ราชบุรีโฮลดิ้ง กำไรสุทธิ 1,457.27 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2553

29 Apr 2010

กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง

รายได้เพิ่ม 28.57% และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในกิจการที่ควบคุมร่วมกันเพิ่มขึ้น 169.90%

เร่งเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ให้แล้วเสร็จในปลายปีนี้ และขยายการลงทุนโครงการขนาดเล็กและพลังงานทดแทนในประเทศ เพิ่มอีกประมาณ 3 โครงการ ภายในปี 2554

บมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง ประกาศผลการดำเนินงานบริษัทฯ และบริษัทย่อยประจำ ไตรมาสแรกปี 2553 ฉบับก่อนสอบทาน บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,457.27 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.01 บาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า 386.01 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.94 อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีรายได้จากการขายและบริการเป็นจำนวน 9,884.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.57 คิดเป็นจำนวน 2,196.29 ล้าบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2552

นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง กล่าวว่า “ในไตรมาสแรกของปีนี้การดำเนินงานของบริษัทยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย หากพิจารณาจากรายได้จากการขายและบริการที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.57 จากปีก่อนหน้า เช่นเดียวกับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในกิจการที่ควบคุมร่วมกัน เพิ่มขึ้น 1.7 เท่า และต้นทุนทางการเงินลดลง ร้อยละ 34.82 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว แต่เนื่องจากอัตราค่าความพร้อมจ่ายปี 2553 ที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ต่ำกว่าปี 2552 จึงทำให้รายได้จากค่าความพร้อมจ่ายลดลงส่งผลต่อกำไรสุทธิของบริษัท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 386.01 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.94 และภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลง 30.38%”

ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 10,360.54 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้จากการขายและการให้บริการจำนวน 9,884.68 ล้านบาท รายได้ค่าบริการการจัดการ จำนวน 35.94 ล้านบาท ดอกเบี้ยรับและรายได้อื่นๆ รวม 99.76 ล้านบาท ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในกิจการที่ควบคุมร่วมกันรวมจำนวน 340.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 169.90 ปัจจัยสำคัญมาจากผลประกอบการของ บจ.ไตรเอนเนอจี้ (โรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้) ที่ดีขึ้นจากปีที่แล้ว โดยบริษัทฯ รับรู้กำไรส่วนแบ่งจากสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 50 เป็นเงินจำนวน 156.11 ล้านบาท นอกจากนี้ยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบจ. ราชบุรีเพาเวอร์ (โรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์) จำนวน 211.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.70 ล้านบาท หรือร้อยละ 29.10 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

สำหรับ ต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายรวม มีจำนวน 8,543.38 ล้านบาท โดยเป็นต้นทุนขายและการให้บริการ จำนวน 8,354.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 54.61 เนื่องจากโรงไฟฟ้าราชบุรีมีการหยุดเดินเครื่องตามความต้องการของระบบ (Reserve Shutdown) น้อยกว่าไตรมาสแรกของปีที่แล้ว ส่งผลให้ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงในไตรมาสแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 72.86 อย่างไรก็ตามดอกเบี้ยจ่ายในไตรมาสนี้ มีจำนวน 169.48 ล้านบาท ลดลง 90.52 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 34.82 และภาษีเงินได้นิติบุคคลจำนวน 190.41 ล้านบาท ลดลง 83.08 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 30.38 เป็น เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปี 2552

“ในปีนี้บริษัทยังคงมุ่งมั่นสร้างการเติบโตด้วยการขยายการลงทุนใน 3 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจผลิตไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้มีโครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาใน สปป. ลาว จำนวน 4 โครงการ โดยมี 3 โครงการที่คืบหน้าตามกำหนดที่วางไว้ คือโครงการโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ซึ่งสามารถกักเก็บน้ำได้ถึงหนึ่งในสามของปริมาณน้ำที่ต้องการกักเก็บแล้วและจะสามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าขั้นต้นได้ในปลายปีนี้ โครงการโรงไฟฟ้าหงสา มีการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และโครงการโรงไฟฟ้าน้ำงึม 3 อยู่ระหว่างการเจรจาสัญญาซื้อขายไฟฟ้า หลังจากลงนามบันทึกความเข้าใจโครงสร้างราคาค่าไฟฟ้ากับ กฟผ. ส่วนธุรกิจพลังงานทดแทนและโครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก นอกจากความคืบหน้าในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมเขาค้อ จ. เพชรบูรณ์และส่วนขยายโรงไฟฟ้าประดู่เฒ่าที่บริษัทลงทุนแล้ว ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้การลงทุนในโครงการประเภทโคเจนเนอเรชั่น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และชีวมวล ภายในประเทศ ซึ่งคาดว่าในปี 2554 จะสามารถขยายการลงทุนเพิ่มอีก 3 โครงการ ส่วนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง นอกจากมุ่งเน้นลงทุนในธุรกิจเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า แล้วบริษัทยังมีความสนใจในธุรกิจเหมืองถ่านหิน ที่จะใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับการผลิตไฟฟ้าในต่างประเทศ ด้วย ” นายนพพล กล่าวปิดท้าย

ข้อมูลบริษัท

บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2543 ดำเนินธุรกิจด้านการลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้า ธุรกิจพลังงานทดแทน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ปัจจุบัน บริษัทมีโครงการที่ดำเนินการแล้วจำนวน 4 โครงการ มีผลิตติดตั้งรวมประมาณ 4,347 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 4 โครงการ กำลังผลิตติดตั้งรวมประมาณ 1,111 เมกะวัตต์ และโครงการขนาดเล็กและพลังงานทดแทน 2 โครงการ กำลังผลิตติดตั้งประมาณ 19 เมกะวัตต์ หากรวมกำลังการผลิตติดตั้งของทุกโครงการทั้งที่ดำเนินการแล้วและอยู่ระหว่างการพัฒนาที่กล่าวมาข้างต้น บริษัทจะมีกำลังผลิตติดตั้งรวมประมาณ 5,477 เมกะวัตต์

โครงการที่ดำเนินการแล้ว ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าราชบุรี กำลังผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น (99.99%) 3,645 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ กำลังผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น (50%) 350 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ กำลังผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น (25%) 350 เมกะวัตต์ ซึ่งทั้ง 3 โครงการตั้งอยู่ในจังหวัดราชบุรี และโรงไฟฟ้าประดู่เฒ่า กำลังผลิตติดตั้ง 1.75 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่บริษัทได้ลงทุนและอยู่ระหว่างการพัฒนาใน สปป. ลาว 4 โครงการ ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังน้ำ - น้ำงึม 2 กำลังผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น (25%) 153.75 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าหงสา กำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น (40%) 751เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ – น้ำงึม 3 กำลังผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น (25%) ประมาณ 110 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อย กำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น (25%) 93 เมกะวัตต์

โครงการขนาดเล็กและพลังงานหมุนเวียน ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังลมเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ กำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น (30%) 18 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าประดูเฒ่าส่วนขยาย กำลังผลิตติดตั้ง 0.875 เมกะวัตต์ หรือสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ratch.co.th

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)

วิวรรณ พยัฆวิเชียร หรือ ดวงแก้ว เธียรสวัสดิ์กิจ โทร. 0 2794 9941-2 อีเมล์ : [email protected]