กรุงเทพฯ--5 ก.พ.--บลจ.กรุงไทย
                    
 
                                                                                                                                        
                                                                                                                                      นายสมชัย  บุญนำศิริ   กรรมการผู้จัดการ  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย  จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า  ในสัปดาห์นี้ บริษัทจะเปิดจำหน่าย 2 กองทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ   ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารภาครัฐต่างประเทศ 12 เดือน1 (KTGF12M1)   และกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 6 เดือน คุ้มครองเงินต้น5  (KTFIX6M5)   ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่  10  กุมภาพันธ์  2552
                                                                                                                                      กองทุนKTGF12M1   มีอายุโครงการ  1  ปี  มูลค่า  3,000  ล้านบาท   เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้สถาบันการเงินภาครัฐต่างประเทศ  ตราสารการเงินของสถาบันการเงินต่างประเทศ    ซึ่งกองทุนจะลงทุนใน Euro Commercial paper   (ECP) /   Euro Medium  Term  Note   (EMTN)    ประกอบไปด้วย   Export –Import  Bank of Korea    และ  Industrial   Bank of Korea  ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ  35%   ส่วนที่เหลือลงทุนใน Korea  Development Bank ในสัดส่วน 30% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม   ส่งผลให้กองทุนได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 3.80%  ต่อปี 
                                                                                                                                      นายสมชัย  กล่าวต่อไปว่า   สถาบันการเงินทั้ง3 แห่งที่กองทุนลงทุน จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะ เป็นกลไกที่สำคัญของรัฐบาลเกาหลีใต้ ใช้ในการดำเนินนโยบายต่างๆ ( Policy  Bank)   โดยปัจจุบันรัฐบาลเกาหลีใต้ถือหุ้นใน Export-Import   Bank   of   Korea  และ Korea Development  Bank   ทั้ง 100%   และถือหุ้นใน Industrial  Bank of   Korea  ประมาณ 67%  นอกจากนี้    เงินลงทุนในตราสารหนี้สถาบันการเงินภาครัฐต่างประเทศ จะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
                                                                                                                                      ส่วนกองทุน KTFIX6M5   อายุโครงการ 6 เดือน  มูลค่า 2,000 ล้านบาท  เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรภาครัฐในประเทศ และเงินฝากธนาคารพาณิชย์   โดยกองทุนจะลงทุนในพันธบัตรภาครัฐในประเทศ  60%    และลงทุนในเงินฝาก /บัตรเงินฝากของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)  และธนาคารทิสโก้  จำกัด (มหาชน)  สถาบันการเงินละ 20%   ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม   ส่งผลให้กองทุนมีผลตอบแทนประมาณการที่ 1.20% ต่อปี
                                                                                                                                     นายสมชัย  กล่าวถึงภาวะการลงทุนตราสารหนี้ในประเทศว่า   อัตราผลตอบแทนของตั๋วเงินคลังรุ่นอายุไม่เกิน 1 ปี ยังมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง   ปัจจุบันอยู่ที่ 1.60 – 1.75 %  โดยเป็นผลจากการคาดการณ์ว่า คณะกรรมนโยบายการเงินจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25-0.50% ในการประชุมวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้  ขณะที่ ตราสารระยะสั้นภาครัฐซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ ยังมีปริมาณความต้องการอีกมาก 
                                                                                                                            ทั้งนี้ ผลจากการปรับลดลงของอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศ ส่งผลให้ตราสารต่างประเทศระยะสั้นมีความน่าสนใจมากขึ้น  ในแง่ของผลตอบแทน  โดยเฉพาะตราสารหนี้ประเภท Euro Commercial Paper (ECP) และ Euro Medium Term Note (EMTN)  ทั้งนี้  เมื่อมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผลตอบแทนจะสูงกว่าตราสารหนี้ในประเทศ ประมาณ0.30 - 2.00%
                                                                                                                             
                                                                                                                                       Tel 02-670-4900 ต่อ 1235 หรือ 085-1800-441