย บริษัท อิตาเลียนไทย ดิเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เรียบร้อยแล้ว ทำให้บริษัทแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะค่าวัสดุก่อสร้างและราคาน้ำมันผันผวนในช่วงที่ผ่านมา โดยปัจจุบันบริษัทสามารถเดินหน้าก่อสร้างพัฒนาโครงการดิ ไอริส คอนโดมิเนียม ได้อย่างเต็มกำลัง ควบคู่กับเข้าตรวจสอบมาตรฐานด้านการก่อสร้างอย่างสม่ำเสมอ โดยปัจจุบันความคืบหน้าด้านการก่อสร้างของเฟสแรกได้ก่อสร้างถึงชั้น 3-4 แล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จหลังปีใหม่ไปแล้ว ส่วนเฟส 2 อยู่ในขั้นตอนการดำเนินงานในส่วนของการวางรากฐาน และคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมทยอยเข้าอยู่ได้ในประมาณกลางปี 2552 เป็นต้นไป
“สำหรับสถานการณ์ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้น่าจะฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ส่งผลให้ความมั่นใจในการลงทุนและการบริโภคมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ การที่รัฐบาลเร่งการก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจกต์ และจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะมาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์ จะทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เร่งการก่อสร้างโครงการต่างๆ ให้เร็วขึ้นเพื่อให้ทันช่วงระยะเวลามาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวอีกด้วย” นายกิตติพงษ์ กล่าวในท้ายที่สุด
ทั้งนี้ โครงการคอนโดมิเนียม ดิ ไอริส พระราม 9-ศรีนครินทร์ เป็นโครงการห้องชุดพักอาศัย สไตล์Modern & Random Design สูง 8 ชั้น จำนวน 8 อาคาร รวม 1,152 ยูนิต มีพื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 32-60ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นเพียง 1.28 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท โดยมีหลักการออกแบบโครงการให้สะท้อนความทันสมัยในการออกแบบอาคาร ทำให้ดูโปร่ง โล่ง มีมิติ มีจุดเด่นอยู่ที่การออกแบบและดีไซน์ห้องชุดให้เลือกถึง 3 รูปแบบ 3 โทนสี ทั้งแบบ Chic, Chill และ Cozy เพื่อให้สามารถตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของผู้พักอาศัย และบ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครในแบบของคุณเอง พร้อมจุดเด่นด้วยมุมมองกระจก 180 องศาภายในห้อง เปิดรับทัศนียภาพภายนอกแบบ Panorama ขณะที่บรรยากาศภายในโครงการได้สอดแทรกธรรมชาติให้ถูกจัดวางอย่างกลมกลืน และพิเศษสุดด้วยสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สวนน้ำตกและพันธุ์ไม้ร่มรื่น บนทำเลที่ตั้งโครงการติดถนนสายหลักศรีนครินทร์ ที่มีศักยภาพด้วยระบบการคมนาคมที่มาสามารถเลือกเดินทางได้หลากหลายรูปแบบ อาทิ ถนนมอเตอร์เวย์ ถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก ใกล้ทางขึ้น-ลงทางด่วน และสถานีรถไฟฟ้า BTS สายแอร์พอร์ตลิงค์ พร้อมด้วยระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ที่อยู่รายล้อมรอบโครงการ อาทิ โรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
สมฤทัย ผลพละ
บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด
โทร. 0-2693-7835-8 ต่อ 19, 08-9446-3324
โทรสาร 0-2693-6920
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
โอกาสลงทุนครั้งหนึ่งในชีวิต กับพื้นที่ขนาด 130,000 ตร.ม. ในทำเลศักยภาพ พร้อมรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และใบอนุญาตก่อสร้างครบถ้วน เจ้าของ The Slate Phuket กำลังมองหานักลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการท่าจอดเรือ (Marina) ระดับโลก บริเวณ อ่าวสะปำ ทางชายฝั่งตะวันออกของภูเก็ต โครงการนี้ประกอบด้วยพื้นที่ที่สามารถพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัย ศูนย์การค้า และสถานที่พักผ่อน โดยที่ดินแปลงนี้มาพร้อมกับรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และใบอนุญาตก่อสร้างที่ได้รับการอนุมัติล่วงหน้า ซึ่งกระบวนการ
นายนพ ชูสอน ผู้อำนวยการเขตคันนายาว กทม.กล่าวกรณีการตรวจสอบสาเหตุรถเครนยกแผ่นเหล็กหลุดจากตะขอ ทำให้ร่วงทับคนงานก่อสร้างเสียชีวิตในพื้นที่ก่อสร้างหมู่บ้านในซอยเสรีไทย 59 ว่า สำนักงานเขตคันนายาว ...
นายศักดิ์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. กล่าวกรณีองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ออกจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ กทม. ปฏิรูประบบการยื่นขอใบอนุญาตสร้างบ้านและอาคารว่า ในการขอใบอนุญาตก่อสร้าง...
นางสาวปัญชพัฒน์ หลักดี ผู้อำนวยการเขตดินแดง กทม. กล่าวกรณีอาคารนาตารีอาบอบนวด ถนนรัชดาภิเษก มีการใช้อาคารผิดประเภท ดัดแปลงต่อเติมอาคาร และเตรียมเปิดกิจการสถานอาบอบนวดใหม่ในสถานที่เดิม โดยใช้ชื่อ little Duck ว่า สำนักงานเขตดินแดง ได้เข้าตรวจสอบ...