เปิดนโยบายบริหาร “แพน ราชเทวี กรุ๊ป (มหาชน)” เตรียมทีเด็ดชิงเค้กสองหมื่นล้าน!!!

30 Aug 2010

กรุงเทพฯ--30 ส.ค.--แพน ราชเทวี กรุ๊ป

เทรนด์การรักษารูปร่างหน้าตาและผิวพรรณมา ทำให้ระยะหลังโดยเฉพาะช่วง 4-5 ปีมานี้ มีสถานประกอบการประเภทคลินิกดูแลความงามผุดขึ้นมากมาย!!! เมื่อมีผู้เล่นในตลาดมาก การแข่งขันและกลยุทธ์ต่างๆ ก็เกิดขึ้นมากมายเป็นธรรมดา ทำให้ยุคนี้เปรียบเสมือนยุคทองของคนอยากสวยอยากงาม อีกทั้งยังเป็นโอกาสทองของเหล่าผู้ประกอบการทั้งหลายด้วย โดยตัวเลขประมาณการ ค่าบริการการรักษาอยู่ที่หมื่นล้าน ส่วนผลิตภัณฑ์คอสเมติกอีกหมื่นล้าน รวมมูลค่าตลาดเป็นเค้กก้อนใหญ่ให้แย่งชิงกว่าสองหมื่นล้านบาท!!

โดยกลยุทธ์ที่หลายค่ายนำมาใช้หนีไม่พ้น “สงครามราคา” สวนทางกับ บริษัท แพนราชเทวีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) พี่ใหญ่ในแวดวงความสวยความงาม ซึ่งเปิดให้บริการดูแลผิวคนไทยมากว่า 30 ปี ปัจจุบันดูแล แพนคลินิก และ ราชเทวีคลินิก รวมกว่า 120 สาขาในประเทศไทย ภายใต้การบริหารของ ศาตราภิชาน ดร.นพ.พิชิต สุวรรณประกร ประธานกรรมการ ผู้ซึ่งมีแนวคิดงานบริหารแบบยั่งยืนคือ เน้นที่คุณภาพการรักษาและพัฒนาผลงานวิชาการด้านการแพทย์ แนวทางการบริหารที่ผ่านมา?

“ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา เราได้วิเคราะห์และดูแลผิวพรรณของคนไทยและชาวเอเชียมาไม่น้อยกว่า ล้านราย ดังนั้น คำกล่าวที่ว่า ในปัจจุบัน ไม่มีใครเข้าใจลึกซึ้งถึงปัญหาผิวพรรณคนไทยและชาวเอเชียได้ดีเท่า กลุ่ม แพน ราชเทวี กรุ๊ป นั้นคงไม่เกินความจริง ยิ่งไปกว่านั้น ธุรกิจของกลุ่มแพน ราชเทวี กรุ๊ป ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ อาทิเช่น แพนคอสเมติก , แพนเดอมาแคร์ , เครื่องสำอางอิลีเซ่ , ไมนัส รวมทั้ง บริการดูแลปัญหาผิวพรรณ ภายใต้ แพนคลินิค และราชเทวีคลินิค ยังทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ด้วยทีมงานและบุคคลากรที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ แพน ราชเทวี กรุ๊ป ไม่เพียงแต่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีคณะแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านผิวพรรณกว่า 120 คนทั่วประเทศ พร้อมทีมพยาบาล และผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณกว่า 2000 คน คอยบริการดูแลอย่างใกล้ชิด ณ แพนคลินิก ราชเทวีคลินิค สถานบริการ และจุดขายต่างๆ รวมกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ นับได้ว่าสามารถให้บริการได้ครบวงจรมากที่สุดในกลุ่มประเทศแถบเอเชีย”

