ศูนย์นมแม่ฯ หนุน “สัปดาห์นมแม่โลก”

10 Aug 2009

กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--ศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย

“ศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย” สนับสนุน “สัปดาห์นมแม่โลก” ร่วมจัดนิทรรศการภายในงานมหกรรม “ร้อยใจ ร้อยมาลัย ร้อยล้านดวงใจ เทิดไท้ราชินี ครั้งที่ 2” ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 7-8 สิงหาคม พ.ศ.2552 ชูประเด็นใหม่กระตุ้นสังคมไทยตระหนักถึงความสำคัญของ“นมแม่” ภายใต้แนวคิดสากล “นมแม่พร้อมใช้ ช่วยลูกปลอดภัย ในภาวะฉุกเฉิน” โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจาก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด ในวันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2552

ทุกวันที่ 1-7 หรือสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคมของทุกปี เป็นวันที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกจะร่วมกันรณรงค์ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่หรือ สัปดาห์นมแม่โลก World Breastfeeding Week (WBW) ซึ่งปัจจุบันมีประเทศที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้นมากกว่า 120 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ที่มี กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เป็นองค์กรหลัก โดยในแต่ละปี องค์การเครือข่ายพันธมิตรนมแม่โลกหรือ WABA (World Alliance for Breastfeeding Action )จะมีการกำหนดคำขวัญเพื่อใช้ในการรณรงค์ให้ประชาคมโลกตระหนักถึงความสำคัญของ“นมแม่” ซึ่งคำขวัญในปีนี้คือ BREASTFEEDING : A Vital Emergency Response. ซึ่งศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ได้ให้ความหมายว่า “นมแม่พร้อมใช้ ช่วยลูกปลอดภัย ในภาวะฉุกเฉิน “

แพทย์หญิงศิริพร กัญชนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และประธานศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวว่าสัปดาห์นมแม่โลกเป็นสัปดาห์ที่ถูกกำหนดขึ้นโดย องค์การเครือข่ายพันธมิตรนมแม่โลก (WABA) ซึ่งเป็นเครือข่ายระดับโลกของกลุ่มบุคคล หน่วยงาน และองค์กร ต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลก ที่มีจุดมุ่งหมายในการปกป้อง ส่งเสริม และสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย เป็นภาคีเครือข่ายระดับประเทศที่มีส่วนร่วมรณรงค์สัปดาห์นมแม่โลกมาตลอดนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 ซึ่งเป็นปีแรกของการก่อตั้งศูนย์นมแม่ฯ “คำขวัญของการรณรงค์ในปีนี้แปลเป็นไทยว่า นมแม่พร้อมใช้ ช่วยลูกปลอดภัยในภาวะฉุกเฉิน เป็นการสื่อให้เห็นว่าภาวะฉุกเฉินหรือเหตุภัยพิบัติต่างๆ นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทั้งแผ่นดินไหว สึนามิ น้ำท่วม สงคราม หรือแม้แต่การระบาดของโรคภัยต่างๆ เช่นโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ซึ่งทุกภาคส่วนจะต้องมีการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างเหมาะสม ทันกาล ซึ่งภาวะฉุกเฉิน หรือภัยพิบัติเหล่านี้กลุ่มทารกและเด็กเล็กจะมีความเสี่ยงอย่างมากต่อผลกระทบ ทั้งการขาดอาหาร เจ็บป่วย หรือเสียชีวิต ซึ่งในภาวะเช่นนี้เด็กที่ได้รับนมแม่อย่างเต็มที่ตามวัยนอกจากจะได้รับสารอาหารที่สำคัญที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตแล้ว เด็กยังจะได้รับภูมิคุ้มกันจากนมแม่ ไว้สร้างภูมิต้านทานเป็นเกราะคุ้มกันเชื้อโรคต่างๆ ได้” แพทย์หญิงศิริพรกล่าว

