ขน. รับนโยบาย เร่งพัฒนาเชียงแสน 2 และปากบารา

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--16 ก.ค.--ขน.

นายชลอ คชรัตน์ อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี (ขน.) เปิดเผยว่า ขน. ได้รับนโยบายจากทาง รชค. พร้อมเร่งพัฒนาโครงการต่างๆโดยเฉพาะโครงการท่าเรือเชียงแสน 2 และท่าเรือน้ำลึกปากบาราให้สามารถรองรับการขยายตัวของการขนส่งของภูมิภาคในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้ได้ดำเนินการส่งเสริมให้ประชาชนมาใช้บริการคมนาคมทางน้ำกันมากขึ้น โดยได้เดินหน้าโครงการด้านความปลอดภัย ทั้งการดำเนินการปรับปรุงและเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อเกิดความมั่นใจในการใช้บริการการคมนาคมทางน้ำ คือ โครงการสะดวก...ปลอดภัย...ไปทางน้ำ อธิบดี ขน. กล่าวว่า สำหรับโครงการท่าเรือเชียงแสน 2 นั้น หากแล้วเสร็จจะมีศักยภาพสามารถรองรับการขนส่งสินค้าบริเวณภาคเหนือตอนบนได้อย่างน้อย 28 ปี รองรับสินค้าได้สูงสุดที่ 8.9 ล้านตัน/ปี (ล่าสุดในปี 2551 ท่าเรือเชียงแสน ระยะแรก มีปริมาณอยู่ที่ 153,480 ตัน/ปี) สามารถรองรับเรือสินค้าขนาดสูงสุดประมาณ 500 ตันหรือประมาณ 350 ตันกรอส ได้ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น 1,546.40 ล้านบาท ท่าเรือเชียงแสน 2 มีศักยภาพในการเชื่อมโยงภาคการขนส่งระหว่างประเทศลุ่มแม่น้ำโขง และจีนตอนใต้รวมทั้งเชื่อมโยงการขนส่งมายังภาคกลางที่ท่าเรือแหลมฉบัง และทางใต้ที่ท่าเรือระนองเพื่อการส่งออก ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางหรือประตูสู่การค้าในภูมิภาคอินโดจีน สำหรับโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา จ.สตูล จะเป็นประตูในการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยรองรับการนำเข้า-ส่งออกทางฝั่งตะวันตกระหว่างไทยกับชมพูทวีป ตะวันออกกลาง ทวีปยุโรปและทวีปแอฟริกา ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพกาารแข่งขันทางเศรษฐกิจของไทย และรองรับความสะดวก และประหยัดในการส่งออกสินค้าจากไทยไปยังฝั่งตะวันตก โดยมีงบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น 11,466.20 ล้านบาท และล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการและอนุมัติให้ ขน. ดำเนินโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ จ.ตราด ในวงเงินก่อสร้างทั้งสิ้น 1,295.67 ล้านบาท เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าไปประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ กัมพูชา และเวียดนามตอนใต้ ที่มีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 15,000 ล้านบาท/ปี สำหรับนโยบายที่จะเสริมสร้างความปลอดภัยการคมนาคมทางน้ำนั้น ขน. ได้มีการติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิดตลอดลำน้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ท่าน้ำนนทบุรีจนถึงท่าน้ำพระสมุทรเจดีย์ จำนวนรวม 27 สถานี 61 กล้อง คิดเป็นระยะทางรวม 48.2 กม. ซึ่งศูนย์ปลอดภัยทางน้ำแต่ละจุดสามารถติดต่อกับศูนย์ควบคุมปฏิบัติการโทรทัศน์วงจรปิดทางน้ำได้ตลอด 24 ชม. พร้อมรองรับการประสานไปยังส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังมีระบบประชาสัมพันธ์ผ่านป้ายอักษรวิ่งคอมพิวเตอร์ (LED) และระบบเสียงตามสายเพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารความปลอดภัยต่างๆ ไปยังประชาชนที่ใช้บริการทางน้ำได้อีกด้วย สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวประชาสัมพันธ์+การดำเนินการวันนี้

กทม. ตั้งศูนย์บริการประชาชน อำนวยความสะดวกช่วงเทศกาลปีใหม่-เร่งเพิ่มมาตรการความปลอดภัย การเดินทาง

นายอนุชิต พิพิธกุล ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) กทม. กล่าวถึงมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ว่า สนท. ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ กรมการขนส่งทางบก สถานีตำรวจนครบาล หน่วยงานความมั่นคง อาสาสมัคร หน่วยงานทางการแพทย์ หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น โดยกำหนดแผนการดำเนินการระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 67 2 ม.ค. 68 จัดตั้งศูนย์บริการประชาชน เพื่อดูแลและอำนวยความสะดวก อำนวยการจราจร ประชาสัมพันธ์ด้านความปลอดภัยในการเดินทาง ควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์ การให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ

นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักส... กทม. เร่งสร้างความเข้าใจประชาชน-จัดทำระบบสารสนเทศรองรับจัดเก็บค่าธรรมเนียมขยะใหม่ — นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. กล่าวถ...

นายเพ็ชร ภุมมา ผู้อำนวยการเขตป้อมปราบศัตร... เขตป้อมปราบฯ เข้มกวดขันผู้ค้าบนทางเท้า ถ.หลวง-หน้าสำนักการแพทย์ — นายเพ็ชร ภุมมา ผู้อำนวยการเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. กล่าวกรณีมีข้อร้องเรียนผู้ค้านำสินค้...

นางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักก... กทม. สร้างภูมิคุ้มกันนักเรียนรณรงค์ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในสถานศึกษา — นางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา (สนศ.) กทม. กล่าวถึงมาตรกา...

นายสมบัติ เครือกีรติธรรม ผู้อำนวยการเขตห้... เขตห้วยขวางเข้มกวดขัน "ห้ามรถจอด-ขับขี่บนทางเท้า" ถ.เพชรบุรี -พิจารณาตั้งเสากั้นถาวร — นายสมบัติ เครือกีรติธรรม ผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง กทม. กล่าวกรณีมีข้อ...