นอกจากมาตรฐานการรักษาแล้ว กลุ่มแพนราชเทวีคลินิก ยังจัดตั้งสถาบัน ไลออน สุพรรณหงส์ เพื่อให้ความรู้กับแพทย์ผิวหนังโดยเฉพาะ ขณะเดียวกันก็ได้ทำการศึกษาค้นคว้าวิจัยนวัตกรรมใหม่ๆ มาต่อยอดในการรักษา ล่าสุดได้เปิดตัว วิธีใหม่ในการรักษาดุลยภาพของผิวพรรณ โดยประยุกต์หลัก การสื่อสารของเซลล์ มาใช้ในการรักษา ภายใต้ความเชื่อเซลล์ของคนเราจะเริ่มเสื่อมถอยเมื่อเข้าสู่วัยแก่ กล่าวคือเริ่มต้นตั้งแต่ 30 ปี และเซลล์จะชัทดาวน์ตัวเองจนหมดสิ้นในวัย 60 ปี ดังนั้นการเริ่มรักษาดุลยภาพของเซลล์ จึงเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งการใช้ code blocker หรือ booster น่าจะเป็นตัวเลือกแรกในการนำมาใช้เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดโรคต่างๆ รวมถึงผู้ที่อยากมีผิวพรรณสวยงาม อ่อนกว่าวัย!!!

รายละเอียดด้านนวัตกรรมใหม่ ซึ่งเป็นทีเด็ดที่กลุ่มแพนราชเทวีกรุ๊ป ใช้เป็นจุดแข็ง??

“ความเจริญด้านวิทยาการการรักษาโดยเฉพาะเรื่องการสื่อสารของเซลล์ เกิดขึ้นมานานแล้วในต่างประเทศ ตามแนวคิดสิ่งมีชีวิตประกอบด้วยเซลล์จำนวนมาก มีการติดต่อประสานงานภายใต้การควบคุมของยีนส์ ต่อเมื่อเซลล์เกิดภาวะไม่ปกติหรือมีปัจจัยต่างๆ มาทำให้การทำงานบกพร่อง ไม่บรรลุประสิทธิผล สูญสลาย ทำให้ก่อเกิดปัญหาและโรคอื่นๆ ตามมา ซึ่งอนุมานได้ว่าแท้จริงแล้วเซลล์ป่วย เราไม่ได้ป่วย แนวทางการรักษาในอนาคตอันใกล้จึงเปลี่ยนไป จาก อินดิเพ็นเด้นท์ เบส เมดิซีน (Independent base medicine) กลายเป็น เซลลูล่าร์ เบส เมดิซีน (Cellular base medicine) หรือการมุ่งรักษาลงลึกไปถึงระดับการทำงานของเซลล์ ซึ่งมีข้อดีคือ 1.แก้ที่ต้นเหตุ 2.ไม่มีอันตราย 3.ไม่ส่งผลกระทบหรือรบกวนต่อสรีระวิทยา และ 4. รักษาแบบตรงจุด”

“แนวทางรักษาดุลยภาพของเซลล์ แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ 1. กลุ่ม code blocker หรือ เทคนิคในการระงับสัญญาณไม่ดี ที่ทำให้เกิดอาการ ผลที่ได้รับคือ ปรับเปลี่ยนการทำงานของเซลล์ที่มากขึ้นให้กลับสู่ภาวะปกติ, ปรับเปลี่ยนจำนวนของเซลล์ที่มากขึ้นให้กลับสู่ภาวะปกติ, ปรับรูปร่างหรือหน้าที่ของเซลล์ให้กลับมาสู่ปกติ, หยุดการตายของเซลล์ ใช้ได้ผลดีกับผู้ที่มีอาการเป็นฝ้า, กระ ฯลฯ 2. กลุ่ม code booster หรือ เทคนิคการเสริมสร้างสัญญาณที่ดี ให้ไปถึงเซลล์มากขึ้น เพื่อให้ทำงานสู่สภาพปกติ ทำได้โดยเพิ่มการทำหน้าที่หรือปริมาณของแต่ละเนื้อเยื่อ, ช่วยให้ระยะเวลาวงจรของเซลล์ต่างๆดีขึ้น, ช่วยเรื่องของ metabolism และลด catabolism ของเซลล์ผิวหนัง ใช้ได้ผลดีกับผู้ที่มีอาการ ด่างขาว,ริ้วรอยเหี่ยวย่น, สีผิวไม่สม่ำเสมอ ฯลฯ”

