ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในวันจันทร์ที่ 28 ธ.ค. 52 เพื่อสั่งการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาในแต่ละวัน ภายใต้นโยบาย “ไปสะดวก กลับสบาย” ในช่วงปฏิบัติการเข้มข้น “7 วันขับขี่ปลอดภัย เทิดไท้องค์ราชัน” (วันที่ 29 ธ.ค. 52 - 4 ม.ค.53) มุ่งเน้นการควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่เป็นสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุทางถนน โดยบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด จัดตั้งจุดตรวจบริเวณจุดเสี่ยงทั่วประเทศ เพื่อให้เทศกาลปีใหม่ 2553 เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความปลอดภัย
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) คนที่ 1 ในฐานะประธานเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 กล่าวว่า การยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า ช่วงปกติ 2 เท่า ศปถ. จึงได้มุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยในการเดินทางให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 ภายใต้หลักปฏิบัติ “ไปสะดวก กลับสบาย” ในช่วงปฏิบัติการเข้มข้น“7 วันขับขี่ปลอดภัย เทิดไท้องค์ราชัน” ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2552 - 4 มกราคม 2553 โดยตั้งเป้าลดจำนวนครั้ง ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนลงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับเทศกาลปีใหม่ 2552 มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาให้ตรงกับปัจจัยเสี่ยงที่เป็นสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่เป็นเด็กและเยาวชน การดื่มแล้วขับ การไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร เน้นหนักถนนสายรองในพื้นที่ตำบลและระหว่างหมู่บ้าน สำหรับส่วนกลาง ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อสั่งการและปรับมาตรการ แก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนในแต่ละวัน ส่วนจังหวัด ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปฏิบัติงานตามแผน และ ให้ทำหน้าที่อำนวยการแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 ระดับจังหวัด 75 จังหวัด ระดับอำเภอ 877 อำเภอ เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการอุบัติเหตุทางถนนในระดับพื้นที่ รวมถึงจัดทำประชาคมทุกหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนร่วมกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ตลอดจนประสานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดตั้งจุดสกัดประจำหมู่บ้านและชุมชนบริเวณจุดเสี่ยง มุ่งเน้นการบังคับใช้กฎหมายจราจร ควบคู่กับการควบคุมการเมาแล้วขับ ดูแลมิให้คนเมา สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่น ตักเตือนผู้ที่มีอาการมึนเมามิให้เดินทางออกนอกหมู่บ้าน พร้อมจัดหาที่พักผ่อนตามความเหมาะสม หรือรอจนกว่าจะสร่างเมาแล้วจึงให้เดินทางต่อ เป็นต้น รวมทั้งกวดขันการห้ามจำหน่ายสุราในสถานีบริการน้ำมัน สถานที่ราชการ วัดและโรงเรียน ทั้งนี้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณามอบรางวัลแก่หมู่บ้าน ชุมชนที่สามารถลดอุบัติเหตุทางถนนได้ตามเป้าหมายที่กำหนด
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่า ศปถ. ได้จัดแถลงข่าวสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนเป็นประจำทุกวัน ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2552 – 5 มกราคม 2553 เพื่อให้สถิติอุบัติเหตุทางถนนเป็นเครื่องย้ำเตือนใจให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง รวมทั้งประสานให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นดูแลความปลอดภัยทางถนนของผู้ใช้รถใช้ถนนในพื้นที่อย่างเต็มที่ ระดมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจร่วมบนจุดเสี่ยงทั่วประเทศ เน้นหนักเส้นทางสายรองระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2552 - 2 มกราคม 2553 เข้มงวดการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อเสริมประสิทธิภาพของจุดตรวจบนถนนสายหลัก และให้คนในชุมชนร่วมเป็นกำลังสำคัญในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน นอกจากนี้ ศปถ. ยังได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุน การดำเนินงานตามมาตรการของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน โดยให้กระทรวงคมนาคมอำนวยความสะดวกด้านสภาพเส้นทางและ กวดขันพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะไม่ให้ดื่มสุราในขณะปฏิบัติหน้าที่ มีระดับแอลกอฮอล์เป็น “ศูนย์” รวมถึงประสานกระทรวงสาธารณสุข เตรียมพร้อมด้านระบบการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้อย่างทันท่วงที สุดท้ายนี้ ขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมเป็นเจ้าภาพ ในการลดอุบัติเหตุทางถนน ด้วยการเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง ตรวจสอบสภาพรถให้สามารถใช้งานได้ดี วางแผนเลือกใช้เส้นทางที่ปลอดภัย ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และให้ใช้เทศกาลปีใหม่เป็นจุดเริ่มต้นในการร่วมกันสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนขึ้นในสังคมไทย เพื่อให้เทศกาลปีใหม่ 2553 เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความปลอดภัย