สภาพผิวหน้าของคนไทย โดยหลัก ๆ แบ่งได้ง่าย ๆ คือ ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม ผิวธรรมดา และผิวแพ้ง่าย ผิวหน้าที่ต่างกันก็ทำให้เกิดปัญหาที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะ “สิว” ซึ่งเป็นปัญหายอดฮิตในกลุ่มวัยรุ่น ที่สร้างความกังวลใจเป็นอย่างมาก ความจริงแล้ว สิวเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนทั้งหนุ่มและสาว รวมไปถึงผู้ใหญ่ก็ยังเป็นสิวได้เหมือนกัน สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวนั้นมีมากมาย จากปัจจัยทั้งจากภายในและภายนอกร่างกาย
แพทย์หญิงกานต์ชนก พานิช กรรมการผู้จัดการ กานต์ชนกคลินิก กล่าวให้คำแนะนำว่า ประเทศไทยเป็นประเทศร้อนชื้น ทำให้เกิดปัญหาเรื่องผิวพรรณได้ง่าย ปัญหาหลัก ๆ คือ สิว ฝ้า กระ ซึ่งในปัจจุบันมีเครื่องสำอางสำหรับดูแลผิวพรรณ ที่ผลิตออกมาหลากหลายแบรนด์ คนส่วนนึงหันไปใช้เครื่องสำอางจากต่างประเทศ ซึ่งจริง ๆ แล้วหากเปรียบเทียบภูมิอากาศของต่างประเทศกับภูมิอากาศในประเทศไทยนั้นมีความแตกต่างกัน บางประเทศมีอากาศหนาวเย็น กลุ่มผลิตภัณฑ์ของต่างประเทศจะมีส่วนผสมของน้ำมันในปริมาณมาก ที่มีคุณสมบัติในการทำให้ผิวชุ่มชื้น ดังนั้นหากเราไปใช้ผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ ที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์ไม่เหมาะกับผิวหน้า ก็จะทำให้เกิดสิวและไม่เหมาะกับคนที่มีอายุไม่เกิน 30 ปี เพราะในช่วงอายุนี้ ตามหลักธรรมชาติแล้วสภาพผิวยังสามารถผลิตไขมัน ไปหล่อเลี้ยงผิวได้อยู่ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันจะเหมาะกับคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งผิวมีความเสื่อมและขาดความชุ่มชื้น
นอกจากการเลือกใช้เครื่องสำอางแล้ว การล้างหน้าก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งจริง ๆ แล้ว การล้างหน้าไม่สามารถขจัดน้ำมันออกจากรูขุมขนที่อุดตันไปแล้วได้ แต่การล้างสามารถกำจัดน้ำมันที่อยู่บริเวณผิวหน้าได้ ซึ่งสามารถลดการสะสมของสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ภายนอกที่อาจทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนเพิ่มได้ โดยมีหลักการล้างหน้าที่ถูกวิธี ดังนี้
1.ไม่ควรล้างหน้าเกินกว่าวันละ 1-2 ครั้ง เพราะการล้างหน้าบ่อยเกินไปอาจระคายเคืองผิวและทำให้ผิวแห้งได้หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำร้อนเพราะจะทำให้ปัญหาสิวที่ใบหน้าของคุณแย่ลงได้
2.ควรจะล้างหน้าบริเวณทีโซนเพราะเป็นบริเวณที่มีความมันมากกว่าส่วนอื่น
3.ควรล้าง บริเวณรอบริมฝีปากให้สะอาด เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่มักใช้ลิปสติก และในลิปสติกมีส่วนผสมของน้ำมัน
4. ควรใช้ยาละลายสิวก่อนล้างหน้า และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์มารค์หน้า เพื่อทำความสะอาดน้ำมันส่วนเกิน
