ก้าวผ่าน ‘การศึกษาป้องกันเอชไอวี’ สู่ ‘เพศศึกษา’ ข้อเสนอล่าสุดจากประชุมเอดส์ที่บาหลี

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--องค์การแพลน สำนักงานประเทศไทย

การประชุมเอดส์นานาชาติระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค หรือไอแคป ครั้งที่ 9 (9th International Congress on AIDS in Asia Pacific- ICAAP) ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย มีหัวข้อการประชุมหนึ่งที่น่าสนใจคือ “การส่งเสริมป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มเยาวชนด้วยการศึกษาเรื่องสุขภาพและเพศศึกษา” โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากกระทรวงศึกษาธิการ ผู้แทนเยาวชน ครู และองค์กรภาคประชาสังคมจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาค ผู้เข้าประชุมหัวข้อนี้ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกันที่จะรณรงค์สนับสนุนอย่างต่อเนื่องให้เกิดการพัฒนาด้านการศึกษาเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีสำหรับเยาวชนในสถานศึกษา และจะร่วมกันติดตามผลการดำเนินงานดังกล่าว จนถึงการประชุมไอแคปครั้งที่ 10 ในอีกสองปีข้างหน้า การประชุมเรื่องนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างหลายองค์กร ได้แก่ องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล องค์การแพธ/ประเทศไทย องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) และองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 140 คนซึ่งได้แลกเปลี่ยนกันถึงบทเรียนที่ดี ความท้าทายในงานเพศศึกษา และอภิปรายถึงแนวทางที่จะสามารถกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาและสนับสนุนเชิงนโยบายที่เข้มแข็งขึ้น อันจะต้องนำไปสู่การดำเนินงานอย่างจริงจังคือ จัดการสอนเพศศึกษารอบด้านและการศึกษาเพื่อป้องกันเอชไอวีในกลุ่มเยาวชนในสถานศึกษาให้สอดคล้องตามบริบทและสถานการณ์ในแต่ละประเทศ การทำงานด้านการป้องกันเอชไอวีจะไม่เป็นผลสำเร็จ ถ้าปราศจากกระบวนการสร้างความเข้มแข็งแก่เยาวชนผ่านการเรียนรู้เรื่องเพศและเอดส์ในห้องเรียน ในการประชุมดังกล่าว ครู เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เยาวชน และนักรณรงค์ด้านเอดส์ ต่างลงความเห็นถึงความเร่งด่วน ให้มีการจัดการศึกษาเพื่อป้องกันเอชไอวีที่มีประสิทธิภาพแก่เยาวชนในโรงเรียน ซึ่งต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของพ่อแม่ผู้ปกครองและชุมชน โดยเน้นว่าการศึกษาด้านสุขภาพ และเพศศึกษารวมถึงการศึกษาเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีเป็นทั้งความจำเป็นและเป็นสิทธิอย่างหนึ่งของเยาวชน ทั้งนี้ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า การศึกษาเพื่อป้องกันเอชไอวีกำลังก้าวสู่ยุคใหม่ ที่ครอบคลุมเรื่องเพศและความสัมพันธ์ในมิติที่กว้างขึ้นกว่าการเน้นเพียงเรื่องลดความเสี่ยงต่อเอชไอวีเท่านั้น ผู้เข้าร่วมประชุมจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ซึ่งรวมทั้งครูชาวไทยมากกว่า 30 คนให้ความเห็นว่า ควรมีความพยายามที่เข้มข้นยิ่งขึ้นเพื่อให้การดำเนินงานเพศศึกษาและการศึกษาเพื่อป้องกันเอชไอวีในสถานศึกษามีคุณภาพและส่งผลที่ชัดเจนในภูมิภาคนี้ นายเดวิด คลาร์ค ผู้เชี่ยวชาญขององค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่าการมีนโยบายที่มีประสิทธิภาพจะช่วยนำทางให้กระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการเรื่องการศึกษาเอชไอวีทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน “นโยบายเหล่านี้ช่วยให้กระทรวงศึกษาและกระทรวงสาธารณสุขทำงานร่วมกันที่จะให้วัยรุ่นและเยาวชนได้รับข้อมูล บริการปรึกษาและบริการที่เขาเหล่านั้นต้องการ” ขณะนี้ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกลุ่มเยาวชนมากขึ้น ทั้งๆที่มีความสำเร็จในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่จากปีละ 100,000 รายในห้วงทศวรรษที่ผ่านมาจนลดน้อยลงกว่า 10,000 รายต่อปี ภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเยาวชน จึงควรแสดงบทบาทสำคัญในการเตรียมประชากรรุ่นใหม่ให้มีศักยภาพและสามารถรับผิดชอบดูแลสุขภาวะทางเพศที่ดี อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่สำคัญของแต่ละประเทศ คือ การหาช่องทางที่เหมาะสมและเพียงพอให้เกิดการพัฒนาแก่เด็กและเยาวชนแบบองค์รวมในระบบการศึกษาปัจจุบัน ซึ่งตอนนี้เน้นเพียงความสำเร็จทางวิชาการเท่านั้น ทั้งนี้ ประเทศในแถบเอเชียส่วนใหญ่มีนโยบายด้านสุขภาพ เพศ หรือเอชไอวี อยู่แล้ว ในปี พ.