บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เปิดบิสซิเนสโมเดลใหม่ สร้างแบรนด์ “แอ็บสแตร็กส์” ในหมวดพร็อพเพอร์ตี้ ดึงทุกธุรกิจในกลุ่ม เอื้อประโยชน์แก่ทุกกลุ่มเป้าหมายตามแนวคิด “ซิตี้ โซลูชั่นส์”

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--เวิรฟ

บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เดินเครื่องเต็มพิกัด เปิดตัวบิสซิเนสโมเดลใหม่ พร้อมสร้างแบรนด์ “แอ็บสแตร็กส์” อยู่ใหมวดพร็อพเพอร์ตี้ พร้อมดึง 4 ธุรกิจในกลุ่มร่วมเอื้อประโยชน์สูงสุด ตอบสนองการใช้ชีวิตตามแนวคิด “ซิตี้ โซลูชั่นส์” มุ่งเจาะ 3 กลุ่มเป้าหมายหลัก ผู้บริโภค นักลงทุน และผู้ร่วมลงทุน (Joint Venture) มั่นใจโมเดลใหม่นี้จะดึงความสนใจและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ทุกกลุ่มเป้าหมาย นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ภายหลังจากการเข้าซื้อกิจการของบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เสร็จสิ้นและเปลี่ยนชื่อ บริษัทเป็น บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทฯ ได้เปิดตัวบิสซิเนสโมเดลในรูปแบบใหม่ โดยแบ่งโครงสร้างการดำเนินธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มธุรกิจดำเนินการระบบขนส่งมวลชน หรือ ธุรกิจแมสทรานซิท ซึ่งประกอบด้วย รถไฟฟ้าบีทีเอสในปัจจุบัน และส่วนเชื่อมต่อขยายในอนาคต รวมถึงการได้รับสัมประทานในการบริหารจัดการและการเดินรถโดยสารด่วนพิเศษบีอาร์ที 2. กลุ่มธุรกิจให้เช่าพื้นที่โฆษณา (วีจีไอ) ซึ่งอยู่ในพื้นที่บีทีเอส และบริเวณร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ทั่วไป อาทิ เทสโก้โลตัส คาร์ฟู บิ๊กซี และ วัตสัน รวมถึง การโฆษณาภายในอาคารและสำนักงานต่างๆ 3. กลุ่มธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีทั้งการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้า และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ทำเลทองอื่นๆ เช่น ธนาซิตี้ บางนา-ตราด กม.14 เขาใหญ่ และภูเก็ต 4. กลุ่มธุรกิจให้บริการ อาทิ ธุรกิจบริหารโรงแรม ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และ ธุรกิจ e-money ซึ่งเป็นบริการระบบการใช้จ่ายในระดับย่อยแบบ e-payment โดยได้พัฒนาระบบตั๋วร่วมหนึ่งเดียวในประเทศไทย ระหว่างรถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที และรถโดยสารด่วนพิเศษบีอาร์ที ซึ่งสามารถขยายไปสู่ระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ รวมถึง ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจบริการและการท่องเที่ยวได้ โดยคาดว่าระบบนี้จะสามารถเริ่มให้บริการได้ในกลางปี 2554 ซึ่งตั๋วร่วมในลักษณะนี้ได้รับการยอมรับและประสบความสำเร็จมาแล้วในหลายประเทศ บริษัทฯ มุ่งหวังให้การดำเนินงานของทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจนี้ สามารถดำเนินงานสนับสนุนซึ่งกันและกัน เพื่อให้ตอบสนองการใช้ชีวิตของคนกรุงทั้งในปัจจุบันและอนาคต ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ สร้างแบรนด์ “แอ็บสแตร็กส์” ขึ้นให้อยู่ในกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยให้เป็นแบรนด์ที่สามารถเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการที่พักอาศัยในแนวเส้นทางรถไฟฟ้า กลุ่มนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในธุรกิจให้เช่า ที่พักอาศัยในโครงการที่ดำเนินงานโดยแอ็บสแตร็กส์ และกลุ่มผู้ร่วมลงทุนหรือ จ๊อยท์ เวนเจอร์ (Joint Venture) ซึ่งได้แก่ ผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดินเอง และต้องการให้แอ็บสแตร็กส์เข้ามาพัฒนาที่ดินให้ หรือ แม้แต่ดีเวลล็อบเปอร์ที่เป็นเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์อยู่แล้วก็ตาม ก็สามารถเข้ามาร่วมลงทุนร่วมกับแอ็บสแตร็กส์ได้ด้วย เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดเช่นกัน” นายคีรีกล่าว นายกวิน กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมถึงประโยชน์ที่ได้รับจากเแอ็บสแตร็กส์ อาทิ การได้รับบัตรรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งสามารถใช้บริการโดยสารในรถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นระยะเวลา 10 ปี ฟรี ซึ่งบัตรนี้จะถือเป็นบัตรที่เป็นเอกสิทธิ์ของผู้เป็นเจ้าของโครงการแอ็บสแตร็กส์ ผู้เป็นเจ้าของบัตรสามารถใช้ประโยชน์จากบัตรเองก็ได้ หรือจะโอนสิทธิการใช้บริการให้แก่ผู้ที่มาเช่าห้องของตนก็ได้ หรือ จะทำการโอนเปลี่ยนเอกสิทธิ์การถือครองบัตรไปสู่ผู้อื่นก็ได้ นายกวินกล่าวต่อไปว่า การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ “แอ็บสแตร็กส์ - Abstracts” ในเบื้องต้น มีแผนที่จะเปิดตัว 2 โครงการแรก มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท ได้แก่ “แอ็บสแตร็กส์ พหลโยธิน พาร์ค (Abstracts Phahonyothin Park)” คอนโดมิเนียมสไตล์โมเดิร์น 3 อาคาร สูง 34 ชั้น จำนวนรวมกว่า 3,000 ห้อง ซึ่งคาดว่าเฟสแรกจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2554 และ “แอ็บสแตร็กส์ สุขุมวิท (Abstracts Sukhumvit)” ตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท ซอย 66/1 ใกล้สถานีรถไฟฟ้าอุดมสุข เป็นห้องชุดดีไซน์หรูร่วมสมัยในสไตล์โมเดิร์น แบบโลว์-ไรซ์ (Low-rise) สูง 5 ชั้น 4 อาคาร จำนวนรวม 112 ห้อง คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน ปี 2554 “ทั้ง 2 โครงการ บริษัทฯ ได้พัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างร่วมกับบริษัทก่อสร้างชั้นนำในเครือนิวเวิลด์ของฮ่องกง คือ “บริษัท ฮิบเฮง คอนสตรัคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด – Hip Hing” ซึ่งทั้ง 2 โครงการมีจุดเด่นที่แตกต่างและเหนือกว่าโครงการคอนโดมิเนียมอื่นๆ มาก คือ นอกจากจะอยู่ใกล้แมสทรานซิทของกรุงเทพฯ ทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ทีแล้ว โครงการนี้ยังได้รับการออกแบบและดีไซน์โดยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก โดยได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญการออกแบบและตกแต่งภายในเฉพาะแต่ละโครงการ อาทิ บริษัท สปา เอ จำกัด (Spa+A) ซึ่งได้รับรางวัลการออกแบบสถาปัตยกรรมภายในระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ประเภทรีสอร์ทและโรงแรม มาร่วมออกแบบในโครงการที่สุขุมวิท และที่สำคัญ “แอ็บสแตร็กส์” ได้มอบสิทธิพิเศษในการครอบครองบัตรใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสฟรีเป็นเวลา 10 ปี ซึ่งนับว่าเป็นจุดเด่นที่สำคัญของกลยุทธ์การตลาด บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า แบรนด์แอ็บสแตร็กส์ จะสามารถขยายการเติบโตได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับแบรนด์ยู “ยู โฮเทล” ที่ปัจจุบันสามารถขยายเครือข่ายได้ถึง 38 แห่งทั่วภูมิภาค” นายกวินกล่าวในที่สุด รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ: เวิรฟ พรรณราย ทวีโชติกิจเจริญ โทร. 0-2204-8212 ประสิทธิ์ กฤษฎาอริยชน โทร. 0-2204-8216 สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์+บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งวันนี้

แรบบิท ประกันชีวิต ฉลองครบรอบ 28 ปี มอบดีลวันเกิดสุดเอ็กซ์คลูซีฟ สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิก Rabbit Life MYRewards เท่านั้น

บริษัท แรบบิท ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ Rabbit Life บริษัทประกันชีวิตในเครือ บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) แจกของขวัญวันเกิดฉลองครบรอบ 28 ปี มอบของขวัญสุดเอ็กซ์คลูซีฟแทนคำขอบคุณสำหรับลูกค้าที่เป็นสมาชิก Rabbit Life MYRewards ในทุกระดับ ภายใต้คอนเซปต์ "ก้าวกระโดดแบบข้ามขั้น สู่ประสบการณ์ครั้งใหม่" ให้ได้ฟินกันแบบจุใจ อาทิ สมาชิกระดับ Explore: รับฟรี ชาไทยเย็น Size M มูลค่า 80 บาท 1 แก้ว จากร้าน GAGA ทุกสาขาทั่วประเทศ (ยกเว้นสาขาในสนามบิน) สมาชิกระดับ Extraordinary: รับฟรี e-Coupon