ระยองเพียวฯ ดันบริษัทในเครือฝ่าวิกฤต ส่งเพียวบี 5 รุกตลาด

26 Mar 2009

กรุงเทพฯ--26 มี.ค.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์

บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน) เชื่อแรงกระตุ้นเศรษฐกิจจะส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจน้ำมันปีนี้สดใส เร่งทำตลาดน้ำมันเพียว บี5 ชูจุดเด่นผลิตเองจากโรงงานเพียวไบโอดีเซล ผ่านระบบขนส่งโดยจตุรทิศ พร้อมขายปลีกหน้าปั๊มเพียว ให้ผู้บริโภคมั่นใจความสะอาดบริสุทธิ์ ได้มาตรฐานกรมธุรกิจพลังงาน วางแผนดันเพียว บี5 จำหน่ายในปั๊มเพียวให้ครบทุกสาขาทดแทนการขายน้ำมันดีเซลภายในปีนี้ ด้านเพียวเพลส เตรียมรุกโครงการ 2 ถนนรามคำแหง 110

นายศุภพงศ์ กฤษณกาญจน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ระยองเพียว ริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน) หรือ RPC ผู้ดำเนินธุรกิจโรงกลั่นเพื่อแปรสภาพคอนเดนเสท เรสสิดิวเป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และปิโตรเคมีที่ได้คุณภาพระดับสากล เปิดเผยถึงภาพรวมของการดำเนินธุรกิจในปี 2551 ที่ผ่านมาว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกปี 2551 มีความผันผวนสูง โดยในช่วงครึ่งปีแรกราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในช่วงครึ่งปีหลังราคาน้ำมันกลับปรับลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาวิกฤติทางการเงินของสหรัฐอเมริกา ที่ได้ลุกลามไปยังประเทศต่าง ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสต็อกน้ำมันของทุกบริษัทฯ ในธุรกิจน้ำมัน รวมถึงระยองเพียวฯ ด้วยเช่นกัน โดยในปี 2551 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 22,535 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,776 ล้านบาท หรือร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับปี 2550 ที่มีรายได้จากการขาย 20,759 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก แต่ต้นทุนการขายก็สูงขึ้นเช่นกัน

“สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2552 นั้น บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจ และธุรกิจน้ำมันในปี 2552 จะดีขึ้นเป็นลำดับ พิจารณาจากการส่งเสริมสภาพคล่อง และกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเต็มที่จากทางภาครัฐของทุกประเทศ รวมถึงความจำเป็นของผู้บริโภคที่ยังคงต้องใช้น้ำมันในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะความต้องการใช้น้ำมันของประเทศจีนยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายศุภพงศ์ กล่าว

นายศุภพงศ์ กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 2552 ว่า ในปีนี้ บริษัทฯ จะมุ่งดำเนินธุรกิจโดยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจในเครือ และดำเนินไปในแนวทางเดียวกันในรูปแบบของกลุ่มบริษัทระยองเพียวฯ หรือ อาร์พีซี กรุ๊ป โดยในปีนี้ บริษัทฯ จะมุ่งเน้นทำตลาดค้าปลีกน้ำมันเพียวบี 5 ซึ่งตลาดมีแนวโน้มการเติบโตสูง สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลที่ให้การส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน โดยผลักดันผ่านกลไกทางภาษีทำให้ราคาน้ำมันดีเซลบี 5 ถูกกว่าน้ำมันดีเซลธรรมดา ทั้งนี้ หลังจากที่บริษัท เพียวพลังงานไทย จำกัด ได้ทดลองจำหน่ายน้ำมันดีเซลบี 5 ภายใต้ชื่อสินค้า เพียวบี 5 ในปีที่ผ่านมา พบว่าได้รับการตอบรับดีจากลูกค้าส่งผลให้ยอดจำหน่ายดีเซลโดยรวมเพิ่มขึ้นถึง 14% โดยในปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายน้ำมันเพียวบี 5 ทดแทนน้ำมันดีเซลให้ได้ 60% โดยจะให้จำหน่ายเพียวบี 5 ภายในปั๊มเพียวให้ครบทุกสาขา

นายศุภพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า น้ำมันเพียวบี 5 ภายใต้สโลแกน “เพียวบี 5 มาตรฐานพลังงานที่เหนือกว่า” เป็นผลผลิตคุณภาพจากโรงงานเพียวไบโอดีเซล โดยบริษัท เพียวไบโอดีเซล จำกัด ที่ได้เริ่มเดินเครื่องผลิตเพียวไบโอดีเซล และจำหน่ายตั้งแต่เดือนมกราคม2552 หลังจากที่ได้รับการรับรองเป็นผู้ค้าไบโอดีเซลตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2551 ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้คุณภาพมาตรฐาน โดยมีนโยบายที่จะสร้างความเชื่อมั่นในด้านคุณภาพสินค้า และการเป็นผู้นำด้านการผลิตไบโอดีเซลที่มีความทันสมัย ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า และหน่วยงานของรัฐ และจะดำเนินการผลิตและจำหน่ายไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของกำลังการผลิต เป็นผู้นำด้านการผลิตไบโอดีเซลคุณภาพชั้นนำของประเทศต่อไป

นอกจากนี้น้ำมันเพียวไบโอดีเซลที่ออกมาจากโรงงาน ได้รับการขนส่งโดย บริษัท จตุรทิศขนส่ง จำกัด ที่ได้วางแผนขยายธุรกิจการขนส่งน้ำมันโดยปัจจุบันบริษัทมีรถขนส่งจำนวนกว่า 90 คัน เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดน้ำมันไบโอดีเซล และเพียวบี5 รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ด้วยรถที่มีประสิทธิภาพทันสมัยใหม่สะอาด พร้อมด้วยพนักงานขับรถที่มีความชำนาญ ด้วยความปลอดภัยและตรงต่อเวลา อีกทั้งมีการควบคุมติดตามด้วยระบบดาวเทียม GPS ตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นจึงมั่นใจได้ในคุณภาพมาตรฐานของน้ำมันเพียวบี 5 ที่สะอาดบริสุทธิ์ ทุกขั้นตอนการผลิตจากโรงงานเพียวไบโอดีเซลจนถึงการขนส่งสู่ปั๊มน้ำมันเพียวทุกสาขา

สำหรับความคืบหน้าของ บริษัท เพียวสัมมากร ดีเวลลอบเม้นท์ จำกัด หลังจากที่ประสบผลสำเร็จจากโครงการแรก เพียวเพลส รังสิตคลอง 2 บริษัทได้เริ่มพัฒนาโครงการที่ 2 เป็นศูนย์การค้าครบวงจรแห่งใหม่ บริเวณหน้าหมู่บ้านสัมมากร ถนนรามคำแหง 110 ซึ่งเป็นทำเลทองในการทำธุรกิจ มีศักยภาพ และมีลูกค้าเป้าหมายแน่นอน ซึ่งคาดว่าจะเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ภายในปี 2553 ด้วยความพร้อม และการเติบโตของธุรกิจที่เกื้อหนุนกันของบริษัทในเครือ จะผลักดันให้ผลการดำเนินงานปีนี้ประสบผลสำเร็จตามความคาดหมาย นายศุภพงศ์ กล่าว

นายศุภพงศ์ กล่าวว่า บริษัทไม่มีความกังวลต่อประเด็นคำสั่งศาลปกครองระยอง ที่มีคำพิพากษาให้พื้นที่มาบตาพุดทั้งหมดเป็นเขตควบคุมมลพิษ เพราะได้เตรียมเครื่องบำบัดน้ำเสียคุณภาพสูง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้พัฒนาขึ้นเองรองรับไว้แล้ว สำหรับอุปกรณ์ดังกล่าวเรียกว่า 'Swift Klean' ขณะนี้กำลังดำเนินการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียนี้ในโรงกลั่นของระยองเพียวริฟายเออร์ โดยเป็นเครื่องบำบัดน้ำเสียที่ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถนำน้ำที่ใช้แล้วกลับมาเป็นน้ำใสสะอาดได้ โดยปรกติระยองเพียวมีปริมาณการใช้น้ำน้อยมากอยู่แล้ว และเป็นระบบปิด ไม่ปล่อยน้ำจากกระบวนการผลิตออกภายนอก (Zero Discharge) เป็นการที่บริษัทแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน (social Responsibility)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

ขวัญพัฒน์ ตั้งเจิดจรัส หรือเกศสิรินทร์ กุหลาบสวัสดิ์

บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด

โทร. 02693-7835-8 ต่อ 23-24

มือถือ 081-503-5300, 081-632-9556

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net