เพราะในภาวะที่เกิดภัยพิบัติย่อมไม่สามารถที่จะหานมหรืออาหารให้เด็กทารกและเด็กเล็กได้ แต่ถ้าแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่แล้ว ก็จะสามารถให้นมลูกได้โดยสะดวก สะอาด และทันที ไม่ต้องเสียเงินซื้อหา และในระหว่างที่โอบกอดเพื่อให้นมลูก แม่ก็จะรู้สึกผ่อนคลายมีพลังใจในการผจญกับภาวะพิบัติภัยต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่มีการระบาดของ “โรคไข้หวัดใหญ่ 2009” นมแม่ยังสามารถช่วยปกป้องลูกให้พ้นภัยจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้

“นอกจากสารอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ในน้ำนมแม่จะมี สารชีวภาพ สารต้านเชื้อไวรัส และสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันอื่นๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างให้ระบบภูมิคุ้มกันของทารกทำงานได้ดีขึ้น และสร้างภูมิคุ้มจำเพาะต่อเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้เร็วขึ้น ซึ่งเด็กทารกที่ได้รับนมแม่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้ในระดับหนึ่ง ดีกว่าการให้นมผสมทดแทนซึ่งจะไม่ได้รับสารภูมิคุ้มกันใดๆ เลย นอกจากนี้ยังพบว่าเชื้อไวรัสไม่ได้ติดต่อผ่านทางน้ำนมแม่ ดังนั้นถึงแม่จะป่วย แต่หากมีวิธีการป้องกันการแพร่เชื้อที่ถูกต้อง ก็ยังสามารถให้ลูกกินนมแม่ได้ ซึ่งนี่คือความมหัศจรรย์ของนมแม่” ประธานศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทยระบุ

ด้าน นางสาวนงนุช บุญยเกียรติ รองเลขาธิการศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าการจัดงานมหกรรม “ร้อยใจ ร้อยมาลัย ร้อยล้านดวงใจ เทิดไท้ราชินี” ในครั้งนี้ทางศูนย์นมแม่ฯ ได้ร่วมจัดนิทรรศการเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถฯ โดยนำคำขวัญของสัปดาห์นมแม่โลก “นมแม่ พร้อมใช้ ช่วยลูกปลอดภัย ในภาวะฉุกเฉิน” มาจัดเป็นนิทรรศการเพื่อกระตุ้นให้คนไทยหันมาให้ความสำคัญกับนมแม่ ให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับนมแม่ ท่ามกลางสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่

“นิทรรศการของศูนย์นมแม่ฯ นำเสนอในรูปแบบของวีดีทัศน์ด้วยโปรแกรม E-Book ผ่านจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ ภายในจัดเป็นนิทรรศการนำเสนอเรื่องราวของสัปดาห์นมแม่โลก นมแม่กับภัยพิบัติด้านต่างๆ อาทิ สึนามิ เพื่อสื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อทารกและเด็กในยามเกิดภัยพิบัติต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อดีของนมแม่ในการช่วยลูกต้านภัยไข้หวัดใหญ่ 2009 ซึ่งหลายคนอาจคาดไม่ถึง” รองเลขาธิการศูนย์นมแม่ฯกล่าว

นอกจากนี้ที่บูธของศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ยังได้จัดให้มี “สายใยรัก นมแม่ Café” โดยได้รับการสนับสนุนจาก “คลินิกนมแม่” สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี จัดพยาบาลและเจ้าหน้าที่มาคอยให้คำปรึกษา แนะนำ และตอบปัญหาเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้กับผู้ที่สนใจ และศูนย์นมแม่ฯ ยังได้ผลิตสื่อความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับวิธีการให้ลูกกินนมแม่อย่างไรเพื่อป้องกันภัยจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เพื่อเผยแพร่และสนับสนุนสัปดาห์นมแม่โลกในประเทศไทย.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เหมวดี พลรัฐ ศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย

[email protected]

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net