ซีพีเอฟประสบความสำเร็จในโครงการนำร่องจัดการพลังงานเป็นแห่งแรกของประเทศไทย เดินหน้าขยายผลอีก 3 โรงงาน

30 Jun 2009

กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--ซีพีเอฟ

ที่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ กรุงเทพโปรดิ๊วส จ.สระบุรี รต.ดร.ประพาส ลิมปะพันธุ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะ ได้เข้าตรวจเยี่ยมผลสำเร็จ “โครงการนำร่องบริษัทจัดการพลังงาน” (ESCO Pilot Project) โดยมี นายนพดล ศิริจงดี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ ให้การต้อนรับ

นายนพดล ศิริจงดี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟให้ความสำคัญต่อการลดการใช้พลังงาน และทำการศึกษาดำเนินโครงการด้านพลังงานอย่างต่อเนื่อง จนได้รับการยอมรับว่าเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการอนุรักษ์พลังงาน ล่าสุด โรงงานแปรรูป บมจ.กรุงเทพโปรดิ๊วส จ.สระบุรี สามารถลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 105 ล้านหน่วย และลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลงได้ถึง 312 ล้านบาท หลังจากโรงงานแห่งนี้ได้รับเลือกให้เป็นผู้ดำเนิน “โครงการนำร่องบริษัทจัดการพลังงานแห่งแรกของประเทศไทย” ตั้งแต่ปี 2544

นายนพดล กล่าวอีกว่า การดำเนินโครงการนำร่องบริษัทจัดการพลังงานนี้ บริษัทใช้มาตรการด้านโรงไฟฟ้าระบบพลังงานความร้อนร่วม หรือ CO-GENERATION (Co-Gen) เป็นมาตรการหลัก ซึ่งนอกจากจะสามารถช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานได้อย่างเป็นรูปธรรม และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศแล้ว ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ลงได้ถึงปีละ 53,543 ตัน นับเป็นการบรรเทาภาวะโลกร้อนลงได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งขณะนี้มีแผนที่จะขยายผลสำเร็จโครงการโรงไฟฟ้าระบบพลังงานความร้อนร่วมนี้ไปในโรงงานอื่นๆ ของบริษัทอีก 3 พื้นที่ ได้แก่ ขยายเฟส 2 ที่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่สระบุรี, พื้นที่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่มีนบุรี และพื้นที่โรงงานอาหารแปรรูปหนองจอก, รวมทั้งพื้นที่นอกกลุ่มซีพีเอฟอีก 1 แห่งคือโรงงานซีพี-เมจิ โดยใช้โมเดลที่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ กรุงเทพโปรดิ๊วส จ.สระบุรีเป็นต้นแบบ และใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งจะคาดว่าจะคืนทุนทั้งหมดได้ภายใน 4 ปี 6 เดือน

“ซีพีเอฟ เป็นผู้ผลิตอาหารที่มุ่งสู่การเป็นครัวของโลก ซึ่งไม่เพียงให้ความสำคัญกับมาตรฐานการผลิตในระดับสากล บนหลักการของอาหารปลอดภัย หรือ Food Safety เท่านั้น แต่ในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต จะคำนึงถึงการใช้พลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเสมอ ดังเช่น โครงการโรงไฟฟ้า Co-Gen ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติมาเป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันเตา ทำให้ลดการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้อย่างมาก”

สำหรับที่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ กรุงเทพโปรดิ๊วส จ.สระบุรีนี้ จะใช้ก๊าซธรรมชาติประมาณ 35,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน มาผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยระบบความร้อนจาก การปั่นไฟ โดยจะได้พลังงานออกมาใน 2 รูปแบบ คือ พลังงานไฟฟ้า และพลังงานไอน้ำ

โรงไฟฟ้าระบบพลังงานความร้อนร่วม (Co-Gen) คือ การนำเอาเชื้อเพลิง เช่น ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน หรือชีวมวล มาผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งจะเกิดความร้อนจากการปั่นไฟ โดยจะนำความร้อนที่เกิดจากการปั่นไฟนี้ ไปต้มน้ำสำหรับใช้ในกระบวนการผลิต การนำเชื้อเพลิงมาใช้ผลิตทั้งไฟฟ้าและไอน้ำในคราวเดียว ทำให้เกิดการประหยัดค่าพลังงาน จากเดิมที่ต้องซื้อทั้งไฟฟ้าและเชื้อเพลิงมาต้มน้ำเพื่อผลิตไอน้ำ หลักการดังกล่าวทำให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานของโรงไฟฟ้า Co-Gen เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 80 จากโรงไฟฟ้าระบบทั่วไปที่ให้ประสิทธิภาพเพียงประมาณร้อยละ 50

สำนักสื่อสารและประชาสัมพันธ์ ซีพีเอฟ

โทร. 0-2625-7344-5, 0-2631-0641,0-2638-2713

email : [email protected]