ชมรมโภชนวิทยามหิดล แนะ!!! มหันตภัยเงียบ “Metabolic Syndrome… รอบเอวอันตราย”

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--คอมมูนิเคชั่น แอนด์ มอร์

ชมรมโภชนวิทยามหิดล แนะ!!! มหันตภัยเงียบ! “เมตาบอลิกซินโดรม”....สืบเนื่องจากความเจริญและเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำทำคนไทยอ้วนลงพุง เสี่ยงโรคร้ายในกลุ่มเมตาบอลิกซินโดรม อาทิ โรคหลอดเลือดและหัวใจ หลอดเลือดสมอง ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน ภัยร้ายที่เป็นสาเหตุการตายมากที่สุดในโลก ดังนั้นทางชมรมโภชนวิทยามหิดล จึงร่วมกับ วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก และบริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดประชุมวิชาการเรื่อง “Metabolic Syndrome…รอบเอวอันตราย” ให้กับนักโภชนาการ นักกำหนดอาหาร และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อทำความเข้าใจและเฝ้าระวังภัยเงียบให้กับผู้มีความเสี่ยง พร้อมแนะหลักโภชนาการลดเสี่ยงโรคร้าย ณ ห้องประชุม โรงแรมโลตัส ปางสวนแก้ว จ. เชียงใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้ พลเอก นพ.ประวิชช์ ตันประเสริฐ ผู้อำนวยการสถาบันหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลพระรามเก้า เปิดเผยว่า จากสถิติคนไทยตายด้วยโรคกลุ่มเมตาบอลิกซินโดรม หรืออ้วนลงพุง ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงหลอดเลือดสมอง และเบาหวาน รวมวันละ 236 คน หรือชั่วโมงละ 10 คน นั่นคือ!! 6 นาที ต่อ 1 คน ซึ่งมีผลสำรวจว่ากลุ่มคนอ้วนลงพุง หรือชายที่มีรอบเอวมากกว่า 90 ซม. และหญิงที่มีรอบเอวมากกว่า 80 ซม. มีความเสี่ยงสูงกว่ากลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ได้แก่ ความดันโลหิตสูง ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์สูง เอชดีแอลต่ำ และความเครียดสูง เนื่องจากคนอ้วนลงพุงจะมีไขมันจำนวนมากอยู่บริเวณรอบเอวและจะเป็นแหล่งสะสมพลังงานส่วนเกิน ซึ่งอันตรายที่แฝงมานั้นมีมากกว่าการสะสมพลังงาน เพราะไขมันเหล่านั้นจะผลิตฮอร์โมนออกมาเช่นเดียวกับต่อมผลิตฮอร์โมน โดยจะมีผลต่อการเกิดเมตาบอลิกซินโดรมมากขึ้น สาเหตุสำคัญของการเกิดโรคกลุ่มนี้จะมาพร้อมกับความเจริญและเทคโนโลยีที่นำไปสู่การบริโภคอาหารไม่ดี เนื่องจากคนในปัจจุบันมักจะนั่งทำงานอยู่กับที่วันละหลายชั่วโมงอาศัยแต่สิ่งอำนวยความสะดวกโดยไม่ขยับร่างกายและไม่ออกกำลังกาย ทั้งยังกินอาหารที่มีไขมันสูง ซึ่งไขมันเป็นตัวการสำคัญทำให้เกิดเมตาบอลิกซินโดรม หรืออ้วนลงพุง หากมีไขมันสะสมมากจะเข้าไปในหลอดเลือดทั่วร่างกายจนเกิดการตีบตัน หากเกิดกับหัวใจจะทำให้หัวใจโตและเกิดหัวใจวาย (Heart Attack) จากสถิติพบว่าผู้ที่อ้วนลงพุงจะมีโอกาสเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงกว่าคนทั่วไป ดังนั้นในฐานะบุคลากรทางการแพทย์จึงต้องป้องกันและชักจูงให้ผู้มีความเสี่ยงปรับเปลี่ยน ความคิด และการดำเนินชีวิต ทั้งการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไม่สูบบุหรี่ ไม่เครียด และออกกำลังกาย เพราะการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์สำคัญกว่าการให้ยาเสียอีก ด้านอ.