ศ. 2551 มีรายงานจาก 15 ประเทศที่ระบุว่า มีนโยบายหรือยุทธศาสตร์ที่ส่งเสริมการศึกษาด้านอนามัยเจริญพันธุ์ และสุขอนามัยทางเพศรวมถึง เอชไอวี/เอดส์สำหรับเยาวชนอยู่แล้ว ดร. เบญลักษณ์ น้ำฟ้า ผู้อำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ได้ชี้ว่าถึงแม้ว่าจะมีนโยบายเกี่ยวกับเพศศึกษามายาวนานแล้วก็ตาม แต่อุปสรรคสำคัญที่ยังเกิดขึ้นคือ ทัศนคติและค่านิยมของครูต่อเรื่องเพศศึกษา ขณะที่พฤติกรรมและค่านิยมทางเพศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และช่องว่างระหว่างวัยมีมากขึ้น การขาดครูที่มีความสามารถในการจัดการเรียนรู้แบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง จึงส่งผลให้ประสิทธิภาพการเรียนการสอนเพศศึกษาด้อยลงไปด้วย อย่างไรก็ตาม ประเด็นเหล่านี้ได้มีการตอบสนองผ่านการดำเนินงานเพศศึกษารอบด้าน หรือที่เรียกสั้นๆว่า “โครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ” ในสถานศึกษามากกว่า 800 แห่งทั่วประเทศไทยซึ่งสนับสนุนโดยกองทุนโลก (Global Fund) ดำเนินงานโดยกระทรวงศึกษาธิการ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข องค์การแพธ และองค์กรภาคีต่างๆ รวมทั้งองค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล นางภาวนา เหวียนระวี ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ องค์การแพธ เปิดเผยรายงานวิจัยจากประเทศไทยเกี่ยวกับผลของเพศศึกษาที่มีต่อเยาวชนซึ่งสนับสนุนว่า เพศศึกษาไม่ได้ทำให้นักเรียนมีเพศสัมพันธ์กันเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน การได้เรียนเพศศึกษาทำให้เยาวชนมีความรู้ ทักษะเพิ่มขึ้น และยังพัฒนาทัศนคติที่ดีต่อการมีความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมทางเพศ รวมทั้ง มีการใช้ถุงยางอนามัยเพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มนักเรียนที่มีเพศสัมพันธ์อยู่แล้ว ความท้าทายที่พบในการสอนเพศศึกษาในสถานศึกษา คือ การที่ครูรู้สึกไม่สะดวกใจในการพูดคุยเรื่องเพศในห้องเรียน ทั้งนี้ การอบรมครูอย่างมีคุณภาพจึงเป็นการเน้นที่จำเป็นในหลายๆประเทศ สำหรับประเทศไทยนั้น ได้จัดการอบรมครูทั้งระดับมัธยมและอาชีวศึกษาไปแล้วมากกว่า 5,000 คนเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดการเรียนการสอนเพศศึกษาในสถานศึกษา แม้กระนั้น จำนวนครูดังกล่าวก็ยังห่างไกลจากเป้าหมายที่จะให้มีการสอนเพศศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพในสถานศึกษาทั้งหมดกว่า 30,000 แห่งทั่วประเทศ รัฐบาลในหลายประเทศต่างประสบกับความละเอียดอ่อนทางวัฒนธรรมและการต่อต้านจากชุมชน ดังนั้นเพศศึกษาจึงยังคงถูกต่อต้านอย่างรุนแรงในบางประเทศ เช่น ในบางรัฐของประเทศอินเดีย และฟิลิปปินส์ ฯลฯ Hubert Gijzen ผู้แทนองค์การ UNESCO ในประเทศไทย กล่าวว่า “พ่อแม่และครูมักไม่พูดคุยเรื่องเอชไอวี เพราะส่วนมากก็ไม่ได้รับข้อมูลอย่างรอบด้านเพียงพอ และไม่มีการเตรียมความพร้อม ขณะที่ ยังไม่มีการรักษาเอดส์ให้หายขาดได้ การศึกษาจึงเปรียบเสมือนวัคซีนป้องกันเพียงอย่างเดียวที่มีอยู่และใช้ได้ในตอนนี้” ตัวอย่างจากประเทศไทย พ่อแม่โดยทั่วไปมักรู้สึกไม่สบายใจที่จะพูดคุยเรื่องเพศกับลูกๆ อยู่แล้ว ซึ่งทำให้ครูกลัวว่า พ่อแม่ผู้ปกครองจะไม่พอใจหากมีการสอนเเพศศึกษาในห้องเรียน ปัจจัยดังกล่าวเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักๆ ของการที่มีครูส่วนหนึ่งเลือกสอนเรื่องเพศศึกษาบางเรื่องในชั้นเรียน ขณะที่ครูบางคนก็จะไม่สอนเพศศึกษาเลย. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: มัทธนา บุนนาค องค์การแพลน สำนักงานประเทศไทย โทร. 02 259 8284-6 โทรสาร 02 259-8287 อีเมล์ Matana.Bunnag @plan-international.org อุษาสินี ริ้วทอง องค์การแพธ ประเทศไทย โทร: 02 653-7563 ถึง 5 โทรสาร 02-653-7568

