ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้เดิม “บ. ภัทรลิสซิ่ง” และจัดอันดับหุ้นกู้ใหม่ที่ระดับ “A-” แนวโน้ม “Stable”

12 Feb 2010

กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--ทริสเรทติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) คงเดิมที่ระดับ “A-” ในขณะเดียวกันยังจัดอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A-” พร้อมแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความสามารถของคณะผู้บริหารของบริษัทภัทรลิสซิ่งในการรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์ (Operating Lease) และขยายปริมาณสินทรัพย์ให้เช่าแม้ว่าการแข่งขันจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นและภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจจะเอื้ออำนวยน้อยลง อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงระบบการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตและการบริหารมูลค่าคงเหลือของสินทรัพย์ให้เช่า (Residual Value) ที่ดี รวมทั้งขั้นตอนการพิจารณาสินเชื่อที่เข้มงวดซึ่งทำให้บริษัทสามารถดำรงคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี ในการจัดอันดับเครดิต ทริสเรทติ้งยังพิจารณาถึงความต้องการในการใช้บริการรถเช่าที่เพิ่มขึ้นของบริษัทเอกชนด้วย ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนของภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจและการแข่งขันที่รุนแรงยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่จำกัดความสามารถในการทำกำไรและการขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความสามารถของบริษัทในการรักษาตำแหน่งผู้นำในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์และมีผลประกอบการในระยะปานกลางตามคาด โดยบริษัทน่าจะสามารถรักษาฐานลูกค้าสำคัญกลุ่มเดิมไปพร้อมกับการขยายฐานลูกค้าใหม่ในขณะที่ยังคงรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีเอาไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทยังคงได้รับแรงกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรงและภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่ไม่แน่นอน

ทริสเรทติ้งรายงานว่าบริษัทภัทรลิสซิ่งยังคงรักษาสถานะผู้นำในตลาดเช่าดำเนินงานรถยนต์เอาไว้ได้ โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดในปี 2551 มากกว่า 20% ของสินทรัพย์ให้เช่ารวมของผู้ประกอบการรายใหญ่ 25 รายในฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง บริษัทให้บริการเช่าดำเนินงานและเช่าทางการเงินแก่ลูกค้านิติบุคคลที่เป็นบริษัทขนาดกลางถึงใหญ่ ณ สิ้นรอบปีบัญชี 2552 ซึ่งสิ้นสุดเดือนกันยายน 2552 บริษัทมีสินทรัพย์ให้เช่าสุทธิภายใต้สัญญาเช่าดำเนินงานจำนวน 4,640 ล้านบาทและมีลูกหนี้สินเชื่อให้เช่าการเงินจำนวน 662 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจาก 4,265 ล้านบาทและ 334 ล้านบาท ณ สิ้นรอบปีบัญชี 2551 การมีเครือข่ายบริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศและการมีฐานเงินทุนที่สูงเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่นช่วยเพิ่มระดับความสามารถของบริษัทในการให้บริการแก่ลูกค้ารายใหญ่ แต่ก็ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงสูงจากการกระจุกตัวของลูกค้ารายใหญ่ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงดังกล่าวได้รับการชดเชยจากการมีปริมาณค้างชำระค่าเช่าของลูกค้าที่อยู่ในระดับต่ำเพราะลูกค้ารายใหญ่ส่วนใหญ่มีฐานะทางการเงินที่น่าเชื่อถือ อีกทั้งลูกค้ารายใหญ่ทั้ง 20 รายของบริษัทยังมีปริมาณสินทรัพย์ให้เช่าที่กระจายตัวมากขึ้น

ความเชี่ยวชาญในธุรกิจ รวมทั้งผลงานที่ได้รับการยอมรับ และความมีประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจให้เช่าดำเนินงานช่วยเสริมให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยยอดสินทรัพย์ให้เช่าใหม่ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 1,054 ล้านบาทในรอบปีบัญชี 2549 เป็น 1,631 ล้านบาทในรอบปีบัญชี 2550 และ 2,198 ล้านบาทในรอบปีบัญชี 2551 และในรอบปีบัญชี 2552 ที่แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวย กระนั้นสินทรัพย์ให้เช่าใหม่ก็ยังคงอยู่ที่ 2,113 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับรอบปีบัญชี 2551 หลังจาก บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในปี 2549 ก็เริ่มมีการผสานประโยชน์ทางธุรกิจระหว่างบริษัทและผู้ถือหุ้นใหญ่ อย่างไรก็ตาม ผลสำเร็จจากความพยายามดังกล่าวยังไม่ปรากฏชัดเจนในขณะนี้

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ในรอบปีบัญชี 2552 บริษัทภัทรลิสซิ่งมีกำไรสุทธิ 218 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับรอบปีบัญชี 2551 อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยเท่ากับ 3.8% ในรอบปีบัญชี 2552 ลดลงจาก 4.2% ในรอบปีบัญชี 2551 ความสามารถในการทำกำไรที่ลดลงส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเพิ่มการตั้งสำรองทั่วไปสำหรับหนี้ปกติตามการขยายตัวของสินเชื่อเช่าการเงิน ทั้งนี้ หากไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษและ หากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในรอบปีบัญชี 2553 การมีผลประกอบการที่น่าพอใจมาตั้งแต่ปี 2550 นั้นส่วนหนึ่งเป็นผลจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่บริษัทได้รับจากการลงทุนในสินทรัพย์เช่าดำเนินงานตามประกาศของอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 156) ซึ่งผลประโยชน์ทางภาษีดังกล่าวจะสิ้นสุดในปีบัญชี 2553

บริษัทภัทรลิสซิ่งใช้เงินทุนจากการกู้ยืมในการขยายฐานสินทรัพย์เป็นหลัก ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินเพิ่มขึ้น โดย ณ สิ้นรอบปีบัญชี 2552 อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ระดับ 2.30 เท่า เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 2.23 เท่าในรอบปีบัญชี 2551 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนดังกล่าวยังเพียงพอสำหรับใช้ในการขยายธุรกิจในระยะปานกลาง บริษัทพยายามบริหารอายุของหนี้ผ่านการกู้ยืมระยะยาวเพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาของสัญญาเช่าสินทรัพย์ (ส่วนใหญ่อายุ 3-4 ปี) เนื่องจากอัตราส่วนเงินกู้ยืมระยะสั้น (รวมหุ้นกู้) ต่อหนี้สินรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 51.5% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2552 จาก 49.5% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2551 ดังนั้น การออกหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาทอายุ 3 ปีในครั้งนี้จะช่วยปรับโครงสร้างหนี้สินให้มีความสอดคล้องกับโครงสร้างสินทรัพย์ของบริษัททั้งในส่วนของระยะเวลาและอัตราดอกเบี้ย ทริสเรทติ้งกล่าว

บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (PL)

อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ A-

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

PL104A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2553 คงเดิมที่ A-

PL105A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 120 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2553 คงเดิมที่ A-

PL109A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2553 คงเดิมที่ A-

PL113A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2554 คงเดิมที่ A-

PL114A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 160 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2554 คงเดิมที่ A-

PL11NA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 140 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2554 คงเดิมที่ A-

PL126A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่ A-

หุ้นกู้ไม่มีประกัน ในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 A-

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)