ตัวเลขมูลค่าตลาดรวม

ตัวเลขประมาณการ ค่าบริการการรักษาอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท ส่วนผลิตภัณฑ์คอสเมติกอีก10,000 ล้านบาท รวมมูลค่าตลาด 20,000 ล้านบาท

กลยุทธ์การตลาด

เน้นที่คุณภาพการรักษาและพัฒนาผลงานวิชาการด้านการแพทย์ ประสบการณ์ทางการให้บริการทางการแพทย์กว่า 30 ปี พร้อมนวัตกรรมการรักษาแบบใหม่ที่คิดค้นมากว่าสี่ปี นั่นคือ การรักษาดุลยภาพของผิวพรรณ โดยประยุกต์หลัก การสื่อสารของเซลล์ มาใช้ในการรักษา ภายใต้ความเชื่อเซลล์ของคนเราจะเริ่มเสื่อมถอยเมื่อเข้าสู่วัยแก่ กล่าวคือเริ่มต้นตั้งแต่ 30 ปี และเซลล์จะชัทดาวน์ตัวเองจนหมดสิ้นในวัย 60 ปี ดังนั้นการเริ่มรักษาดุลยภาพของเซลล์ จึงเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งการใช้ code blocker หรือ booster น่าจะเป็นตัวเลือกแรกในการนำมาใช้เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดโรคต่างๆ รวมถึงผู้ที่อยากมีผิวพรรณสวยงาม อ่อนกว่าวัย!!!

ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ

“ธุรกิจของกลุ่มแพน ราชเทวี กรุ๊ป ได้แก่ แพนคลินิก (ให้บริการการรักษา) ราชเทวีคลินิก (ให้บริการการรักษา) และผลิตภัณฑ์ อาทิเช่น แพนคอสเมติก , แพนเดอมาแคร์ , เครื่องสำอางอิลีเซ่ , ไมนัส ฯลฯ รายได้โดยรวม ปีที่แล้ว 2,000 ล้านบาท สัดส่วน แพนคลนิก 32 เปอร์เซนต์ ราชเทวีคลินิก 35 เปอร์เซนต์ ผลิตภัณฑ์ 33 เปอร์เซนต์ (ตัวเลขโดยประมาณการ)

ปัจจุบันมีคณะแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านผิวพรรณกว่า 120 คนทั่วประเทศ พร้อมทีมพยาบาล และผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณกว่า 2000 คน คอยบริการดูแลอย่างใกล้ชิด ณ แพนคลินิก ราชเทวีคลินิค สถานบริการ และจุดขายต่างๆ รวมกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ

ความคาดหวังและเป้าหมายต่อไป หลังได้รับรางวัล อย. ควอลิตี้ อวอร์ด 2010?

คาดว่ารางวัลที่ได้รับ รวมถึงนวัตกรรมใหม่ล่าสุด จะดึงกลุ่มลูกค้าและขยายกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามารับบริการเพิ่มมากขึ้น โดยฐานข้อมูลกลุ่มลูกค้าวัยเด็ก-วัยรุ่น เพิ่มมากขึ้น 20% จากเดิม วัยเด็ก-วัยรุ่น สัดส่วน 20 เปอร์เซนต์ วัยทำงาน 40 เปอร์เซนต์ วัยผู้ใหญ่ 40 เปอร์เซนต์ หลังได้รับรางวัลและเปิดตัวนวัตกรรมดังกล่าว ตั้งเป้าเพิ่มยอดราว 15-30 เปอร์เซนต์ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นไปตามเป้าเพราะขณะนี้ผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมายแล้ว

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net