ราชภัฏโคราชจับมือกระทรวงพลังงานจัดสัมมนาชูยุทธศาสตร์กระจายประเภทเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า

20 Jan 2010

กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ร่วมกับ สำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน จัดสัมมนาเรื่อง "ทิศทางและ โอกาสการพัฒนาพลังงานทางเลือกของ จ.นครราชสีมา" ณ หอประชุมอนุสรณ์ 70 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยมี อธิการบดี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เศาวนิต เศาณานนท์ เป็นผู้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมการสัมมนา จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานนายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล เป็นประธาน เปิดสัมมนาและปาฐกถา เรื่อง "นโยบายความมั่นคงทางด้านพลังงาน"

นายแพทย์วรรณรัตน์ กล่าวว่า การกระจาย ประเภทของเชื้อเพลิงให้มีความหลากหลาย ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ เพื่อเสริมสร้าง ความมั่นคงด้านการผลิตไฟฟ้าของประเทศ ให้มีพลังงานไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพ ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยใช้ก๊าซธรรมชาติเป็น เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้ากว่า 70% กระทรวงพลังงานจึงมีนโยบายเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานชนิดอื่นมากขึ้น สำหรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ได้มีการส่งเสริมสนับสนุนและให้เงินส่วนเพิ่มแก่ผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) และผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) เพื่อดึงศักยภาพจากแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ และทรัพยากรที่มีอยู่ในประเทศออกมาใช้มากยิ่งขึ้น ประกอบด้วย พลังงาน ชีวมวล พลังงานจากก๊าซชีวภาพ พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงการขยายการรับซื้อไฟฟ้า จากประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ กระทรวงพลังงาน ได้กำหนดยุทธศาสตร์การสร้างความมั่นคง ด้านพลังงานของประเทศ ได้แก่ การสร้างกระบวนการจัดหาพลังงานให้เพียงพอกับความต้องการ โดยให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดการยอมรับ เช่น กระบวนการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) การส่งเสริมและสนับสนุนให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการพัฒนาและ จัดหาพลังงานโดยเฉพาะพลังงานทดแทนที่มีอยู่ในท้องถิ่น รวมทั้งการจัดตั้งสถานีพลังงานชุมชน และ การเสริมสร้างขีดความสามารถเพื่อรองรับกับวิกฤตและภาวะฉุกเฉิน โดยเฉพาะ ก๊าซธรรมชาติและ LPG

สำหรับจังหวัดนครราชสีมา เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่และมีปริมาณการใช้พลังงาน เพิ่มสูงขึ้นพร้อมกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของจังหวัด แต่ในขณะเดียวกัน ถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนาพลังงานทดแทน ด้วยมีความพร้อมทั้งปริมาณวัสดุเหลือใช้ทาง การเกษตร พลังงานน้ำ และพลังงานลม ซึ่งล้วนเป็นพลังงานทางเลือกที่กระทรวงพลังงานได้ให้ การสนับสนุน ตามแผนพลังงานทดแทน 15 ปี โดยเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนจาก 6.4% ของพลังงานทั้งหมดในปัจจุบัน เป็น 20% ในอีก 15 ปี ข้างหน้า โดยครึ่งหนึ่งหรือ 10% จะผลิตกระแส ไฟฟ้าจากพลังงานร่วมทั้งพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ และพลังงานจากชีวมวล ไบโอแก๊ส "นโยบายที่กระทรวงพลังงานให้ความสำคัญ คือ ทำให้อนาคตประเทศไทยมีพลังงาน ใช้อย่างยั่งยืนและเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน โดยการวางแผนจัดหาแหล่ง พลังงานใหม่ เพื่อสร้างความหลากหลายทางเชื้อเพลิง ด้วยการพึ่งพาเชื้อเพลิงในประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงต่อความผันผวนของราคา และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย แต่อย่างไร ก็ตาม สิ่งสำคัญคือ การใช้พลังงานที่มีอยู่อย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้ความ ต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆหรือคงที่ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการนำเข้าเชื้อเพลิงและการพึ่งพา แหล่งเชื้อเพลิงจากต่างชาติ และท้ายที่สุดจะช่วยนำพาประเทศไทยไปสู่หนทางของความมั่นคง ด้านพลังงานได้ไม่ยาก"

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net