เจ็ทสตาร์ประกาศผนึกกำลังร่วมกับแอร์เอเชียก่อตั้งพันธมิตรสายการบินต้นทุนต่ำรายแรกของโลก ทั้งนี้ การก่อตั้งพันธมิตรการบินใหม่ดังกล่าวจะช่วยให้ทั้งสองสายการบินมีต้นทุนในการดำเนินงานลดลง ทั้งยังสามารถใช้ความรู้และทักษะการทำงานร่วมกันได้ ส่งผลให้ทั้งสองสายการบินสามารถให้บริการรับส่งผู้โดยสารด้วยค่าโดยสารราคาประหยัดมากยิ่งขึ้น
สำหรับพันธมิตรสายการบินต้นทุนต่ำรายแรกของโลก ประกอบด้วยสองสายการบินราคาประหยัดชั้นนำแห่งภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โดยมุ่งสร้างโอกาสในการลดต้นทุนในการดำเนินงาน และการประหยัดค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด เพื่อประโยชน์ต่อลูกค้าทั่วภูมิภาคดังกล่าว ทั้งนี้ ทั้งสองสายการบินจะร่วมมือกันกำหนดคุณสมบัติจำเพาะของเครื่องบินขนาดลำตัวแคบรุ่นใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการเดินทางกับสายการบินค่าโดยสารราคาประหยัดได้อย่างตรงจุด รวมทั้งมองหาช่องทางในการสั่งซื้อเครื่องบินร่วมกัน
มร. อลัน จอยซ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการบินแควนตัส มร. บรูซ บิวคานัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเจ็ทสตาร์ และดาตุ๊ก เสรี โทนี เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินแอร์เอเชียได้ร่วมลงนามเห็นชอบกับการก่อตั้งพันธมิตรดังกล่าว ณ กรุงซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียในวันนี้
มร. อลัน จอยซ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการบินแควนตัส กล่าวถึงการจัดตั้งพันธมิตรการบินใหม่ว่า “จะก่อให้เกิดประโยชน์ อย่างแท้จริงต่อการดำเนินงานของสายการบินเจ็ทสตาร์และแอร์เอเชียในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดการบินที่มีการแข่งขันสูงที่สุดของโลก โดยจะช่วยให้ทั้งสองสายการบินสามารถเจาะเข้าถึงตลาดดังกล่าวได้มากขึ้น ทั้งในรูปของการขยายเส้นทางบินมากกว่าและการบริการด้วยค่าโดยสารที่มีราคาประหยัดกว่าสายการบินคู่แข่งรายใหญ่ต่างๆ ตลอดจนใช้ประโยชน์จากขนาดของธุรกิจของตนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ”
“เจ็ทสตาร์และแอร์เอเชียเป็นผู้บุกเบิกริเริ่มจัดตั้งรูปแบบธุรกิจการบินระยะไกลที่มีค่าโดยสารราคาประหยัด การประกาศจัดตั้งพันธมิตรการบินใหม่ในวันนี้เป็นการพลิกรูปแบบพันธมิตรการบินจากแบบเดิมสู่พันธมิตรการบินแบบใหม่ที่มุ่งเน้นลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน สำหรับตลาดการบินในภูมิภาคเอเชียเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างเด่นชัดและมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วตลอดปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีสภาวะการดำเนินงานที่ยากลำบาก แต่มีการคาดการณ์ว่า จะมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น ดังนั้น การผนึกกำลังเป็นพันธมิตรครั้งนี้จะมอบโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และสร้างความคุ้มค่าสูงสุดให้กับทั้งสองสายการบินดังกล่าวอย่างแน่นอน” มร. จอยซ์ กล่าว
สำหรับข้อตกลงในการเป็นพันธมิตรดังกล่าว ประกอบด้วย
- การกำหนดคุณลักษณะของฝูงบินในอนาคตร่วมกัน – ทั้งเจ็ทสตาร์และแอร์เอเชียจะร่วมกันมองหาลู่ทางในการจัดซื้อเครื่องบินขนาดลำตัวแคบรุ่นใหม่ร่วมกัน เพื่อลดต้นทุนในการดำเนินงานอันเป็นผลเนื่องมาจากการมียอดสั่งซื้อที่สูงจะทำให้ราคาลดลง ตลอดจนร่วมกำหนดแนวทางการออกแบบคุณลักษณะของเครื่องบินให้มีการดำเนินงานที่เปี่ยมประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยต้นทุนที่ลดลง
