“เทศกาลปิดทองหลังพระ” นิทรรศการมีชีวิต แหล่งเรียนรู้โครงการพระราชดำริ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--2 ธ.ค.--

ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา และเพื่อปลูกจิตสำนึกให้คนไทยได้ตระหนักถึงการทรงงานอย่างต่อเนื่องของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมากว่า 62 ปี โครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ จึงได้จัด “เทศกาลปิดทองหลังพระ” ขึ้น โดยนำเสนอในรูปแบบของนิทรรศการมีชีวิต (Live Exhibition) ซึ่งเป็นการบูรณาการองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริในมิติน้ำ 4 เรื่อง คือ แก้มลิง, หญ้าแฝก, ฝนหลวง และกังหันน้ำชัยพัฒนา ผ่านการใช้สื่อ Interactive เพื่อให้เยาวชน ครอบครัว รวมถึงประชาชนทั่วไปได้ร่วมสนุก และมีปฏิสัมพันธ์กับนิทรรศการ อีกทั้งได้นำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปรับให้เข้าใจง่ายขึ้น เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้เข้าชมงานที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่ รวมถึงครอบครัว และเพื่อปลูกฝังความรู้ความเข้าใจในโครงการพระราชดำริ ซึ่งในส่วนนิทรรศการแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลักๆ คือ ส่วนที่ 1 นำเสนอเนื้อหาโครงการในพระราชดำริ “แก้มลิง” ผ่านเกม Interactive เพื่อให้เกิดการเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดทำโครงการแก้มลิง เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม และเป็นที่กักเก็บน้ำเพื่อระบายออก โดยนำโครงการมาขยายเป็นภาพเทคโนโลยีสมัยใหม่ สามารถสัมผัสเข้าใจง่ายต่อการเรียนรู้สำหรับเยาวชน และประชาชนทั่วไป ส่วนที่ 2 “ฝ่าด่านปราการธรรมชาติ” แสดงเนื้อหาของ “โครงการหญ้าแฝก” ผ่านนิทรรศการเสมือนจริง จำลองลักษณะของรากหญ้าแฝกใต้พื้นดินที่ช่วยพยุงหน้าดิน สื่อถึงการทำงานของหญ้าแฝก ที่เปรียบเสมือนปราการธรรมชาติ รักษาหน้าดิน จำลองให้เห็นรากของหญ้าแฝกที่มีระบบรากลึก แผ่กระจายลงไปในดินตรงๆ เป็นแผงเหมือนกำแพง ช่วยกรองตะกอนดินและรักษาหน้าดินได้ดี พร้อมที่จะทำหน้าที่รักษาหน้าดินไม่ให้พังทลาย ส่วนที่ 3 “ผลิตก๊าซ O2 ไว้หายใจ” การจำลองระบบการทำงานของ “กังหันน้ำชัยพัฒนา” เพื่อบำบัดน้ำเสีย ให้ผู้เข้าชมมีส่วนร่วมด้วยการเพิ่มอ๊อกซิเจน เข้าไปในน้ำ และนำมาใช้ในการปรับปรุงคุณภาพน้ำตามสถานที่ต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาค ส่วนที่ 4 “จูงเมฆไปโปรยฝน” นิทรรศการ “ฝนหลวง” บอกเล่าเรื่องราวผ่านจอภาพเกม Interactive จำลองเอาขั้นตอนในการทำฝนหลวง ให้ผู้เข้าชมได้ทดลองมีส่วนร่วม ว่ากระบวนการของการทำฝนหลวงนั้นมีวิธีการอย่างไรที่ช่วยให้ภาคการเกษตร หรือพื้นที่ที่แห้งแล้งกลายมาเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ รวมถึงน้ำฝนที่ตกลงมายังสามารถกักเก็บทำประโยชน์ในด้านอื่นๆ ได้อีกมากมาย นอกจากนี้ภายใน “เทศกาลปิดทองหลังพระ” ยังจำลองเส้นทางการท่องเที่ยวเรียนรู้โครงการพระราชดำริ 8 เส้นทาง ในโครงการ “ไปไหน...ไปกัน” และในทุกค่ำคืนของการจัด “เทศกาลปิดทองหลังพระ” จะมีการฉายภาพยนตร์สั้น“หยาดน้ำเพื่อชีวิต ในหลวงคือแรงบันดาลใจ” จำนวน 11 เรื่อง จาก 11 ผู้กำกับดัง ในรูปแบบหนังกลางแปลง และมีการแสดงผลงานและจำหน่ายสินค้าจากโครงการพระราชดำริและผลิตภัณฑ์จากชุมชนที่ได้ดำเนินตามแนวพระราชดำริอีกมากมาย สำหรับงาน “เทศกาลปิดทองหลังพระ” จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 โดยมี ศาสตราจารย์นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี และประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ เป็นประธานเปิดงาน โดยงานจะจัดไปจนถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2552 ตั้งแต่เวลา 10.30 – 21.00 น. ณ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จตุจักร ทั้งนี้ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2552 เวลา 19.00 น. ขอเชิญคนไทยร่วมใจจุดเทียนชัยถวายพระพรพร้อมกันภายในงาน เพื่อถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว+โครงการปิดทองหลังพระวันนี้

สุดอลังการ! การแสดงกายกรรมจีน China National Acrobatic Troupe โชว์เปิดเทศกาล Bangkok Festivals ครั้งที่ 27 เฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน

มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพฯ ครั้งที่ 27 (Bangkok's 27th International Festival of Dance & Music) เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ ด้วยการแสดงกายกรรมอันตระการตาจากคณะ China National Acrobatic Troupe ที่นำนักกายกรรมกว่า 50 ชีวิตมาสร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ชาวไทย โดยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการแสดง เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน คณะกายกรรมแห่งชาติจีนก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1950

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปร... บางจากฯ เชิญชวน สัมผัสน้ำพระราชหฤทัยจากฟ้าสู่มหานคร ในงาน "โครงการหลวง 56" — พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมร...

สศร.จัดกิจกรรมจิตอาสาสำนักงานศิลปวัฒนธรรม... สศร.จัดกิจกรรมจิตอาสา — สศร.จัดกิจกรรมจิตอาสาสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ศิลป์สร้างสรรค์สร้างสุขเพื่อสังคม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ...