แพทย์แนะวิธีอยู่อย่างสุขในยุคเครียดครองเมือง ยกสามวิธีทำใจไม่ให้เสียศูนย์ในยุคแห่งความสูญเสีย

27 May 2010

กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--tcels

นายแพทย์กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ นับจากเกิดเหตุการณ์ความสงบในประเทศไทย สื่อทุกแขนงนำเสนอข่าวกันตลอดเวลา ทำให้คนไทยได้รับภาพของความสูญเสียทุกวัน ทำให้เกิดความทุกข์แบบไม่รู้ตัว เนื่องจากภาพเหล่านั้นผ่านเข้าไปถึงจิตใต้สำนึก ซึ่งนอกจากจะไม่ได้ช่วยอะไรแล้วอาจจะยิ่งทำให้โหมไฟเครียดให้เพิ่มมากขึ้น และภาพลบเหล่านี้จะสร้างธาตุเครียดขึ้นมากัดกินสมอง เข้าทำลายส่วนกลีบเนื้องที่เป็นความจำดี ๆ ไว้ หากมีความเครียดสะสมธาตุเครียดก็จะสร้างตระกรันทุกข์ขึ้นมาเป็นลักษณะก้อนโปรตีนใหญ่น้อยมาคอยแกะเนื้อสมองจนรุงรัง ดังนั้นเมื่อสมองถูกแย่งที่ส่วนดีๆไปหมดแล้ว ก็ไม่อาจเก็บภาพที่สวยงามอื่นๆเพิ่มได้อีกแถมความจำดีที่เคยเก็บไว้ก็ยิ่งฝ่อหายไปเสียด้วย มันสมองจึงกลายเป็นก้อนทุกข์ไปทั้งก้อนโดยไม่รู้ตัว

นายแพทย์กฤษดา กล่าวว่า เคล็ดลับในการล้างทุกข์ออกจากสมองต้องใช้เทคนิคลอกทีละชั้นแทนการหักดิบ แนวอายุรวัฒน์นั้น มีอยู่ 3 ข้อหลักคือ การผ่อนชีวิต คิดให้สวย ช่วยด้วยสัมผัส โดยสูตรแรกคือการผ่อนชีวิตนั้น เรียกว่า สโลไลฟ์ (Slow life)”ซึ่งไม่ได้หมายความว่าให้ขี้เกียจ แต่ต้องปรับตัวคือ 1.นอนเร็วขึ้น อ่านหนังสือให้มากขึ้นเพื่อให้สมองได้พักจดจ่ออยู่นิ่ง เพราะถ้าว่างจัดสมองจะคิดว้าวุ่นไปจนเหนื่อย 2. กินข้าวเป็นเวลา โดยจัดเวลาอาหารให้ท้องและสมองให้ใกล้เวลาเดียวกัน แม้จะมีงานค้างอยู่แต่ขอให้หาเวลารับประทานให้ได้เป็นเวลาใกล้เคียงกันในแต่ละวัน 3. ทำกิจกรรมทีละอย่าง เช่นถ้ากินข้าวก็กินอย่างเดียวอย่าดูทีวีหรืออ่านหนังสือ อาจมีคุยกันระหว่างรับประทานได้บ้าง เป็นการผ่อนสมองจากที่ต้องทำ “พหุงาน (Multitasking job) พร้อมกันเวลาทำงาน

สูตรสอง “คิดให้สวย” ให้คิดว่าสมองเหมือนคอมพิวเตอร์ที่ยิ่งเก็บข้อมูลดีไว้มากก็ทำให้เครื่องสะอาดทำงานคล่อง ยิ่งเก็บไว้จนล้นเลยยิ่งดี ทุกขณะเป็นภาพที่งามหัวใจได้หมด ให้เก็บไว้มากจนยามใดที่หลับตาแล้วสมองจะเล่นภาพนั้นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เช่น เปิดหน้าต่างออกมองท้องฟ้ากว้างสีฟ้าสวยแล้วถ่ายภาพเก็บไว้ในหัว แหงนดูดารายามค่ำคืนแล้วจะรู้สึกสงบเย็นไม่เป็นตัวตนอัตตา ให้รู้สึกว่าทุกนาทีชีวิตเป็นความสวยงามที่ต้องซาบซึ้งให้มากที่สุด นั่งวาดภาพสวยด้วยตัวเอง ชอบภาพไหนให้นึกไว้แล้ววาดออกมา ภาพข่าวใดที่น่ากลัวให้มองผ่านไปอย่าประทับในใจให้แน่นนัก ให้ตระหนักเสมอว่าชีวิตสั้นมาก อยากให้ใช้สร้างสุขให้มากที่สุด

สูตรสาม “ช่วยด้วยสัมผัส” การถูกลูบไล้ให้ตรงจุดนั้นช่วยปรุงให้เกิดความสบายขึ้นมาจากกายสู่ใจ ดังนั้นวิธีดูว่าใครนวดดีหรือไม่ให้ดูที่ถ้านวดแล้วรู้สึกสบายออกมาจากใจนั่นแปลว่าใช่เลย โดยวิธีสัมผัสนั้นอาจเริ่มจากตัวเราทำเองก่อนดังนี้ แช่น้ำอุ่นสักพักแล้วใช้ฟองน้ำหรือผ้าขนหนูถูตัวสักครึ่งชั่วโมง เวลานอนให้เอาเท้าสองข้างถูกันไปมาจนกว่าจะหลับสนิท เอามือดันศีรษะแบบต้านแรงกันทีละข้าง ซ้าย,ขวา,หน้าและหลัง จุดน้ำมันหอมแบบ “สุคนธบำบัด” แล้วใช้น้ำมันหอมนั้นนวดตามจุดชีพจร ถ้าบำบัดเองไม่หายก็อาจลองหา “นักนวด” มานวดแบบผ่อนคลายให้ก็ช่วยได้ไม่น้อย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-6445499 tcels

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net