ปภ.เตือน 34 จังหวัดภาคเหนือ อีสานเตรียมรับมือสภาพอากาศหนาวเย็น ส่วนภาคใต้ 8 จังหวัดระวังน้ำท่วมฉับพลันและคลื่นซัดฝั่ง

18 Mar 2010

กรุงเทพฯ--18 มี.ค.--ปภ.

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสาน 34 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือแจ้งเตือนประชาชนเตรียมรับมือสภาพอากาศหนาวเย็นในช่วงวันที่ 13-16 มกราคม 2553 ส่วน 8 จังหวัดภาคใต้ให้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และคลื่นซัดฝั่งในระยะ 5-6 วันนี้ (วันที่ 13-18 มกราคม 2553)

นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า ช่วงวันที่ 13-16 มกราคม 2553 ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้พื้นที่ 34 จังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี หนองบัวลำภู เลย หนองคาย อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และยโสธร มีอุณหภูมิลดลง 4-7 องศาเซลเซียล อากาศหนาวเย็น และมีฝนตกในบางพื้นที่ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ และหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมชายฝั่งทะเลประเทศมาเลเซียและอ่าวไทยในช่วงวันที่ 13-18 มกราคม 2553 ส่งผลให้พื้นที่ภาคใต้ 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสตูลมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและตกหนักในบางพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และคลื่นซัดฝั่งได้ในระยะนี้ สำหรับจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดให้เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและดูแลผลผลิตทางการเกษตรเป็นพิเศษ รวมถึงเพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมที่เกี่ยวกับไฟทุกประเภททั้งการประกอบอาหาร จุดธูปเทียน เป็นต้น เนื่องจากฤดูหนาวสภาพอากาศแห้งและลมพัดแรง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยและไฟป่าสูงกว่าปกติ การขับขี่รถในช่วงที่มีหมอกลงจัดควรเปิดไฟต่ำหรือไฟตัดหมอกจะช่วยให้มองเห็นสภาพเส้นทางได้ชัดเจนยิ่งขึ้น หากอาศัยอยู่ในพื้นที่หมอกควันปกคลุม ให้ใช้ผ้าปิดจมูกทุกครั้งที่ออกจากบ้าน เพื่อป้องกันการสูดดมละอองฝุ่นเข้าสู่ร่างกาย

นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า ปภ.ได้ประสานให้ 8 จังหวัดภาคใต้ดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยที่ลาดเชิงเขา ที่ลุ่มริมน้ำ และชายฝั่งทะเลเตรียมการป้องกันอันตรายจากภาวะฝนตกหนักและคลื่นซัดชายฝั่งที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน โดยติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด หากมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานในพื้นที่และสังเกตพบสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น ระดับน้ำในลำห้วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและมีสีขุ่นข้น ให้รีบอพยพและขนย้ายสิ่งของไปยังที่ปลอดภัย เพราะอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากหรือน้ำท่วมฉับพลันขึ้นได้ ตลอดจนปฏิบัติตามประกาศแจ้งเตือนภัยและคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงอันตรายที่เกิดจากภาวะฝนตกหนักในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยระมัดระวังอันตรายจากคลื่นซัดฝั่ง และชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ สุดท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศหนาวเย็น อุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม และคลื่นซัดฝั่ง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-2432200 PR DDPM