“มาลีฯ” รุกตลาดน้ำผลไม้และผลไม้กระป๋องรับปีขาล พร้อมอัดกิจกรรมอย่างเต็มรูปแบบต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ปีนี้โหมตลาดครั้งใหญ่มุ่งสู่ความสำเร็จ จัดกิจกรรมการตลาดครบวงจรแบบ 360 องศา โดยให้ความสำคัญในทุกช่วงเทศกาล ประเดิมกิจกรรมรับปี 2553 กับ “เทศกาลตรุษจีน” คาดผู้บริโภคให้ความสนใจเป็นพิเศษ คาดว่าจะสามารถกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน พร้อมเผยกลยุทธ์และนโยบายการตลาดเต็มรูปแบบ
คุณปทุมรัตน์ เพียรชอบ ผู้อำนวยการใหญ่ สายธุรกิจตราผลิตภัณฑ์ บริษัท มาลีสามพราน จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์คุณภาพ “มาลี” เปิดเผยว่า จากปีที่ผ่านมาตลาดน้ำผลไม้ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องจากกระแสของคนรักสุขภาพที่มีเพิ่มมากขึ้น จากที่ต้องดูแลตัวเองและบุคคลที่อยู่รอบข้างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับการมีคู่แข่งขันรายใหม่ๆ เข้ามาแข่งขันในตลาดน้ำผลไม้เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งผู้ประกอบการรายเดิมๆ ได้รุกกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง นับเป็นแนวโน้มที่ดีว่าในปี 2553 นี้ตลาดน้ำผลไม้จะยังคงมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
และในฐานะที่ “มาลี” เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดทางด้านน้ำผลไม้และผลไม้กระป๋อง ปีนี้ก็เช่นกัน มาลีได้เตรียมความพร้อมที่จะรุกตลาดตลอดทั้งปีอย่างเต็มที่
@ เปิดรับปี 2553 พร้อมแคมเปญฉลองเทศกาลตรุษจีน
บริษัทฯ ได้มีนโยบายรุกตลาดตั้งแต่ต้นปี เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขาย และเพิ่มโอกาสการบริโภคผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง นับเป็นเทศกาลปีใหม่ของจีนที่จะส่งความสุขและรับสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต และมีประเพณีไหว้เจ้าและบรรพบุรุษเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งมาลียังคงใช้น้ำผลไม้ 100% และผลไม้กระป๋องมาลีเป็นหัวหอก รวมทั้งผลิตภัณฑ์มาลีอื่นๆ เช่น มาลี จู๊ซมิกซ์, มาลี เซลฟ์ พลัส, น้ำนมข้าวโพด ตรามาลี ไอ-คอร์น และนมยูเอชที ตราฟาร์มโชคชัย เป็นต้น ด้วยการจัดโปรโมชั่นพิเศษร่วมกับห้างในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทั้งลดราคา และแถมของพรีเมี่ยมสุดพิเศษ คือ “ผลส้มมงคล” เอาใจทุกคนด้วยกล่องทิชชูผลส้มมงคล
ซึ่งเหมาะมากกับเทศกาล เพียงซื้อน้ำผลไม้มาลี 100% ขนาด 1000 มล. รสใดก็ได้ครบ 2 กล่อง หรือ ซื้อผลิตภัณฑ์มาลีครบ 150 บาท รับฟรีทันที!! ผลส้มมงคล 1 ใบ มูลค่า 85 บาท เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ศกนี้ หรือจนกว่าของจะหมด ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มาลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำผลไม้ 100% และผลไม้กระป๋องมาลีมียอดขายที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้
@ ตลาดผลไม้กระป๋องยังเติบโต
ในฐานะที่มาลีเป็นเจ้าตลาดผลไม้กระป๋อง ทางบริษัทมีแผนกระตุ้นการบริโภคให้เพิ่มมากขึ้น ด้วยการมอบเมนูต่างๆ ที่จัดทำให้กับร้านค้าหรือผู้บริโภค เพื่อเพิ่มการบริโภคในรูปแบบใหม่ๆ นอกเหนือจากการทำผลไม้ลอยแก้วที่มีอยู่แล้ว ยังสามารถนำมาดัดแปลงด้วยการแต่งหน้าเค้ก หน้าขนม หรือเป็นส่วนประกอบในอาหารคาว หวานต่างๆ เป็นต้น นอกจากนั้นทางบริษัทยังมีแผนกระตุ้นการบริโภคด้วยการส่งผลไม้กระป๋องชนิดใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด เพื่อเป็นการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคใหม่ๆ นอกเหนือจากแม่บ้าน และขยายฐานตลาดออกไปอีกด้วย