- บริการผู้โดยสาร สัมภาระ และเครื่องบินภายในสนามบิน – พัฒนาความร่วมมือในการยกระดับการให้บริการแก่ผู้โดยสาร การจัดการสัมภาระและเครื่องบินภายในสนามบินในประเทศออสเตรเลียและภูมิภาคเอเชีย
- ใช้อุปกรณ์ชิ้นส่วนเครื่องบินและบริการซ่อมบำรุงร่วมกัน – ใช้คลังอุปกรณ์ชิ้นส่วนเครื่องบินร่วมกัน
- ใช้บริการซ่อมบำรุงร่วมกัน – ใช้บริการวิศวกรรมและซ่อมบำรุงร่วมกัน โดยเจ็ทสตาร์ยังคงมุ่งใช้ระบบและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในประเทศออสเตรเลีย และ
- ระบบบริหารจัดการผู้โดยสาร – กำหนดแนวทางการบริหารจัดการผู้โดยสารบนเครือข่ายเส้นทางบินของเจ็ทสตาร์และแอร์เอเชีย (อาทิ การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารในการเปลี่ยนเที่ยวบินของสายการบินอื่น)
ด้านมร. บรูซ บิวคานัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินเจ็ทสตาร์ กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้เกิดจากความต้องการ ลดต้นทุนของทั้งสองสายการบิน เพื่อตอกย้ำปณิธานของเจ็ทสตาร์และแอร์เอเชียที่มุ่งมอบค่าโดยสารราคาประหยัดให้แก่ผู้โดยสาร” และเสริมว่า “ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เจ็ทสตาร์ได้ลดต้นทุนที่สามารถควบคุมได้สูงถึงปีละ 5% สำหรับการจัดตั้งพันธมิตรการบินใหม่ดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รุดหน้าอีกขั้นทางด้านการจัดการต้นทุนและการมอบค่าโดยสารราคาประหยัดอย่างต่อเนื่อง ในอนาคต เจ็ทสตาร์และแอร์เอเชียจะร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินพัฒนาฝูงบินใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการในการทำธุรกิจของทั้งสองบริษัทต่อไป”
มร. โทนี เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินแอร์เอเชียมองว่า การจัดตั้งพันธมิตรการบินใหม่ครั้งนี้เป็นก้าวที่รุดหน้าอีกขั้นในการดำเนินกลยุทธ์ของแอร์เอเชียเพื่อครองความเป็นผู้นำในตลาดสายการบินต้นทุนต่ำของโลก
“แอร์เอเชียเชื่อมั่นว่า การผนึกกำลังร่วมกันครั้งนี้จะส่งผลให้แอร์เอเชียสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดสายการบินต้นทุนต่ำระดับโลก แม้ว่าจะต้องเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เรามีนโยบายที่มุ่งควบคุมต้นทุนให้ต่ำที่สุดเพื่อมอบค่าโดยสาราคาประหยัดสุดให้แก่ผู้โดยสารต่อไปอย่างต่อเนื่อง” มร. เฟอร์นานเดส กล่าว
“การผนึกกำลังร่วมกับเจ็ทสตาร์ครั้งนี้จะช่วยให้เรามองหาลู่ทางความร่วมมือในการดำเนินงาน ตอกย้ำปรัชญาในการทำธุรกิจของแอร์เอเชียและเจ็ทสตาร์ที่มุ่งให้บริการที่เปี่ยมประสิทธิภาพด้วยต้นทุนต่ำและมีค่าโดยสารราคาประหยัดแก่ผู้โดยสาร” มร. เฟอร์นานเดส กล่าวปิดท้าย
เจ็ทสตาร์และแอร์เอเชียมีรายได้รวมกันทั้งสิ้น 3,000 ล้านเหรียญออสเตรเลียในปีงบประมาณ 2552
*บริการร่วมกันดังกล่าวขึ้นอยู่กับการอนุมัติตามระเบียบข้อบังคับทางการบิน
ข้อมูลเบื้องต้น
เกี่ยวกับเจ็ทสตาร์
เจ็ทสตาร์คือสายการบินต้นทุนต่ำในเครือของแควนตัส กรุ๊ป โดยมีแควนตัส กรุ๊ปเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด แต่มีคณะผู้บริหารคนละชุดกับแควนตัส เจ็ทสตาร์มีสำนักงานใหญ่ในกรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยเริ่มเปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2547 และได้ก้าวขึ้นเป็นสายการบินระยะไกลและมีต้นทุนต่ำรายใหญ่ที่สุดของโลก ทั้งยังมีความคุ้มค่าในแง่ของรายได้สูงสุดของโลก นับตั้งแต่เปิดดำเนินการจนถึง ณ ขณะนี้ บริษัทได้ให้บริการรับส่งผู้โดยสารรวมทั้งสิ้นกว่า 50 ล้านคน
เจ็ทสตาร์มีเที่ยวบินภายในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เที่ยวบินระหว่างประเทศจากประเทศออสเตรเลียสู่จุดหมายปลายทางต่างๆ และบริการภาคพื้นดินด่วนพิเศษในประเทศออสเตรเลีย สำหรับสายการบินเจ็ทสตาร์ เอเชีย/แวลูแอร์ (ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์) และเจ็ทสตาร์ แปซิฟิก (ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศเวียดนาม)