5. อย่าขัดหน้า ให้ล้างหน้าด้วยสบู่แล้วลูบไล้อย่างอ่อนโยนเป็นวงกลม การขัดหน้าไม่สามารถขัดสิวหัวดำออกไปได้ แล้วก็ไม่สามารถป้องกันการก่อตัวของสิวหัวดำได้ด้วย นอกจากนี้การขัดหน้ายังอาจทำให้ผิว โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นสิวเกิดการระคายเคืองได้
อีกปัญหาหนึ่ง ของคุณผู้หญิง คือ “ฝ้า” ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับอายุ เพราะถ้าเป็นเด็กอายุประมาณ 15 ปี โดนแดดยังไงก็ไม่เป็นฝ้า แต่ถ้าอายุ 30 ปีขึ้นไปแล้ว โดนแดดสักพักฝ้าก็ขึ้นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น นั้น หญิงตั้งครรภ์ หรือคนที่มีฮอร์โมนที่มากเกินกว่าปกติ คนที่ทานยาปรับฮอร์โมนในช่วงวัยทอง ล้วนแล้วแต่มีผลกับฮอร์โมน และทำให้เกิดฝ้าได้ง่าย
สำหรับการรักษาฝ้า เป็นเรื่องที่ซับซ้อน ซึ่งวิธีการรักษาในปัจจุบัน ได้แก่การใช้เลเซอร์ สำหรับยิงฝ้า ซึ่งยังอยู่ในช่วงวิจัย การรักษา ค่อนข้างที่จะต้องใช้เวลา ในสมัยก่อนเราไม่มีทางเลือกเยอะ ก็จะมีการใช้กลุ่มยาฝ้า ที่เรียกว่า ไฮโดรควิโนน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีคุณสมบัติในการให้ความขาว แต่ก็จะมีผลข้างเคียงสูง คือเมื่อใช้แล้ว จะทำให้กลับมาดำได้อีก และในเครื่องสำอางบางชนิด เมื่อใช้ไปแรก ๆ ก็จะให้ความขาวเป็นที่พอใจดี แต่พอหยุดใช้ยา หรือ โดนแดดก็จะดำเหมือนหน้ากาก อันนี้เป็นผลที่ตามมา เพราะฉะนั้นจึงต้องหากลุ่มยาที่ไม่ทำให้เกิดกรณีดังกล่าวขึ้น ไม่ให้เกิดผลข้างเคียง เนื่องจากผลของแสงแดดที่มีแสงอุลตร้าไวโอเลตทั้ง A และ B ที่มีความอันตราย และทำให้เกิดมะเร็งในผิวหนังได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันในระยะยาว เราจึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและป้องกันผิวหน้าโดยการใช้เลือกใช้ครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิว นั่นคือ คนผิวมันควรเลือกครีมกันแดดที่เนื้อเบาบาง ส่วนคนผิวแห้งหรือผิวผสมควรเลือกผลิตภัณฑ์แบบกลางๆหรืออาจจะมันหน่อยก็ได้ และคนที่เป็นฝ้า ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง
แพทย์หญิงกานต์ชนก กล่าวต่อด้วยว่า จากเดิมการดูแลผิวของผู้หญิงนั้นจะใช้หลักการ ทา ทาน ทำ เลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับผิวหน้า การล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ซับหน้าเบาๆ ทามอยซ์เจอไรเซอร์และครีมกันแดดป้องกันผิวหน้าหมองคล้ำ หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดโดยตรง และในปัจจุบันคงต้องเพิ่ม ในการหันมาใช้บริการ เมดิคอล บิวตี้ คลินิก และสถาบันความงาม ร่วมด้วย เพราะปัญหาผิวพรรณนั้นไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง การเลือกคลินิกความงามให้เลือกสถาบันที่ได้รับความไว้วางใจ ใช้แพทย์ผิวหนังโดยตรงและผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการแพทย์ และส่วนอื่นๆ ต้องแล้วแต่ดุลยพินิจของแพทย์ นอกจากนี้แล้วก็ต้องอาศัยการรับประทานให้ถูกต้อง การพักผ่อนอย่างเพียงพอและการออกกำลังกายดูแลสุขภาพไปพร้อมๆกันด้วย
ข้อมูล โดย แพทย์หญิงกานต์ชนก พานิช กานต์ชนกคลินิก
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net