ข่าวกระทรวงศึกษาธิการ+กระทรวงศึกษาธิกาวันนี้

สสวท.เชิญร่วมชมพิธีเปิดออนไลน์งาน "เทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ ครั้งที่ 21"

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) จัดงาน "เทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ ครั้งที่ 21" ภายใต้แนวคิด "งานสีเขียว (Green Jobs)" ในวันที่ 31 ตุลาคม 2568 เวลา 13.30 น. โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ธีระเดช เจียรสุขสกุล ผู้อำนวยการ สสวท. ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ดร.ชัยวุฒิ เลิศวนสิริวรรณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สสวท. และคณะผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรร่วมจัดเข้าร่วมพิธี ได้แก่ Ms. Sweta Madhuri Kannan ผู้แทนเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

ดร.วรัท พฤกษาทวีกุล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิ... "วรัท" ยอมรับหลักสูตรอบรมลูกเสือล้าสมัย สลช.เร่งปรับปรุงให้โดนใจวัยโจ๋ — ดร.วรัท พฤกษาทวีกุล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ทำหน้าที่เลขาธิการลูกเสือแห่งชาติ เป...

บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกั... โฟร์โมสต์ผนึกกำลังพันธมิตร "ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทย" ปีที่ 5 — บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมโฟร์โมสต์...