เริ่มแล้วงาน งานประเพณีไหลเรือไฟและ งานกาชาด นครพนม ประจำปี 2552

เริ่มแล้ว งานประเพณีไหลเรือไฟ เป็นประเพณีอันดีงามของชาวจังหวัดนครพนม ที่สืบสานยึดถือปฏิบัติต่อเนื่องกันมาช้านาน มีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู งานประเพณีสำคัญที่มีมาแต่โบราณกาลให้คงอยู่สืบไป และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด และเป็นการเฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติแด่พระองค์อย่างยิ่งใหญ่ตระการตา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ซึ่งเคยเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรประเพณีไหลเรือไฟเมื่อครั้งที่ได้เสด็จมาจังหวัดนครพนมเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2498 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานไฟพระฤกษ์ ให้จังหวัดนครพนม นำไปจุดให้เรือไฟทุกลำในวันไหลเรือไฟ และทรงพระราชทานโล่รางวัลชนะเลิศการแข่งขันเรือยาวชิงแชมป์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ งานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาดจังหวัดนครพนม ปี 2552 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม จะมีการแสดงทางวัฒนธรรมที่สวยงาม 3. กิจกรรมการแสดงทางประเพณี วัฒนธรรม และงานกาชาด จะมีทุกวัน 9 วัน 9 คืน การแสดงของชนเผ่า ไทยแสก ไทยย้อ ผู้ไทย ไทยกะเลิง ไทยโส้ ไทยอีสาน การแสดงวัฒนธรรมจากเมืองฮาติงน์ เวียดนาม การแสดงจากชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม 4. กิจกรรมการแสดงเรือไฟโชว์และลอยกระทงสาย ในแม่น้ำโขง จะมีทุกคืน 9 คืน มีเรือไฟโชว์ ที่สวยงาม 2 ลำ และมีการลอยกระทงสายวันละเป็นหมื่นดวง5. มีการออกร้านกาชาด กิจกรรมของเหล่ากาชาด ในบริเวณสนามศาลากลางจังหวัดนครพนม 6. กิจกรรมการแข่งขันเรือยาวชิงแชมป์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สนามในลำน้ำโขงชิงโล่พระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลรวมอีก 300,000 บาทระว่างวันที่ 1-3 ตุลาคม 25527.การจัดแข่งขันชกมวยโลกศึกไหลเรือไฟภูมิใจไทยนครพนม วันที่ 2 ตุลาคม 2552เวลา 13.00 – 15.00 น. ถ่ายทอดสดทางทีวี ช่อง 7 สี8.กิจกรรมการออกร้านของส่วนราชการและเอกชน สินค้า OTOP ข้าวหอมมะลินครพนมที่ชนะเลิศการประกวด มาแล้ว 4 ปี ซ้อน สินค้าพื้นเมือง 9.กิจกรรมมหรสพภาคบันเทิง คอนเสิร์ต ศิลปินมากมาย10.ช่วงการจัดงาน 9 วัน 9 คืน นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมตำนานเรือไฟ ประวัติการสร้างเรือไฟ ได้ที่พิพิธภัณฑ์เฮือนเรือไฟ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมหลังเก่า11.. วันไหลเรือไฟ วันที่ 4 ตุลาคม 2552 ไฮไล้ท์ของงานจะเป็นวันออกพรรษาคือ วันที่ 4 ตุลาคม 2552 ซึ่งเป็นวันไหลเรือไฟ เริ่มตั้งแต่เช้าเวลา 08.00 น. โดยก่อนไหลเรือไฟทำพิธีรำบูชาพระธาตุพนม บริเวณหน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารด้วยสาวงามพื้นเมืองจากทุกชนเผ่า 500 คน แต่งกายด้วยชุดชนเผ่าต่าง ๆ 7 เผ่า ชนเผ่าผู้ไทย ไทยข่า ไทยย้อ ไทยโส้ ไทยแสก ไทยกะเลิง ไทยกุลา ภาคบ่าย ชาวคุ้มชุมชนเมืองนครพนม จะมีการจัดขบวนแห่ปราสาทผึ้ง ไปถวายวัดต่างๆพร้อมกับ จากนั้นก็จะประกอบพิธีจุดไฟพระฤกษ์พระราชทาน โดยอัญเชิญจากแท่นบุษบกมายังแท่นพิธีหน้าศาลหลักเมือง แล้วประธานในพีธีจุดไฟจากไฟพระฤกษ์ จุดต่อไปให้ผู้แทนเรือไฟแต่ละลำเพื่ออัญเชิญต่อไปจุดที่เรือไฟแต่ละลำ ภาคค่ำ ที่บริเวณริมแม่น้ำโขงในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ความยาวกว่า 3 กิโลเมตรจะงดงามไปด้วยสีสัน ประดับประดาด้วยเรือไฟ เวลา 19.00 น. จะมีการลอยเรือไฟโบราณ ปีนี้จัดทำ 78 ลำ เพื่อเป็นศิริมงคล ถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ที่ทรงเจริญพระชนมายุ 77 พรรษา จากนั้นก็จะมีการประกอบพีธีไหลเรือไฟที่งดงามตระการตา 14 ลำ ความยาว ตั้งแต่ 40 เมตร ถึง 60 เมตร ประดับดวงไฟตั้งแต่ 5,000 - 20,000 ดวง ทั้งประเภทแนวความคิดและประเภทสวยงาม โดยปล่อยเรือไฟตั้งแต่เวลา 19.30 น ไปแล้วเสร็จประมาณ 22.00 น. จะมีการนำเทปออกแพร่ภาพทางโทรทัศนั่วประเทศ ทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ช่วง 23.00 – 24.00 น. และถ่ายทอดทางเว็บไชต์ผ่านอินเตอร์เน็ตออนไลน์ไปทั่วโลก รวมทั้งเสถานีวิทยุกระจายเสียง และเคเบิ้ลทีวีในจังหวัดนครพนมด้วย วันรุ่งขึ้น 5 ตุลาคม ก็จะมีการทำบุญตักบาตรในภาคเช้าที่ริแม่น้ำโขง หน้าวัดโอกาสศรีบัวบาน ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม และตามวัดต่างๆ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 042512774 ดีเจหนุ่มก๊อต FM 107.75 MHz สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
• ข่าวส่งเสริมการท่องเที่ยว
• ข่าวสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
• ข่าวประเพณีไหลเรือไฟ
• ข่าวเฉลิมพระเกียรติฯ