กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอำนาจเจริญ เตรียมการป้องกันและแก้ปัญหาภัยแล้ง โดยจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งจังหวัดอำนาจเจริญ ตลอดจนจัดเตรียมเครื่องจักรกล เครื่องมืออุปกรณ์ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้พร้อมออกปฏิบัติการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยแล้งอย่างทันท่วงที พร้อมแนะเกษตรกรให้วางแผนการใช้น้ำและการเพาะปลูกพืชให้เหมาะสมกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ เพื่อป้องกันการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง
นายนิรันด์ บุญสิงห์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอำนาจเจริญ เปิดเผยว่าจากการสำรวจ พบว่า ขณะนี้สถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดอำนาจเจริญเริ่มทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำสำคัญสายต่างๆ แห้งขอด สร้างความเสียหายอย่างกว้างขวางในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดสภาวะการขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค และเพื่อการเกษตร เพื่อเตรียมการป้องกันและรับมือแก้ไขปัญหาภัยแล้ง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอำนาจเจริญ ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งระดับจังหวัด ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมกำลังคน วัสดุอุปกรณ์ รถบรรทุกน้ำ และเครื่องสูบน้ำ ให้พร้อมออกปฏิบัติการช่วยเหลือและบรรเทาความความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยแล้งอย่างทันท่วงที โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังในแถบอำเภอลืออำนาจ และอำเภอหัวตะพานที่มักประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเป็นประจำ สำหรับการแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำธรรมชาติ และอ่างเก็บน้ำในหมู่บ้าน หากเกินขีดความสามารถขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้จากศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งระดับอำเภอและจังหวัด และเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ขอให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้มีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้ง โดยเฉพาะเกษตรกรที่ต้องใช้น้ำในการเพาะปลูกพืช ขอให้วางแผนในการใช้น้ำให้เหมาะกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ และแผนบริหารจัดการน้ำของจังหวัดโดยเลือกปลูกพืชไร่อายุสั้นที่ใช้น้ำน้อยหรือพืชคลุมดิน เพื่อรักษาความชุ่มชื้นในดินและสงวนน้ำไว้ให้นานที่สุด
ทั้งนี้หากประชาชนในจังหวัดอำนาจเจริญได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้ง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอำนาจเจริญ โทรศัพท์ ๐-๔๕๕๑-๑๙๕๔ ,
๐-๔๕๔๕-๑๘๒๔ หรือสายด่วนสาธารณภัย ๑๗๘๔ ได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 022432200 กรมป้องกันฯ