ปภ.เตือน 33 จังหวัดภาคเหนือ อีสานเตรียมรับมือสภาพอากาศหนาวเย็น ส่วนภาคใต้ 9 จังหวัดระวังน้ำท่วมฉับพลันและคลื่นซัดฝั่ง

17 Dec 2009

กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--ปภ.

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสาน 33 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือแจ้งเตือนประชาชนเตรียมรับมือสภาพอากาศหนาวเย็นในช่วงวันที่ 17-21 ธันวาคม 2552 ส่วน 9 จังหวัดภาคใต้ให้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และคลื่นซัดฝั่งในระยะ 3-4 วันนี้ (วันที่ 18-21 ธันวาคม 2552)

นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า ช่วงวันที่ 17-21 ธันวาคม 2552 ความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุม ประเทศไทยตอนบนทำให้พื้นที่ 33 จังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี หนองบัวลำภู เลย หนองคาย อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และยโสธร มีอุณหภูมิลดลง อากาศหนาวเย็น และลมแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมชายฝั่งทะเล ประเทศมาเลเซีย และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่าง ส่งผลให้พื้นที่ภาคใต้ 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสตูลมีฝนตกและตกหนักในบางพื้นที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และคลื่นซัดฝั่งได้ในระยะนี้ สำหรับจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานให้เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว และแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณเทือกเขาและพื้นที่สูง เตรียมการป้องกันอันตรายจากภัยธรรมชาติที่มักเกิดขึ้นในช่วงอากาศหนาว พร้อมทั้งกำชับ มิสเตอร์เตือนภัยแจ้งข้อมูลสถานการณ์ภัยแก่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯในพื้นที่ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและดูแลผลผลิตทางการเกษตรเป็นพิเศษ รวมถึงเพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมที่เกี่ยวกับไฟทุกประเภททั้งการประกอบอาหาร จุดธูปเทียน เป็นต้น เนื่องจากฤดูหนาวสภาพอากาศแห้งและลมพัดแรง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยและไฟป่าสูงกว่าปกติ การขับขี่รถในช่วงที่มีหมอกลงจัด ควรเปิดไฟต่ำหรือไฟตัดหมอกจะช่วยให้มองเห็นสภาพเส้นทางได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า ปภ.ได้ประสานให้ 9 จังหวัดภาคใต้ดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ลาดเชิงเขา ที่ลุ่มริมน้ำ และชายฝั่งทะเลเตรียมการป้องกันอันตรายจากภาวะฝนตกหนักและคลื่นซัดชายฝั่งที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน โดยหมั่นติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมทั้งสั่งการให้มิสเตอร์เตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การช่วยเหลือและอพยพผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนจัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย หากเกิดสถานการณ์รุนแรงให้ดำเนินการ

ตามขั้นตอนของแผนป้องกันภัยของจังหวัดและอำเภอ นอกจากนี้ยังพบว่า คลื่นลมในอ่าวไทยบริเวณห่างฝั่ง และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออกระมัดระวังอันตรายจากคลื่นซัดฝั่ง และชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ สุดท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศหนาวเย็น อุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม และคลื่นซัดฝั่ง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป