ล่าชื่อเสนอนายกฯต้านธุรกิจบุหรี่ประชุมในไทย เครือข่ายงดบุหรี่แฉชนะ“ไทยได้ชนะทั้งโลก”

30 Sep 2009

กรุงเทพฯ--30 ก.ย.--สสส.

ศ.เกียรติคุณนพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่กล่าวถึงความร่วมมือกับองค์กรต่างๆไม่ว่าจะเป็น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) และเครือข่ายงดสูบบุหรี่ กล่าวถึงความคืบหน้าของการรณรงค์คัดค้านการจัดงาน TABINFO EXPO 2009 หรืองานแสดงสินค้ายาสูบแบบครบวงจรของบริษัทบุหรี่ชั้นนำที่จะจัดขึ้นในเมืองไทยระหว่างวันที่ 11-13 พฤศจิกายน นี้ว่า การจัดงานดังกล่าวเป็นเวทีที่นำผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจยาสูบตั้งแต่การปลูกใบยาสูบ การเตรียมใบยาสูบ เครื่องจักร ส่วนประกอบในการผลิต เช่น กระดาษมวนยาสูบ สารเคมีที่ผสม การออกแบบซองบุหรี่ให้ดึงดูดความสนใจรวมถึงการทำการตลาด โดยมีประเด็นสำคัญคือ บริษัทบุหรี่เหล่านี้จะทำการตลาดอย่างไรให้ประสบความสำเร็จภายใต้สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกที่ทำกับประเทศต่างๆและแต่ละประเทศที่มีกฎหมายข้อห้ามอย่างเคร่งครัดในเรื่องบุหรี่ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีความเข้มงวดโดยบริษัทบุหรี่มีเอกสารภายในระบุชัดเจนว่า ถ้าชนะประเทศไทยได้ก็จะชนะทั้งโลกเพราะเอเชียเป็นตลาดบุหรี่ที่ใหญ่และเติบโตเร็วที่สุดในโลก เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่กล่าวต่อไปว่าในการประชุมครั้งนี้บริษัทบุหรี่ชั้นนำจะหารือถึงเรื่องการผลิตยาสูบชนิดใหม่ๆออกมาเพื่อหลีกเลี่ยงหรือเอาชนะกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ เช่น ยาสูบชนิดไม่มีควัน ยาสูบชนิดเจล ยาสูบเคี้ยวในปาก ยาสูบไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ซึ่งทั้งหมดล้วนมีนิโคตินผสมอยู่ทั้งสิ้น สำหรับประเทศไทยบุหรี่ชนิดใหม่เหล่านี้มีการแอบนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมายเพราะกฎหมายไทยไม่อนุญาตให้นำเข้าโดยคณะกรรมการควบคุมการบริโภคยาสูบแห่งชาติมีมติไม่อนุญาตให้นำเข้ามาวางจำหน่ายเด็ดขาดแต่ก็ยังมีการลักลอบจำหน่ายผ่านทางเว็บไซด์

ศ.เกียรติคุณนพ.ประกิต กล่าวถึงรูปแบบของการคัดค้านการประชุมว่าจะมีหลากหลายรูปแบบกล่าวคือกระทรวงสาธารณสุขจะไปดูแลไม่ให้การประชุมทำผิดกฎหมายควบคุมยาสูบ เช่น ห้ามโฆษณาส่งเสริมการขาย ห้ามโชว์ผลิตภัณฑ์ ห้ามสูบบุหรี่ในที่ประชุมและการจัดนิทรรศการ ส่วนรัฐบาลก็จะไปดูแลให้หน่วยราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติตามมาตรา 5.3 ของอนุสัญญาควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลกที่ห้ามไม่ให้หน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ไปยุ่งเกี่ยวจัดกิจกรรมกับธุรกิจยาสูบ ที่สำคัญในส่วนของภาคเอกชนและเครือข่ายวิชาชีพบุคลากรด้านสาธารณสุขที่มีอยู่ประมาณ 4 แสนคน เราจะให้ความรู้และติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดโดยจะทำหนังสือเวียน ล่ารายชื่อคัดค้านการจัดงานครั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของเราโดยจะนำหนังสือการคัดค้านพร้อมรายชื่อส่งมอบให้กับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้วย

“การจัดงานครั้งนี้มันเหมือนกับการมาใช้ประเทศไทยเพื่อไปทำร้ายคนทั้งโลก ถ้าเราเฉยๆก็เหมือนกับเราไม่ทำหน้าที่ ในช่วงนั้นเราจะจัดประชุมเครือข่ายรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ในภาคพื้นเอเชียคู่ขนานไปด้วยเพื่อคัดค้านและเฝ้าระวังธุรกิจยาสูบ”ศ.เกียรติคุณนพ.ประกิต กล่าว.