"ผลธัญญะ" ขยับอีกก้าว แตกบริษัทย่อย "พีดี เจเนซิส เอ็นจิเนียริ่ง" ลุยธุรกิจด้านรีไซเคิลน้ำ เต็มตัวหวังปั้นเป็นดาวรุ่งสร้างรายได้เพิ่มความแกร่งให้บริษัทฯ ในระยะยาว หลังพบเป็นธุรกิจใหม่ ที่สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐและเทรนด์ด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สนับสนุนให้รายได้มีทิศทางเติบโตแบบก้าวกระโดด "พรศักดิ์ ชุนหจินดา" CFO เผยถือเป็นการสานต่อนโยบายบริษัทฯ ที่มุ่งเป็นผู้นำการ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านอาชีวอนามัย ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมครบวงจร พร้อมส่งซิกปีนี้การจ้างงานฟื้นมีลุ้นผลงานเติบโตโดดเด่นเมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนแผนเข้าตลาดฯรอแค่ ก.ล.ต.ไฟเขียวไฟลิ่ง
นายพรศักดิ์ ชุนหจินดา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจด้านการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาชีวอนามัย ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมครบวงจรระดับ แนวหน้าของประเทศไทย เปิดเผยว่าขณะนี้บริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดการมลภาวะทางน้ำครบวงจร จัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท พีดี เจเนซิส เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม ประเภทจัดการมลภาวะทางน้ำอย่างเต็มตัว โดยผลธัญญะได้ถือหุ้นในบริษัทย่อยแห่งนี้ในสัดส่วนร้อยละ 60 ส่งผลให้ปัจจุบันผลธัญญะดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านอาชีวอนามัย ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมได้ครบวงจรยิ่งขึ้น
"ที่ผ่านมาธุรกิจหลักของผลธัญญะเกือบ 100% เป็นธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่ออาชีวอนามัย ความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน จนถือเป็นหนึ่งในผู้นำที่มีการจัดจำหน่ายสินค้าอย่างครบวงจร ภายใต้ตราสินค้าที่มีเชื่อเสียงกว่า 40 ตราสินค้า และมีสินค้าหลากหลายกว่า 3,000 รายการ มีลูกค้าอยู่ในมือมากกว่า 4,000 ราย ทั้งผู้แทนจำหน่ายและโรงงานอุตสาหกรรม ส่งผลให้ที่ผ่านมาธุรกิจเราเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงในระยะยาว และตามนโยบายของบริษัท ที่ต้องการเป็นผู้ประกอบธุรกิจด้านอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมครบวงจรเราจึงได้หาแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆด้านสิ่งแวดล้อมที่มีการเติบโตที่ดีเข้ามาเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างโดดเด่นและแข็งแกร่งในระยะยาว ส่วนที่เลือกธุรกิจรีไซเคิลน้ำเพราะอยู่ในกลุ่มธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของบริษัท ประกอบกับพันธมิตรที่เราร่วมทุนด้วยมีความรู้ความเชี่ยวชาญ ด้านจัดการมลภาวะทางน้ำอย่างครบวงจร ตั้งแต่สำรวจ ออกแบบ ผลิต ก่อสร้าง และติดตั้งระบบผลิตน้ำประปา ระบบบำบัด น้ำเสีย และระบบบำบัด น้ำเสียเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ที่ทันสมัยในปัจจุบัน ในขณะเดียวกันยังถือว่ามีข้อได้เปรียบด้านต้นทุน จึงถือเป็นองค์ประกอบที่ลงตัวที่สุดสำหรับการขยายธุรกิจในด้านนี้"
เขากล่าวอีกว่า บริษัท พีดี เจเนซิส เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด จะดำเนินธุรกิจบริการออกแบบ ผลิต ก่อสร้างและติดตั้งระบบบำบัดน้ำดีและน้ำเสีย ในขณะที่ผลธัญญะจะเป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งลงทุนในระบบบำบัดน้ำเพื่อติดตั้งในโรงงานอุตสาหกรรม โรงแรม โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้าและอาคาร สำนักงาน จากนั้นจะเป็นผู้ขายน้ำที่บำบัดได้คืนกลับไป โดยจุดเด่นของระบบบำบัดน้ำเสียของ บริษัทฯ คือ เน้นการบำบัดน้ำเสีย ให้สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ โดยไม่จำเป็นต้องปล่อยทิ้งลงคูคลองหรือแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งนอกจากจะประหยัดน้ำแล้ว ยังถือเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกทางหนึ่งด้วย และประการสำคัญยังพบว่าว่าต้นทุนที่ใช้ในกระบวนการบำบัดน้ำกลับมาใช้ใหม่ ด้วยระบบของ บริษัทฯ ยังถูกกว่าต้นทุนที่ใช้ในการบำบัดน้ำระบบเดิมที่มีการสูญเสียน้ำจากการบำบัดที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ ทำให้ไม่สามารถลดค่าน้ำที่ใช้ได้มากเท่าที่ควร และมีต้นทุนในการดำเนินการมากกว่าจึงเชื่อว่าระบบนี้จะได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการภายในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการขนาดใหญ่หลายรายสนใจระบบบำบัดน้ำเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ของบริษัทฯ แล้ว ทำให้เริ่มมีรายได้ตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2553 เป็นต้นไป และในปีหน้าจะได้รับรู้รายได้จากธุรกิจดังกล่าวเต็มปี
"ธุรกิจนี้นอกจากจะช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการแล้ว ยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการทั่วประเทศ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นธุรกิจดาวรุ่งที่สร้างรายได้อย่างชัดเจนในระยะยาว" นายพรศักดิ์กล่าวและว่า สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในปีนี้มีโอกาสเติบโตอย่างโดดเด่นไปในทิศทางเดียวกับการการจ้างงานในภาคอุตสาหกกรรมที่เริ่มขยายตัวอย่างชัดเจน เนื่องจากสินค้าในกลุ่ม ชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานจะเติบโตไปกับการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจ
ส่วนความคืบหน้าในการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาไฟลิ่งของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ โดยบริษัทฯ มีแผนจะขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 40 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 29.63 ของทุนที่เรียกชำระแล้ว ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนในครั้งนี้ โดยบริษัทฯ มีนโนยายจะนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นเพิ่มทุนไปใช้ลงทุน ในเครื่องจักรและอุปกรณ์ในการผลิตน้ำเพื่อจำหน่าย จำนวน 70 ล้านบาทในปี 2554 ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net