รีเจนิซิน แต่งตั้ง ดร.เคร็ก อีเกิล ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยา เป็นสมาชิกอิสระของคณะกรรมการบริหารบริษัท

08 Sep 2010

นิวยอร์ก--8 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์เอเชียเน็ท / อินโฟเควสท์


ดร.อีเกิล เข้าเป็นสมาชิกอิสระลำดับที่ 2 ของคณะกรรมการบริหารบริษัท ต่อจาก ดร.โจเซฟ รูบินเฟลด์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแอมเจน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเสียงสนับสนุนการกำกับดูแลองค์กร

รีเจนิซิน อิงค์ (Regenicin, Inc.) (http://www.regenicin.com) (OTC Bulletin Board: WDSTD) บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่กำลังอยู่ในระยะพัฒนาทางคลินิก ประกาศว่า ดร.เคร็ก อีเกิล (Craig Eagle) ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการบริหารของบริษัท ปัจจุบัน ดร.อีเกิล ดำรงตำแหน่งรองประธานด้านความร่วมมือทางยุทธศาสตร์และพันธมิตร แผนกธุรกิจเนื้องอกวิทยาของ ไฟเซอร์ อิงค์ (Pfizer Inc.) ทั้งนี้ ดร.อีเกิล ถือเป็นสมาชิกอิสระลำดับที่ 2 ของคณะกรรมการบริหารบริษัท ต่อจาก ดร.โจเซฟ รูบินเฟลด์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแอมเจน (Amgen)

ดร.อีเกิล มีประสบการณ์คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมยา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อรีเจนิซินในการทำตลาดผลิตภัณฑ์ PermaDerm(TM) (http://www.regenicin.com/about-permaderm.html) ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อผิวหนังทดแทนแบบใหม่เพื่อฟื้นฟูสุขภาพผิวของมนุษย์ สำหรับใช้ในการรักษาแผลไฟไหม้ แผลเรื้อรัง และการทำศัลยกรรมพลาสติกต่างๆ

ดร.อีเกิล เข้าศึกษาในโรงเรียนแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ (University of New South Wales) ในซิดนีย์ ออสเตรเลีย และเป็นแพทย์ฝึกหัดที่โรงพยาบาลรอยัล นอร์ท ชอร์ (Royal North Shore Hospital) ในซิดนีย์ เขาผ่านการฝึกอบรมด้านโลหิตวิทยา-เนื้องอกวิทยา รวมถึงด้านโลหิตวิทยาทางห้องปฏิบัติการจากโรงพยาบาลรอยัล พรินซ์ อัลเฟรด (Royal Prince Alfred Hospital) ในซิดนีย์ เขาได้เป็นสมาชิกราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศออสเตรเลีย (The Royal Australasian College of Physicians: FRACP) และสมาชิกราชวิทยาลัยพยาธิวิทยาแห่งประเทศออสเตรเลีย (Royal College of Pathologists Australasia: FRCPA) หลังจบการฝึกหัดเขาได้ทำการวิจัยพื้นฐานที่โรงพยาบาลรอยัล พรินซ์ ออฟ เวลส์ (Royal Prince of Wales Hospital) เพื่อพัฒนาโมโนโคลนอลแอนติบอดีสำหรับยับยั้งเกล็ดเลือด ในปีพ.ศ. 2544 เขาได้เข้าร่วมงานกับบริษัท ไฟเซอร์ ออสเตรเลีย ในฐานะส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ในระหว่างนั้นเขาได้เป็นผู้นำหรือมีส่วนร่วมในการวิจัยและกำกับดูแลด้านวิทยาศาสตร์ รวมทั้งเป็นผู้กำหนดราคาและเจรจาเรียกร้องการชำระเงินสำหรับยารักษาโรคต่างๆ อาทิ ยารักษาเนื้องอก ยายับยั้งการติดเชื้อ ยารักษาระบบทางเดินหายใจ ยารักษาข้อต่ออักเสบ และยาแก้ปวด