ศัลยา คงสมบูรณ์เวช นักกำหนดอาหารขึ้นทะเบียนวิชาชีพประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ให้การปรึกษาด้านโภชนบำบัด กล่าวว่า จากการวิจัยพบว่าการลดน้ำหนักมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคอ้วนลงพุง ดังนั้นควรดูแลพุงให้ดีอย่าให้เกินมาตรฐาน เพราะการมีรอบเอวเกินก็เหมือนกับมีระเบิดเวลาที่รอการระเบิดในอนาคต หลักการกินโดยทั่วไปทุกคนจะทราบกันดีว่า กินให้พอดีกับพลังงานที่ใช้ออกมาแต่โดยส่วนใหญ่คนเรามักจะกินเกินกว่าที่ใช้ เพราะรอบตัวมีแต่สิ่งยั่วใจ แรงกระตุ้นจากโฆษณา วัฒนธรรมตะวันตกและการบริการที่สะดวกสบาย นอกจากนี้คนไทยจำนวนมากยังมีพฤติกรรมการกินที่ผิดๆ เช่น งดอาหารเช้า ชอบของมันของทอด กินผักผลไม้น้อย นิยมอาหารที่สะดวกกินสะดวกซื้อ เป็นต้น หลักโภชนาการในการลดเสี่ยงอ้วนลงพุง คือ ลดคาร์โบไฮเดรตและไขมันที่ไม่ดี ซึ่งการลดที่ถูกต้องและทำได้ง่าย เช่น ลดเครื่องดื่มหวาน น้ำอัดลม ขนมอบ ไอศครีม โดนัท เป็นต้น เน้นคาร์โบไฮเดรตที่ดีมาจากข้าวและแป้งไม่ขัดสี ผัก ผลไม้ และนมไขมันต่ำ โดยกินข้าวในปริมาณ วันละ 6 ทัพพี พร้อมกันนี้ต้องลดการกินเค็ม และลดไขมันไม่ดีเน้นกินไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันคาโนลา เป็นต้น และต้องเลือกให้เหมาะกับวิธีการปรุงอาหาร อ่านฉลากก่อนซื้อ โดยดูปริมาณกรดไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานซ์ต่ำ กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวสูง (โอเมก้า3,6,9) หากต้องการทอดเลือกชนิดที่จุดเดือดเป็นควันสูง เช่น น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันถั่วเหลืองน้ำมันปาล์ม เป็นต้น “อย่างไรก็ตามต้องควบคุมปริมาณไขมันโดยกินน้อยกว่า 6-8 ช้อนชาต่อวัน เพราะน้ำมันทุกชนิดให้พลังงานเท่ากัน นอกจากนี้ต้องดูความสมดุลของกรดไขมันด้วย เนื่องจากน้ำมันพืชที่ใช้กันทั่วไปอย่าง ถั่วเหลือง ทานตะวัน หรือข้าวโพด จะมีโอเมก้า 6 มากเกินไป ทำให้เร่งการเกิดการอักเสบในร่างกายและเกิดปัญหากับสุขภาพ จึงต้องรับประทานโอเมก้า 3 เพิ่มขึ้นเพื่อปรับสมดุล ซึ่งโอเมก้า 3 จะได้จากปลาทะเลน้ำลึก วอลนัท น้ำมันคาโนล่า เมล็ดแฟล็กซิด เป็นต้น หรือใช้น้ำมันผสมเพื่อให้ได้สัดส่วนกรดไขมันดีขึ้น เช่น น้ำมันคาโนล่าผสมทานตะวันเพื่อความสะดวกในการใช้” อ.ศัลยา กล่าวในที่สุด สอบถามรายละเอียดประชาสัมพันธ์ได้ที่ โทร. 0-2718-3800 ต่อ 132,136 สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวชมรมโภชนวิทยามหิดล+ความดันโลหิตสูงวันนี้

โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี ผนึกองค์กรสุขภาพชั้นนำจัดโครงการวันมะเร็งเต้านมโลก "World Breast Cancer Day 2024"

โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี จับมือ Happy Chemo Club by NUTREPREME ผนึกกำลัง 7 องค์กรสุขภาพชั้นนำของไทย ร่วมมือร่วมใจจัดโครงการวันมะเร็งเต้านมโลก "World Breast Cancer Day 2024" โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี ร่วมกับ Happy Chemo Club by NUTREPREME พร้อมผนึกกำลังองค์กรสุขภาพชั้นนำของไทย ได้แก่ สมาคมเวชศาสตร์วิถีชีวิตแห่งประเทศไทย, ชมรมโภชนวิทยามหิดล, บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด, นิตยสารชีวจิต และ บริษัท นิวทรีพรีม จำกัด ร่วมกันจัดกิจกรรมในโครงการวันมะเร็งเต้านมโลก "World Breast Cancer Day 2024" ณ โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี

ชมรมโภชนวิทยามหิดล ร่วมกับ มูลนิธิคุณแม่ค... ชมรมโภชนวิทยาฯ จัดอบรมสัมมนาฯ — ชมรมโภชนวิทยามหิดล ร่วมกับ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ จะจัดอบรมสัมมนาที่นำไปใช้ได้จริงในหัวข้อ "การส่งเสริมสุขภาพ...

รศ.ดร.นัยพินิจ คชภักดี (ที่ 4 จากขวา) ผู้... ภาพข่าว: ประชุมวิชาการเรื่อง “แนวทางการสร้างเสริมสุขภาพและชะลอวัยแบบบูรณาการ” — รศ.ดร.นัยพินิจ คชภักดี (ที่ 4 จากขวา) ผู้ทรงคุณวุฒิ สนง.คณะกรรมการวิจัยแห่...

ภก.รศ.ดร.จักรพันธ์ ศิริธัญญาลักษณ์ (ที่ 3... ภาพข่าว: ประชุมวิชาการเรื่อง “การใช้ยาและการส่งเสริมสุขภาพในผู้สูงวัย” — ภก.รศ.ดร.จักรพันธ์ ศิริธัญญาลักษณ์ (ที่ 3 จากขวา) คณบดี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลั...

นางนงลักษณ์ ศรีแสง รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒน... ภาพข่าว: ประชุมวิชาการ “เคล็ดลับส่งเสริมสุขภาพสมอง ต้านโรค ชะลอวัย” — นางนงลักษณ์ ศรีแสง รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนานักศึกษา เป็นประธานในงานเปิดประชุมวิชาการเ...

ท้องผูก ทำให้หงุดหงิด-โมโหง่าย-มีกลิ่นปาก

สาวๆ ระวัง! อย่าปล่อยให้ท้องผูก ทำให้หงุดหงิด-โมโหง่าย-มีกลิ่นปาก สาวๆ พึงระวัง อย่าปล่อยให้ "ท้องผูก" เพราะไม่เพียงแต่สร้างความอึดอัดไม่สบายตัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้สุขภาพเสื่อมโทรม และเป็นต้นเหตุของโรคริดสีดวงทวารอีกด้วย เคยสงสัยหรือไม่ว่า ในวันหนึ่งๆ ...

อาจารย์ ดาราพร คงจา ( คนกลาง ) นายกสมาคมศ... ภาพข่าว: ประชุมวิชาการ “แนวทางการดูแลและเสริมสร้างสุขภาพแบบองค์รวม” — อาจารย์ ดาราพร คงจา ( คนกลาง ) นายกสมาคมศิษย์เก่าพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเป...

ศ.นพ.วีระชัย โควสุวรรณ (ที่ 3 จากขวา) รอง... ภาพข่าว: ประชุมวิชาการ “แนวทางการส่งเสริมและดูแลสุขภาพแบบบูรณาการ” — ศ.นพ.วีระชัย โควสุวรรณ (ที่ 3 จากขวา) รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและการถ่ายทอดเทคโนโลยี มหา...

จากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพต่างๆ แสดง... “คามูคามู” ผลไม้ให้วิตามินซีสูง มีดีต่อผิว — จากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพต่างๆ แสดงให้เห็นว่าการบริโภคผักและผลไม้ นอกจากจะเป็นแหล่งรวมของสารอ...