มีแควนตัส กรุ๊ปเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 49% และ 27% ตามลำดับ
เจ็ทสตาร์ถือเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การเติบโตแบบ 2 แบรนด์ของกลุ่มแควนตัส ซึ่งประกอบด้วยการเป็นสายการบินระดับพรีเมี่ยม (สายการบินแควนตัส) และสายการบินต้นทุนต่ำ
ปัจจุบัน เจ็ทสตาร์ กรุ๊ปมีฝูงบินรวมทั้งสิ้น 60 ลำ ได้แก่ เครื่องบินตระกูลเอ320 จำนวน 48 ลำ (ซึ่งประกอบด้วยเครื่องบินเอ320 จำนวน 34 ลำ และเอ321 จำนวน 5 ลำ ของสายการบินเจ็ทสตาร์ ออสเตรเลีย เครื่องบินเอ320 จำนวน 8 ลำของสายการบินเจ็ทสตาร์ เอเชีย และเครื่องบินเอ320 จำนวน 1 ลำของสายการบินเจ็ทสตาร์ แปซิฟิก) เครื่องบินเอ330-200 ระยะไกลจำนวน 7 ลำ และเครื่องบินบี737-400 อีก 5 ลำซึ่งประจำการในประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ เจ็ทสตาร์ยังได้สั่งซื้อและมีสิทธิ์จองซื้อเครื่องบินใหม่อีก 100 ลำ
ปัจจุบัน เจ็ทสตาร์ให้บริการเที่ยวบินรวมทั้งสิ้นสัปดาห์ละ 1,900 เที่ยวสู่จุดหมายปลายทางมากกว่า 50 แห่งในประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก
เจ็ทสตาร์เป็นสายการบินที่ได้รับรางวัลนานาประเภท ทั้งยังได้รับเลือกจากสกายแทร็กซ์ให้เป็นสายการบินต้นทุนต่ำดีเด่นของโลกในปี 2550 สำหรับเว็บไซด์ Jetstar.com ของเจ็ทสตาร์ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในเว็บไซด์การเดินทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก
เกี่ยวกับแอร์เอเชียและแอร์เอเชียเอ็กซ์
แอร์เอเชียคือสายการบินต้นทุนต่ำรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย มีเครือข่ายเส้นทางบินมากที่สุดรวมทั้งสิ้น 113 เส้นทางสู่จุดหมายปลายทางมากกว่า 60 แห่ง แอร์เอเชียเปิดดำเนินการมาเป็นระยะเวลา 8 ปี ให้บริการรับส่งผู้โดยสารมากกว่า 75 ล้านคนและมีฝูงบินที่ขยายตัวจากจำนวน 2 ลำในระยะเริ่มต้นดำเนินการสู่ 85 ลำในปัจจุบัน ปัจจุบัน แอร์เอเชียมีความภาคภูมิใจที่ได้ขึ้นแท่นเป็นสายการบินแห่งภูมิภาคอาเซียน (โดยเป็นสมาชิกของสมาคมกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) และมีสำนักงานในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย พร้อมทั้งมีเครือข่ายเส้นทางบินครอบคลุมทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียน จีน อินเดีย บังคลาเทศและศรีลังกา แอร์เอเชียมีเครือข่ายการบินสู่จุดหมายปลายทางมากที่สุด และมีจำนวนเที่ยวบินมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน แอร์เอเชียได้รับรางวัลสายการบินต้นทุนต่ำที่ดีที่สุดของโลกประจำปี 2552 จากการสำรวจสายการบินดีเด่นทั่วโลกของสกายแทร็กซ์
นอกจากนี้ การดำเนินงานของแอร์เอเชียยังได้รับการสนับสนุนจากสายการบินแอร์เอเชียเอ็กซ์ ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำระยะไกลในเครือของแอร์เอเชียที่เปิดให้บริการเที่ยวบินสู่จุดหมายปลายทางในประเทศจีน ออสเตรเลีย ไต้หวัน สหราชอาณาจักร และอาบูดาบี ในปี 2552 แอร์เอเชีย กรุ๊ปให้บริการรับส่งผู้โดยสารประมาณ 25 ล้านคน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.airasia.com
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ศรีเบญจา/สาธิดา
บ อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ จำกัด
โทร. 02 252 9871
อีเมล์
[email protected]
Mail from:
Barakorn Petchnoi
Media Manager
Aziam Burson-Marsteller (ABM)
Bangkok, Thailand
Tel: +66 (0) 2252 9871 ext. 123
Fax: +66 (0) 2254 8353