จักษุแพทย์ชี้สุขภาพตาเด็กไทยยังน่าห่วง แนะพ่อแม่ดูแลและปกป้องดวงตาลูกน้อยอย่างใกล้ชิด

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--17 ต.ค.--คอมมิวนิเคชัน แอนด์ มอร์

จักษุแพทย์เด็กเผยสุขภาพตาเด็กไทยน่าห่วง เหตุพ่อแม่ยังมองข้าม ชี้เด็กรุ่นใหม่มีแนวโน้มสุขภาพตาผิดปกติจากปัจจัยหลายด้าน ส่งผลให้เกิดโรคเกี่ยวกับจอประสาทตา แม้จะพบน้อยแต่รุนแรง เพราะเป็นอวัยวะสำคัญในการมองเห็นและการเรียนรู้ของเด็ก แนะผู้ปกครองใส่ใจปกป้องสุขภาพดวงตาเจ้าตัวเล็ก ด้วยการให้เด็กกินนมแม่ ซึ่งมีสารอาหารลูทีน ช่วยปกป้องจอประสาทตาได้ ผศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ หัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหา วิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า ปัญหาสุขภาพตาของเด็กไทยในปัจจุบันยังน่าห่วง เนื่องจากพ่อแม่ส่วนใหญ่ยังไม่เห็นความสำคัญของการปกป้องและดูแลสุขภาพดวงตาของเจ้าตัวเล็ก แต่มักจะพามาพบจักษุแพทย์ก็ต่อเมื่อเกิดปัญหากับดวงตาของลูกแล้ว ซึ่งทางที่ดีพ่อแม่ควรให้ความสำคัญใส่ใจดูแลสุขภาพดวงตา และส่งเสริมพัฒนาการทางสายตาของลูกไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพัฒนาการด้านอื่นๆ เพราะพัฒนาการทางสายตาและการมองเห็นที่สมบูรณ์ของเจ้าตัวเล็กนั้น ถือว่าเป็นประตูสู่การเรียนรู้และการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมต่างๆ ซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการรอบด้านที่สมบูรณ์ของเจ้าตัวเล็ก โดยมีผลต่อพัฒนาการด้านอื่นๆ ของเด็กมากถึง 80-90% ดังนั้น หากเด็กมีปัญหาพัฒนาการทางสายตาและการมองเห็นภาพไม่สมบูรณ์ ก็อาจส่งผลต่อพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กได้ “พ่อแม่ยุคใหม่มักให้ความสำคัญกับการส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสติปัญญา เพื่อต้องการให้ลูกฉลาด แต่ลืมให้ความสำคัญกับสุขภาพดวงตาและพัฒนาการด้านการมองเห็นของลูก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้รอบด้าน ดังนั้น พ่อแม่ควรหันมาให้ความสำคัญตรงนี้ด้วย” ผศ.นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวและเสริมว่า ปัจจุบันพบว่าปัญหาสุขภาพตาของเด็กไทยมีแนวโน้มเปลี่ยนไปจากในอดีต คือ จากเดิมมักจะเป็นกลุ่มโรคที่เกิดจากการติดเชื้อ เปลี่ยนเป็นโรคที่เกี่ยวกับสายตาผิดปกติ หรือความผิดปกติทางด้านการมองเห็นมากขึ้น เช่น โรคเกี่ยวกับจอประสาทตา และโรคตาขี้เกียจ โดยอาการของโรคจอประสาทตานั้น จะทำให้เด็กมองเห็นภาพไม่ปกติ มองเห็นภาพเลือนราง พ่อแม่ต้องสังเกตจากพฤติกรรมการมองเห็นของเด็ก เช่น เด็กไม่จ้องหน้า ตาแกว่ง ไม่มีพัฒนาการทางสายตาและการมองเห็นตามวัย หรือ การวิ่งเข้าไปดูสิ่งของใกล้ๆ ก็สามารถบ่งบอกได้ว่าเด็กอาจมีปัญหาเรื่องการมองเห็น สาเหตุการเกิดโรคจอประสาทตาในเด็ก อาจมาจากปัจจัยทางพันธุกรรม การขาดสารอาหารบางชนิด แต่ที่พบบ่อย ได้แก่ เด็กคลอดก่อนกำหนด โดยมีผลการศึกษาพบว่าในเด็กคลอดก่อนกำหนดที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่า 1,250 กรัม จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคจอประสาทตากว่า 60% และในกลุ่มเด็กที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่า 750 กรัม มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคดังกล่าวถึง 90% ซึ่งโรคจอประสาทตาในเด็กนี้ ถือเป็นสาเหตุหลักอันดับหนึ่งที่ทำให้เด็กตาบอดในที่สุด จอประสาทตา เป็นส่วนสำคัญที่สุดต่อการรับภาพและมองเห็นภาพชัดเจน โดยทำหน้าที่เป็นสัญญาณรับภาพ ดังนั้น เมื่อจอประสาทตาผิดปกติ หรือถูกทำลายจะทำให้สูญเสียการมองเห็นเป็นภาพเลือนราง ซึ่งจอประสาทตานี้อาจโดนทำลายจากมลภาวะทางแสงที่อยู่รอบๆ ตัวเรา โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ อย่างไรก็ตาม การให้เด็กได้รับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนช่วยบำรุงสายตาอาจช่วยได้ เช่น อาหารที่มีวิตามินเอ จำพวกผักบุ้ง ผักตำลึง และสารอาหารลูทีน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยดูดซับมลภาวะทางแสงที่จะไปทำลายจอประสาทตา มีมากในน้ำนมแม่ นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า พ่อแม่ควรส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสายตาของลูกตั้งแต่ยังเด็ก เพราะโดยปกติพัฒนาการทางด้านสายตาของเด็กจะมีการพัฒนาการสูงสุดในช่วง 4 ขวบปีแรก โดยมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่แรกคลอด เริ่มมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่ออายุ 2 ขวบ และพัฒนาต่อเนื่องจนสามารถมองเห็นได้อย่างสมบูรณ์เมื่ออายุ 8-10 ขวบ ดังนั้น การดูแลและป้องกันลูกน้อยจากอาการผิดปกติทางสายตา และส่งเสริมให้เด็กมองเห็นภาพชัดเจนในช่วงอายุดังกล่าวจึงมีความสำคัญมากต่อพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก “พ่อแม่สามารถส่งเสริมความฉลาดของลูกผ่านพัฒนาการทางสายตาด้วยการปกป้องดวงตา อวัยวะสำคัญในการเรียนรู้ของลูกควบคู่ไปกับการส่งเสริมพัฒนาการด้วยของเล่นสีสด เช่น ของเด็กเล่นสำหรับเด็กอายุ 1-2 เดือน สามารถใช้ของเล่นสีสดขนาดใหญ่พอสมควร ให้เด็กฝึกใช้สายตาจ้องมองและค่อยๆ ลดขนาดลงเมื่อลูกโตขึ้น และสำหรับเด็ก 1-2 ขวบ อาจใช้สมุดภาพที่มีสีสัน เพื่อช่วยกระตุ้นพัฒนาการสายตาและการเรียนรู้ของเด็กได้อีกด้วย”ผศ.นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว นอกจากนี้ พ่อแม่ควรดูแลพฤติกรรมการใช้สายตาของลูกให้เหมาะสมตั้งแต่ยังเล็ก เช่น การดูทีวี หรือเล่นคอมพิวเตอร์ สามารถให้ลูกดูหรือเล่นได้ตั้งแต่เล็ก เพราะถือเป็นการกระตุ้นให้เกิดพัฒนาการที่ดีแก่เด็กได้หากเป็นรายการที่เหมาะสม แต่พ่อแม่ต้องแนะนำและดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ให้ลูกใช้สายตายาวนานเกินไป ควรหมั่นให้ลูกพักสายตาทุกๆครึ่งชั่วโมง พักสายตา 4-5 นาที และหมั่นสังเกตการใช้สายตาของลูก หากมีข้อสงสัยว่าลูกจะมีสายตาผิดปกติ เช่น เด็กชอบดูทีวีใกล้ เอียงคอมอง หรี่ตามอง การมองเห็นผิดปกติ ไม่มองตาม ตาเข ตาแกว่ง ตาสั่น หรือขนาดตา 2 ข้างไม่เท่ากัน อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนว่าเด็กอาจมีความผิดปกติของดวงตาและการมองเห็น ควรพาลูกไปปรึกษาจักษุแพทย์ นอกจากนี้ การป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับดวงตาเด็ก จากสัตว์เลี้ยงหรือของมีคมก็มีความสำคัญมากเช่นเดียวกัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ Boodsaba Sookabat Assistant Manager Communication and More Ltd. 2 Soi Ramkamhaeng 24/3 Ramkamhaeng Rd., Huamark, Bangkapi Bangkok 10240 Tel. 662-718-3800 ext. 133 Fax. 662-720-3323 สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์+คณะแพทยศาสตร์วันนี้

จุฬาฯ หนึ่งเดียวของไทย ชนะเลิศรางวัลเอเชีย "THE Awards Asia 2025" ประเภท Technological or Digital Innovation of the Year จาก "MDCU MedUMORE"

แพลตฟอร์ม Online Learning "MDCU MedUMORE" โดยคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้รับรางวัลชนะเลิศ THE Awards Asia 2025 ในประเภทรางวัล Technological or Digital Innovation of the Year ซึ่งมีการประกาศผล Winner THE Awards Asia 2025 ในงาน THE Asia Universities Summit เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 ณ Macau University of Science and Technology เขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดย ศ.พญ.นิจศรี ชาญณรงค์ รองคณบดีฝ่ายบริการวิชาการ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ

SGU ผลิตแพทย์หน้าใหม่เข้าสู่ระบบสาธารณสุข... นักศึกษาแพทย์ SGU กว่า 1,000 คน คว้าตำแหน่งแพทย์ประจำบ้านในสหรัฐฯในรอบการคัดเลือกประจำปี 2025 — SGU ผลิตแพทย์หน้าใหม่เข้าสู่ระบบสาธารณสุขของสหรัฐฯ มากที่ส...

การประชุมวิชาการครั้งที่ 39 ราชวิทยาลัยจั... ภาพข่าว: การประชุมวิชาการครั้งที่ 39 ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย — การประชุมวิชาการครั้งที่ 39 ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ณ โรงแรมเซ็นทาราแ...

ภาพข่าว: ประชุมวิชาการ จักษุนานาชาติ

นพ. ประดิษฐ สินธวณรงค์ (กลาง) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน “ประชุมวิชาการ จักษุนานาชาติ โดยศูนย์ตาธรรมศาสตร์: The 1st ASEAN Economic Community Ophthalmology Meeting” โดยมี รศ.นพ. ปรีชา วาณิชยเศรษฐกุล (ที่ 4 จากขวา) คณบดีคณะแพทยศาสตร์...

ภาพข่าว: โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของ TRSC ศูนย์เลสิคนานาชาติ

คุณสุชาติ เห็นสว่าง (ที่ 5จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ TRSC ศูนย์เลสิคนานาชาติ ให้การต้อนรับ ผศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ (ที่ 4จากซ้าย)หัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา และคณะพยาบาลเฉพาะทางสาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติทางตา ...

ภาพข่าว: ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ประชุมวิชาการ

รศ.พญ. สุดารัตน์ ใหญ่สว่าง ประธานราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดงาน “การประชุมวิชาการครั้งที่ 26” โดยมี ผศ.นพ. ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ เลขาธิการราชวิทยาลัยฯ และ ผศ.นพ. ธวัชชัย ปานเสถียรกุล กรรมการราชวิทยาลัยฯ ร่วมประชุมด้วย ที่ห้องเรดิสัน...

ห้างแว่นท็อปเจริญร่วมฉลอง 60 ปีในหลวง จับมือโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เปิดโครงการแว่นตาเพื่อน้องเฉลิมพระเกียรติ

ห้างแว่นท็อปเจริญร่วมฉลอง 60 ปีในหลวงจับมือโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เปิดโครงการแว่นตาเพื่อน้องเฉลิมพระเกียรติตรวจสายตาตัดแว่นฟรีให้เด็กทั่วประเทศ นายแพทย์วีระ อิงคภาสกร...