กทม.จับมือ โตโยต้ามหานครร่วมรณรงค์สร้างสำนึกรักษ์ป่าชายเลนในคนรุ่นใหม่

16 Aug 2010

กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.

กทม. ร่วมกับ โตโยต้ามหานคร จัดโครงการปลูกต้นไม้เพื่อแม่ของแผ่นดิน “Together We Can : ร่วมสร้างมหานครสีเขียว ปลูกป่าชายเลน” รวมพลังวัยรุ่นไทยหัวใจสีเขียวร่วมปลูกต้นโกงกาง 20,000 ต้นในบริเวณป่าชายเลนบางขุนเทียน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และคืนสมดุลสู่ป่าชายเลน

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดโครงการปลูกต้นไม้เพื่อแม่ของแผ่นดิน “Together We Can : ร่วมสร้างมหานครสีเขียว ปลูกป่าชายเลน” ซึ่งกรุงเทพมหานคร ร่วมกับ บริษัท โตโยต้ามหานคร จำกัด จัดขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสมหามงคลที่สมเด็จนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 78 พรรษา ในวันที่12 สิงหาคม 2553 และเพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อมบริเวณชายฝั่งทะเลบางขุนเทียนให้มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาหาร แหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ และเป็นกำแพงธรรมชาติป้องกันการกัดเซาะของกระแสน้ำ โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ข้าราชการกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ เยาวชนจากค่ายเยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อม..ตามรอยแม่ และศิลปิน – ดารา อาทิ พอชท์-ศรัณย์ แซมมี-บัณฑิตา ชาม-ไอยวริญท์ ต่าย-ชัชฎาภรณ์ ร่วมกิจกรรม ณ โรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์ เขตบางขุนเทียน

ในโอกาสนี้ นายบุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ กรรมผู้จัดการบริษัท โตโยต้ามหานคร จำกัด ได้มอบกล้าไม้โกงกาง จำนวน 20,000 ต้น ให้กับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อมอบให้เยาวชนและผู้ร่วมกิจกรรมได้นำกล้าไม้โกงกางไปปลูกยังบริเวณพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ พร้อมทั้งทำพิธีเปิดค่ายเยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อม..ตามรอยแม่ ซึ่งนำเยาวชนจากโรงเรียนต่างๆ ในสังกัดกรมสามัญศึกษา จำนวน 250 คน มาเข้าค่ายพักแรมเพื่อเรียนรู้ธรรมชาติและระบบนิเวศป่าชายเลนที่พึงพาอาศัยกันอย่างสมดุล ได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการอยู่ร่วมกัน การทำงานเป็นทีม ร่วมกิจกรรมแรลลี่จักรยานจากบริเวณโรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์ไปยังพื้นที่ปลูกป่าชายเลนระยะทางประมาณ 200 เมตร เพื่อสร้างสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีป่าชายเลนเหลืออยู่ประมาณ 1.98 ตารางกิโลเมตร ซึ่งลดลงจากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 3,000 ตารางกิโลเมตร เนื่องจากการกัดเซาะของกระแสน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยปัญหาระดับน้ำที่สูงขึ้นนั้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลกไม่ใช่เฉพาะแต่ในประเทศไทยเท่านั้น การแก้ปัญหานั้นยังไม่มีวิธีการใดที่สามารถใช้ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ คงมีเพียงแต่การชะลอการกัดเซาะของกระแสน้ำเท่านั้น ดังนั้น การฟื้นฟูป่าชายเลนจึงถือเป็นภารกิจที่ทุกภาคส่วนต้องให้ความสำคัญ เพื่อเป็นการสนองแนวพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงห่วงใยผืนป่าชายเลนที่อยู่ในภาวะวิกฤต อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาความเสื่อมโทรมในทรัพยากรดินและน้ำ ปรับปรุงสภาพแวดล้อม และช่วยลดภาวะโลกร้อนด้วย