จากสภาวการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันที่มีแนวโน้มการเติบโตชะลอตัวได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศรวมถึงตลาดการเงินและตลาดทุนเป็นอย่างมาก และจากความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดเงินและตลาดทุนในประเทศ ทำให้สถาบันการเงินได้มีความเข้มงวดและจำกัดในการให้สินเชื่อ ส่งผลให้เกิดข้อจำกัดในการกู้เงินในประเทศของรัฐวิสาหกิจ นอกจากนี้ ในส่วนการค้ำประกันรัฐวิสาหกิจและสถาบันการเงินภาครัฐโดยกระทรวงการคลังในช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีแนวโน้มสัดส่วนการค้ำประกันที่เพิ่มสูงขึ้น โดยในปีงบประมาณ 2552 คาดว่าจะมีรัฐวิสาหกิจเสนอขอให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเต็มกรอบภาระการค้ำประกันเงินกู้และการให้กู้ต่อตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้เป็นสกุลเงินบาทไม่เกินร้อยละ 20 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี
กระทรวงการคลังจึงเห็นควรนำเครื่องมือทางการเงินมาใช้เพื่อเสริมความคล่องตัวในการบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศให้แก่รัฐวิสาหกิจได้อย่างเหมาะสม และสามารถดำเนินการค้ำประกันเงินกู้ได้เป็นไปตามกรอบความยั่งยืนทางการคลัง โดยการจัดตั้ง Short term facility เพื่อให้รัฐวิสาหกิจและสถาบันการเงินภาครัฐสามารถกู้เงินในประเทศระยะสั้นได้โดยตรงเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารและจัดการ โดยมีโครงสร้าง/การดำเนินการ/วิธีการสอดคล้องกับความต้องการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจ ฯลฯ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการจัดสรรการกู้เงินของภาครัฐไม่ให้เกิดภาวะกระจุกตัวในช่วงใดช่วงหนึ่งได้ (Bunching) และจากการมี Short term facility ไว้เพื่อเป็นวงเงินสำรองการกู้เงินจะทำให้รัฐวิสาหกิจมีทางเลือกในการกู้เงินได้ (Alternative source of fund) โดยกระทรวงการคลังจะค้ำประกันวงเงินแบบเต็มจำนวนหรือแบบบางส่วน (Partial guarantee) เพื่อลดสัดส่วนของการค้ำประกัน เพื่อให้ภาระการค้ำประกันอยู่ในกรอบเพดานในแต่ละปี โดยมีรายละเอียด ดังนี้
วงเงิน ไม่เกิน 200,000 ล้านบาท
ระยะเวลา 3 ปี
แหล่งเงิน ธนาคารพาณิชย์ที่ประกอบกิจการในประเทศและธนาคารออมสิน
ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นไปตามข้อเสนอของธนาคาร ซึ่งจะได้เจรจาต่อรองต่อไป
การรายงานผลการกู้เงิน เป็นรายไตรมาสต่อคณะรัฐมนตรี
โดยในส่วนกรอบและเงื่อนไขการกู้เงิน Short term facility ดังนี้
ผู้กู้ รัฐวิสาหกิจ
วัตถุประสงค์ของการกู้เงิน 1. เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย/โครงการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ /ชำระคืนเงินกู้เดิม
เพื่อเป็นการบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่
ที่ได้รับการบรรจุในแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
2. เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นแก่กระทรวงการคลังในกรณี
ที่เกิดความเสี่ยงในการผิดชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นของรัฐวิสาหกิจ
(Default risk)
ระยะเงินกู้ อายุเงินกู้ระยะไม่เกิน 18 เดือน
อัตราดอกเบี้ย ใช้อัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน ประเภท
บุคคลธรรมดาของ 4 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ (FDR) เฉลี่ยหรือ
อัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อของ 4 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ (MLR)
(ธนาคารกรุงเทพฯ ธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารไทยพาณิชย์ฯ และ
ธนาคารกสิกรไทยฯ) เป็นฐานในการคำนวณดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับ
ทุกอายุเงินกู้
การเบิกจ่ายเงินกู้ รัฐวิสาหกิจจะขอเบิกจ่ายเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ที่เสนอเงื่อนไข
ต้นทุนการกู้เงินที่ต่ำที่สุดก่อน โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าไม่น้อย
กว่า 5 วันทำการ
การค้ำประกัน การค้ำประกันเงินกู้ (ต้นเงินและดอกเบี้ย) แบบบางส่วน (Partial
guarantee) ก่อน และจะพิจารณาค้ำประกันเต็มจำนวนเมื่อมีความ
จำเป็นเท่านั้น โดยวงเงินการค้ำประกันต้องไม่เกินกว่าที่กฎหมาย
กำหนดไว้
การคิดค่าธรรมเนียม การค้ำประกัน ตามสัดส่วนของวงเงินที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน และตามประ
กาศกระทรวงการคลังได้กำหนดอัตราค่าธรรมเนียม การค้ำประกัน
เงินกู้ของรัฐวิสาหกิจ
ทั้งนี้ การจัดตั้งวงเงิน Short term facility ดังกล่าวสำหรับการบริหารหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจและสถาบันการเงินภาครัฐจะมีลักษณะคล้ายกับการจัดตั้งวงเงิน ECP (Euro Commercial Paper) ของกระทรวงการคลังที่ใช้ในการบริหารหนี้ต่างประเทศภาครัฐ วงเงิน 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะสร้างความคล่องตัวในการบริหารหนี้ภาครัฐได้เป็นอย่างดี
จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
สำนักจัดการหนี้ 2 ส่วนจัดการเงินกู้รัฐวิสาหกิจ 2สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
โทร. (02) 265-8050 ต่อ 5405