โดยในปีที่ผ่านมา การเติบโตของตลาดผลไม้กระป๋องจะขึ้นอยู่กับผลผลิตและฤดูกาล ดังนั้นอัตราการเติบโตจึงไม่ค่อยมาก โดยเฉพาะในตลาดระดับพรีเมี่ยมที่ผูกขาดอยู่เพียงไม่กี่แบรนด์ ซึ่งในขณะที่ตลาดล่างอาจมีการเติบโตที่สูงกว่า สืบเนื่องมาจากการนำเข้าของสินค้าจากประเทศจีนที่มีราคาถูกกว่ามาก แต่คุณภาพก็อาจจะไม่ดีเทียบเท่ากับกับผลไม้กระป๋องที่ผลิต
ในเมืองไทย ซึ่งในอนาคตทิศทางการเติบโตของตลาดผลไม้กระป๋องน่าจะขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ หรือสูตรใหม่ๆ ที่แต่ละบริษัทจะนำเสนอสู่ตลาด เพื่อสร้างสีสันให้กับผู้บริโภค อีกทั้งกระตุ้นการเติบโตของตลาดด้วย เช่น ชนิดของผลไม้ประเภทใหม่ๆ บรรจุภัณฑ์แบบใหม่ๆ
ในรูปแบบ ready to eat หรือ สูตรแบบใหม่ๆ เพื่อสนองตอบต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป มองหาความสะดวกสบายในการซื้อหรือการรับประทานและรักสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้กลุ่มผู้บริโภคก็มีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ไม่เพียงแต่เฉพาะกลุ่มแม่บ้าน แต่จะรวมถึงวัยหนุ่มสาว คนทำงาน หรือวัยเรียน ที่มองหาของทานเล่นที่ให้ประโยชน์มากกว่า snack ทั่วไป ซึ่งทางบริษัทเองก็ได้วางกลยุทธ์เพื่อจับกลุ่มผู้บริโภคใหม่ๆ และขยายฐานตลาด พร้อมกับกระตุ้นการบริโภคให้มากขึ้น
@ มุ่งเน้นนโยบายและกลยุทธ์การตลาดปี 2553
พร้อมกันนี้ ในปี 2553 มาลีได้วางกลยุทธ์การตลาดในเชิงรุกมากขึ้น โดยจะเน้นการสร้างภาพลักษณ์ของน้ำผลไม้ระดับพรีเมี่ยมที่ห่วงใยสุขภาพของผู้บริโภค โดยในปี 2552 ที่ผ่านมา ทางมาลีได้ประสบความสำเร็จจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ “มาลี เฮลท์ติพลัส” ซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภคเป็นอย่างดี และในปี 2553 นี้ จะยังคงเน้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ภายใต้แนวคิด มาลี เฮลท์ติพลัส ที่ให้คุณประโยชน์และคุณค่ามากกว่าน้ำผลไม้ทั่วไปในท้องตลาด
ซึ่งนับว่าเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่รักสุขภาพในปัจจุบัน อีกทั้งเรายังมีผลไม้กระป๋อง ซึ่งครองความเป็นผู้นำตลาดมายาวนาน เรายังคงตอกย้ำความเป็นผลไม้กระป๋องระดับพรีเมี่ยม Best quality ด้วยคุณภาพของผลไม้ ที่คัดสรรแต่ลูกขนาดโต และตอกย้ำความเป็นผู้นำด้วยนวตกรรมใหม่ๆ เช่น ผลไม้กลุ่มหวานน้อย ในปี 2553 เราจะยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง
อีกทั้ง ปีนี้เราได้วางแผนประชาสัมพันธ์ในสื่อต่างๆ อย่างครบวงจร ทั้ง Below the line และ Above the line อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและกิจกรรม ณ จุดขาย การชงชิมในห้างทั่วประเทศ รวมทั้งยังได้เพิ่มสื่อเพื่อที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวางและแพร่หลายมากกว่าเดิม ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ เคเบิลทีวี อินเตอร์เน็ตและสื่อบนรถไฟฟ้า เป็นต้น
“สำหรับมูลค่าตลาดน้ำผลไม้โดยรวมมีมูลค่าประมาณ 8,500 ล้านบาท มาลีมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 22% มีอัตราการเติบโต 12% มูลค่าตลาดรวมของผลไม้กระป๋องระดับพรีเมี่ยมประมาณ 600 ล้านบาท มาลียังครองความเป็นเจ้าตลาดที่ส่วนแบ่งตลาด 55% มีอัตราการเติบโตที่คงที่จากปีที่ผ่านมา มาลียังคงความเป็นผู้นำตลาดผลไม้กระป๋องในเมืองไทย ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และเราจะยังคงมีการพัฒนาการด้านผลิตภัณฑ์ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อครองใจผู้บริโภคและคงความเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์คุณภาพที่คนไทยนึกถึง” ผู้อำนวยการใหญ่
สายธุรกิจตราผลิตภัณฑ์ กล่าวในท้ายที่สุด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 0-2718-3800 ต่อ 132,136
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net