ในปีพ.ศ. 2546 ไฟเซอร์ส่ง ดร.อีเกิล ไปประจำการที่สหรัฐอเมริกาและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้นำทั่วโลกด้านการพัฒนายา Celecoxib เพื่อดูแลโครงการวิจัยทั่วโลก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาก็มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้นในการดูแลแผนการวิจัยและทีมงานทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับยา Irinotecan และ Dalteparin ในปีพ.ศ. 2550 เขาได้เป็นหัวหน้ากลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ทั่วโลกในด้านเนื้องอกวิทยาของไฟเซอร์ ซึ่งครอบคลุมถึงธุรกิจเนื้องอกวิทยาในสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้น ดร.อีเกิล ยังเป็นผู้นำหรือมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับทีมงานต่างๆ ซึ่งเป็นผู้คิดค้น 8 ผลิตภัณฑ์หรือสิ่งบ่งชี้ใหม่ สำหรับการดำรงตำแหน่งปัจจุบันกับไฟเซอร์ เขาต้องทำหน้าที่เป็นผู้นำธุรกิจเนื้องอกวิทยาซึ่งเกิดจากการรวมตัวของไฟเซอร์/ไวเอท (Pfizer/Wyeth)

“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ ดร.อีเกิล มาเป็นหนึ่งในสมาชิกอิสระของคณะกรรมการบริหารบริษัท” แรนดอลล์ แมคคอย (Randall McCoy) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของรีเจนิซิน กล่าว “ประสบการณ์ของเขาด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการผลักดันผลิตภัณฑ์ PermaDerm(TM) ให้ผ่านกระบวนการตรวจสอบและออกสู่ตลาดต่อไป เราเชื่อมั่นว่าประสบการณ์อันกว้างขวางของเขาด้านการสร้างความร่วมมือทางกลยุทธ์และการสร้างพันธมิตรจะช่วยชี้นำทางให้กับเราในการทำการตลาดผลิตภัณฑ์ PermaDerm(TM) ให้มีประสิทธิภาพที่สุดต่อไปในอนาคต”

ดร.อีเกิล กล่าวถึงการตัดสินใจรับตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการบริหารบริษัทรีเจนิซินว่า “บริษัทอย่างรีเจนิซินหาได้ยากยิ่ง เนื่องจากบริษัทเป็นเจ้าของเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงข้อมูลทางคลินิกที่น่าเชื่อถือ นอกจากนั้นยังมีทีมผลิตจากบริษัทลอนซ่า (Lonza) อยู่เบื้องหลัง และยังมีเงินลงทุนอีกหลายร้อยล้านดอลลาร์ ผมตื่นเต้นมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมบริหารซึ่งมีส่วนร่วมในขั้นตอนสุดท้ายในการผลักดันผลิตภัณฑ์สู่ตลาด ทั้งนี้ วิธีการใช้ผิวหนังของผู้ป่วยเองในการปลูกถ่ายช่วยแก้ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นกับวิธีอื่นๆ ได้เกือบทั้งหมด นอกจากนั้นยังช่วยรักษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยจำนวนนับไม่ถ้วนทั่วโลก”


เกี่ยวกับ รีเจนิซิน อิงค์

รีเจนิซิน อิงค์ เป็นบริษัทที่กำลังอยู่ในระยะการพัฒนาทางคลินิก ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาเนื้อเยื่อผิวหนังทดแทนแบบใหม่เพื่อฟื้นฟูสุขภาพผิวของมนุษย์ โดยรีเจนิซินเป็นบริษัทจดทะเบียนซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก ท่านสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเอกสารที่บริษัทยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ http://www.sec.gov


แหล่งข่าว: รีเจนิซิน อิงค์


ติดต่อ: เจย์ สเตรลล์ (Jay Strell)

บริษัท ซันไชน์, แซคส์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ (Sunshine, Sachs and Associates)

โทรศัพท์: +1-212-691-2800

อีเมล: [email protected]


--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net ) --